สายตากู้โม่หานหรี่ลงซ่อนความดุร้าย รอบกายแผ่ไอเย็นเขย่าขวัญ แต่เขายังคงนิ่งเฉย จ้องมองทุกการเคลื่อนไหวของจวนกั๋วกง
“รอดูก่อน”
อวี๋เฟิงร้อนรน ทำไมวันนี้ท่านอ๋องถึงสงบนิ่งเช่นนี้
หรือท่านอ๋องคิดว่าพระชายาแก้ไขเรื่องนี้เองได้
แต่เมื่อก่อนพระชายาเป็นคนไร้ประโยชน์จริง ถูกคุมขังในเรือนเย็นห้าปี ตอนนี้มีความรู้มากมาย แต่นอกจากคนในจวนที่เป็นพยานได้ ใครยังจะเชื่อพระชายาอีก
คุณชายจางนั้นถูกฮูหยินกั๋วกงเชิญมา ต้องมีความสามารถแน่ ทุกคนคงเชื่อเขาแน่นอน!
และเซียงอวี้กับหยุนเหิงแทบจะคลั่งแล้ว มองทางหนานหว่านเยียน “พระชายา...”
หนานหว่านเยียนสงบนิ่งมาก มองทางคุณชายชุดม่วง
คุณชายจางผู้นี้น่าสนใจจริงๆ จดชวเลขก็เก่งขนาดนั้น เซียงอวี้เพิ่งแค่ครั้งเดียว ไม่คิดว่าเขาจะจำทั้งหมดได้ ทั้งเข้าใจความหมาย และท่วงทำนองของคำด้วย
แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะกล้าพูดโอ้อวดอย่างไม่รู้สึกกระดากอาย ว่าเขาเป็นคนแต่งบทกวีของซูซื่อผู้ยิ่งใหญ่
คนที่ไร้ยางอายเช่นนี้ นางเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก ขนาดนางยังไม่กล้าบอกว่านางเป็นคนเขียนเลย เพราะงั้นจึงจงใจลงนามนักกวีไว้ตอนท้ายของแต่ละบทกวี
แต่เขาเอ่ยโดยตรงว่าทั้งหมดนี่คือผลงานที่ยากลำบากของเขา ทั้งฉวยโอกาสรังแกนาง ด่าทอนาง ไร้ยางอายเกินไปแล้ว!
“เจ้ากล่าวว่าข้าลอกงานเจ้า ข้าว่าเจ้าปั้นน้ำเป็นตัว เถียงข้างๆ คูๆ!”
คุณชายจางโกรธจนเลือดขึ้นหน้า “พระชายา วันนี้ฮูหยินกั๋วกงอยู่ที่นี่ ทั้งปัญญาชนผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนมากมายต่างกำลังมองดูอยู่ ท่านอย่าได้สำบัดสำนวนอีกเลย มันน่าละอายจริงๆ ข้าจะพูดอีกครั้ง นี่คืองานชิ้นเอกที่ข้าเขียนมาอย่างยากลำบาก ท่านไม่เพียงแต่ชี้แจงที่มาไม่ได้ ยังเพิ่มนามแฝง ‘ซูซื่อ’ อะไรนั้นส่งเดชฉีกหน้าข้าอีก ช่างเป็นสิ่งน่าอับอายของปัญญาชน!”
ทันใดนั้น คนอีกครึ่งหนึ่งก็แตกฮื่ออีกครั้ง
ฮูหยินเฉิงเซี่ยงกับหนานชิงชิงเห็นสายตาของผู้คนต่างดูแคลนหนานหว่านเยียน ส่งเสียงซุบซิบรังเกียจต่างๆ นานา ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาไม่น้อย
เหอะ ต่อให้หนานหว่านเยียนจะมีความสามารถจริงๆ ก็ไม่มีใครเชื่อถือ เพราะชื่อเสียงของนางแย่เกินไปไง!
และพวกนาง ก็ไม่มีทางให้หนานหว่านเยียนได้หน้าได้ตา โด่งดังไปทั่วแน่!
เยี่ยมมาก คุณชายจางผู้มีตาหามีแววไม่มาจากไหน ถึงกล้ากล่าวว่านามของซูซื่อผู้ยิ่งใหญ่เป็นการดูถูกเขา?
วันนี้นางจะต้องใช้พลังอำนาจของเหล่าบุคคลสำคัญให้เป็นประโยชน์ แฉกลโกงของเขา ช่วยล้างแค้นให้เหล่าบุคคลสำคัญกับตนเอง!
