ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 390

ในขณะเดียวกัน ในห้องของหนานหว่านเยียน

หลังจากโม่หวิ่นหมิงกลับไปแล้ว หนานหว่านเยียนก็เรียกอวี๋เฟิงเข้ามา

ภายในห้อง เด็กหญิงทั้งสองยังคงนอนหลับอยู่ ทั้งสองจึงตั้งใจลดเสียงลง

“วันนี้มือสังหารมาที่จวนอ๋อง เสิ่นอี่ว์ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าไม่ได้ยินความเคลื่อนไหวอะไรเลยหรือ? หรือก็ไม่ก็อะไรที่ไม่ปกติ?” หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว มองอวี๋เฟิงด้วยแววตาเคร่งขรึมเย็นชา

ทันทีที่อวี๋เฟิงรู้ว่าเสิ่นอี่ว์ได้รับบาดเจ็บก็ตกใจมากเหมือนกัน

เขากัดริมฝีปาก ส่ายหน้าอย่างว่างเปล่า แต่ความโกรธแค้นกลับปรากฏขึ้นในดวงตา

“ใช่ ข้าน้อยไม่ได้ยินอะไรเลยจริงๆ ต่อมามีองครักษ์อีกคนมาบอกว่ามีมือสังหารมาที่เรือนจู๋หลาน ข้าน้อยถึงทราบเรื่อง ข้าน้อยถามพวกเขา พวกเขาก็เพิ่งทราบเรื่องไม่นานเหมือนกัน”

ในเรือนของหยุนอี่ว์โหรว มือสังหาร เสิ่นอี่ว์…หนานหว่านเยียนยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา

แต่หยุนอี่ว์โหรวเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วยังเป็นคนที่ไม่มีทักษะการต่อสู้อีก ไม่มีทางทำร้ายเสิ่นอี่ว์ที่มีทักษะการต่อสู้สูงได้ โดยเฉพาะบาดแผลที่ศีรษะของเสิ่นอี่ว์ มันเห็นได้ชัดว่าเป็นการกระแทกจากกำลังของผู้ชายเท่านั้น

คนคนนี้ควรจะสูงพอๆ กับเสิ่นอี่ว์หรือสูงกว่านิดหน่อย ไม่อย่างนั้นคงไม่จับศีรษะของเสิ่นอี่ว์ได้ง่ายๆ แบบนี้

“เจ้ารู้ไหมว่า ใครเป็นพบมือสังหารเป็นคนแรก?”

ขณะที่อวี๋เฟิงกำลังจะส่ายหน้า จู่ๆ ก็นึกอะไรออกได้บางอย่าง “ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพบคนแรก แต่องครักษ์พวกนั้นบอกว่า พวกเขารีบเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากพ่อบ้านกาว”

“แต่ในตอนนั้น องครักษ์เสิ่นได้รับบาดเจ็บสาหัสล้มลงกับพื้นแล้ว”

พ่อบ้านกาว?

หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว เม้มปากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เอวี๋เฟิง ขอข้าถามเจ้าอีกหนึ่งคำถาม การที่มือสังหารฆ่าคน ในมือมีมีด แต่กลับโจมตีที่ศีรษะอย่างรุนแรงแทน ทำไมล่ะ?”

อวี๋เฟิงขมวดคิ้ว เริ่มรู้สึกสงสัย

“ข้าน้อยไม่เคยได้ยินเรื่องมือสังหารแบบนี้มาก่อน หากต้องการฆ่าคนคนหนึ่ง ก็แค่ใช้มีดในมือปาดคอก็เรียบร้อย แต่กลับเลือกตีที่หัว บางทีอาจจะไม่อยากให้คนคนนั้นตื่น หรือไม่ก็กลายเป็นคนปัญญาอ่อนไป?”

เหมือนอย่างที่นางคิด

คนคนนี้โจมตีจากด้านหลัง เลือกโจมตีที่ศีรษะของเสิ่นอี่ว์โดยเฉพาะ มันไม่สมเหตุสมผลเลย

จิตใจของหนานหว่านเยียนค่อยๆ ดำดิ่งลงเรื่อยๆ สักพักจึงพูดต่อ “ช่วงนี้เจ้าช่วยข้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของทางฝั่งหยุนอี่ว์โหรวให้ดี แล้วจับตาดูพ่อบ้านกาวด้วย”

อวี๋เฟิงเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ มองไปยังหนานหว่านเยียน

ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างรู้ใจ ค่อยๆ ลุกจากเตียงอย่างระมัดระวัง แต่งตัวให้เรียบร้อย

ขณะที่สองพี่น้องกำลังจะเอื้อมมือไปผลักประตู ก็ได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างจนปัญญาของเซียงเหลียนดังมาจากประตู

“ข้าเป็นห่วงว่าหากพระชายาและท่านอ๋องยังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าการคืนดีกันจะเป็นอนาคตที่ยังมองไม่เห็น…”

เซียงอวี้กล่าวเสริมด้วยความโกรธ “เจ้าว่าทำไมท่านอ๋องถึงขอให้พระชายาช่วยชีวิตหยุนอี่ว์โหรว ต่อให้หมอประจำจวนจะช่วยนางไม่ได้ แต่ท่านอ๋องก็สามารถไปตามหมอหลวงในวังได้”

“พระชายาไม่ถูกกับสตรีผู้นั้นอยู่เป็นทุนเดิมมา ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างท่านอ๋องและพระชายาได้ผ่อนคลายลงบ้างแล้ว หยุนอี่ว์โหรวผู้นี้ก็มาช่วยชีวิตท่านอ๋องไว้อีก เข้ามายืนอยู่ตรงกลางระหว่างท่านอ๋องและพระชายาได้สำเร็จ ช่างโชคร้ายจริงๆ!”

เมื่อคืนท่านลุงกู้ขอให้ท่านแม่ช่วยคนเลวคนนั้นหรือ?!

ข่าวนี้เหมือนมีสายฟ้าฟาดใส่เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อย

เด็กหญิงทั้งสองยืนนิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ

“เฮ้ย! ข้ายังคิดว่าเขากลับตัวกลับใจแล้วจริงๆ ต้องการทำดีกับท่านแม่ แต่สุดท้ายไม่นึกเลยว่าคนเลวก็ยังเป็นคนเลวอยู่วันยังค่ำ!” เกี๊ยวน้อยกำหมัดแน่นด้วยความโมโห ใบหน้างอนตุ๊บป่องสั่นระริกด้วยความโกรธ

เขาทำลายความเชื่อมั่นของนางได้อย่างไร?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้