หนานหว่านเยียนเย้ยหยัน นัยน์ตาสุกสกาวประกายแววเย็นชา
“ในเมื่อเจ้ากล่าวว่าข้าลอกเจ้า งั้นตอนนี้ เจ้าสุ่มกำหนดหัวข้อที่เจ้าไม่เคยเขียนสักอัน แข่งแต่งบทกวีกับข้าสักรอบ ข้าจะให้เจ้าแต่งก่อน เพื่อไม่ให้เจ้าพูดใส่ร้ายว่าข้าลอกอีก”
คุณชายจางก็ไม่อ่อนข้อ “ข้าน้อยรับคำท้า!”
การแต่งบทกวีสด ยกเว้นอ๋องเจ็ดกับหนานชิงชิงที่สู้ไม่ได้ ก็ไม่มีคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อแล้ว
แต่คนคนนั้นบอกว่า ชื่อเสียงหนานหว่านเยียนไม่ดี ต่อให้ทำผลงาน ออกมาได้ดี เพียงแค่มีคนใส่ร้าย ก็ไม่มีใครเชื่อว่านางมีพรสวรรค์จริงๆ
และผลงานชิ้นเอกที่เขียนนาง ก็กลายเป็นของเขาทั้งหมด! เขาจะต้องโด่งดังไป ได้รับความสนใจ!
เขามองไปรอบๆ ทันใดนั้นก็ชี้ไปที่หนึ่งเอ่ยว่า “งั้นก็ใช้กลุ่มผีเสื้อสองสามตัวในเรือนนี้ เป็นหัวข้อ”
“งั้นก็เชิญคุณชายจางเริ่มเถอะ” หนานหว่านเยียนหัวเราะเยาะ นัยน์ตานิ่งสงบ
ขณะนั้น ความสนใจของทุกคนต่างพลุ่งพล่าน
กระทั่งบทกวีทั้งสิบเสร็จสิ้น ทั้งจวนกั๋วกงตกอยู่ในความเงียบสนิท
สิบบทกวีในอึดใจเดียว ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูปด้วยซ้ำ แต่ละบทล้วนสอดคล้องกับหัวข้อ และเป็นบทกวีดี นี่! นี่มัน! นี่มันแทบเป็นการปลิดชีพคุณชายจางเลยนะ!
แม้แต่หนานชิงชิงก็หมดคำจะพูด สีหน้าตะลึงงัน
ทันใดนั้น เสียงเยินยอดังสนั่นจากหลังเรือน
“พระชายาอี้ช่างเป็นปราชญ์กวีมาโปรดจริงๆ! ไม่ว่าท่วงทำนอง เสียงสัมผัส ล้วนสูสีกับสิบบทกวีเมื่อครู่นั้น!”
“ทั้งยังใช้เวลา คิดเร็วกว่าเมื่อครู่ไม่น้อย! มันใช่เรื่องที่มนุษย์สามารถทำได้จริงหรือ”
“สุดยอดมาก สุดยอดมากๆ! ทั้งระดับ และฝีมือด้านวรรณกรรม ข้าเลื่อมใสพระชายาอี้จริงๆ เลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่ง!”
หนานหว่านเยียนไม่สนใจคำเยินยอของคนรอบข้าง จ้องมองคุณชายจาง “เป็นอย่างไร ข้างในนั้น มีบทกวีของเจ้ากับสหายร่วมเรียนของเจ้าหรือไม่”
คุณชายจางอ้าปากหวอด้วยความตกใจ หนานหว่านเยียนมีความสามารถ แต่งบทกวีสด! สิบบทติด! ใครมันจะทำได้กัน? !
แม้แต่อ๋องเจ็ดกับหนานชิงชิงก็ทำไม่ได้!
ยังจะกล้าพูดว่าผลงานของนางเป็นของเขาได้อย่างไร เขาเอาหน้ามาจากไหนกัน
จู่ๆ เขาก็หน้าแดงด้วยความอับอาย “ข้าน้อย...”
หยุนเหิงชี้ทางคุณชายจางเอ่ยว่า “เจ้ามันคนไร้ยางอาย เจ้าอย่าได้บอกว่านี่ก็เป็นเจ้าแต่งล่ะ แล้วทำไมเมื่อครู่เจ้าไม่แต่ง เห็นได้ชัดว่าเจ้ากำลังรังแกพระชายา! แล้วตระกูลนักปราชญ์หลายชั่วอายุคนอะไรนั้น หรือการเลี้ยงดูของพวกเจ้าคือการใส่ร้ายป้ายสีคน!”
เซียงอวี้ด่าทออย่างเห็นพ้องต้องกัน “จริงด้วย! เจ้าใส่ร้ายพระชายาเช่นนี้ คิดจะทำอะไรกันแน่...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ อยากรู้ว่านางเอกจะใจอ่อนยอมยกโทษให้กู้โม่หานหรือเปล่า...
ฉันว่า ถ้าไม่ติดว่ามีไทเฮาคอยดูหนุนหลังรักและเอ็นดูนางเอก ป่านนี้น่าจะโดนกู้โม่หาน ทรมานจนตายล่ะ...
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...