เซียงอวี้เห็นอวี๋เฟิงเป็นแบบนี้ ในใจก็รู้สึกไม่ดี
“ไม่ว่ายังไงพ่อบ้านกาว ก็เป็นคนเฒ่าคนแก่อยู่ในจวนอ๋องมา 10 กว่าปี และที่ผ่านมานี้ท่านอ๋องก็เห็นเขาเป็นผู้ช่วยมือซ้ายขวาคนสำคัญ เชื่อและไว้ใจอย่างที่สุด ใครจะไปคิดว่าบ่าวที่จงรักภักดีคนหนึ่งแบบนี้ สุดท้ายแล้ว กลับเป็นไส้ศึกของคนอื่น”
“เอ๋ หยีเฟยเหนียงเหนียงเป็นองค์หญิงแคว้นต้าเซี่ย หากพ่อบ้านเป็นคนแคว้นต้าเซี่ยจริงๆ ก็ไม่น่าที่จะหักหลังท่านอ๋องแบบนี้ เพราะยังไงในตัวท่านอ๋อง ก็มีเลือดของแคว้นต้าเซี่ยครึ่งหนึ่ง”
สายตาโม่หลีสั่นไหว โม่หวิ่นหมิงมองดูเขา แล้วก็มองดูอวี๋เฟิงกับเซียงอวี้ที่โกรธโมโห พร้อมพูดขึ้นว่า “บางทีอาจจะมีความนัยแอบแฝง ทั้งสองอย่าโกรธโมโหเลย”
เซียงอวี้กับอวี๋เฟิงผงกหัว แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก
พวกเขาก็แค่รู้สึกไม่เป็นธรรมกับกู้โม่หานเท่านั้นเอง แต่นายท่านที่พวกเขาต้องดูแลปกป้องคือหนานหว่านเยียนกับเสี่ยวจวิ้นจู่ทั้งสอง ความปลอดภัยของพวกนางสำคัญที่สุด.....
ภายในจวนอี้อ๋อง ข่าวของพ่อบ้านกาวแม้ว่าจะสร้างความโกลาหลอยู่สักพัก แต่บรรยากาศดูอึดอัดน้อสู้ภายในวังไม่ได้
รถม้าจอดอยู่ด้านนอกประตูพระราชวัง หนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานก็ตามเฟิ่งกงกง มาถึงตำหนักหย่างซิน
หนานหว่านเยียนเดินอยู่ด้านข้างกู้โม่หาน เมื่อหันมองไป ในห้องโถง นอกจากเหล่าขุนนาง เฉิงอ๋องกับท่านอ๋องเจ็ดแล้ว ชี่กุ้ยเฟยก็อยู่ด้วย
ส่วนกู้จิ่งซานนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร ท่าทางภูมิฐานสง่างาม ราวกับผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร
สายตาหนานหว่านเยียนกะพริบเล็กน้อย ครั้งนี้มีคนมากมายขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการให้เป็นเรื่องใหญ่
นางชักสายตากลับมา เดินเข้าไปถวายบังคมกู้จิ่งซานพร้อมกับกู้โม่หาน “ลูก ถวายบังคมเสด็จพ่อ”
“เชอะ” กู้จิ่งซานตบที่วางมือบนเก้าอี้มังกรแล้วลุกขึ้นมา เสียงไม่สูง สะท้อนอยู่ในตำหนักหย่างซิน แลดูเยือกเย็นอย่างผิดปกติ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าหก เรื่องลอบฆ่าในทะเลสาบเนี่ยวันนั้น เจ้ามีอะไรต้องรายงานข้าไหม?”
พูดเสร็จ ชี่กุ้ยเฟยยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่มอย่างเชื่องช้า สายตามองดูอ๋องเจ็ดแวบหนึ่ง
ส่วนกู้โม่หลิง ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
สายตากู้โม่หานมัวหมองลง พร้อมพูดขึ้นว่า “เรียนเสด็จพ่อ นักฆ่าที่พบตอนทัวร์ทะเลสาบวันนั้น ลูกสืบรู้แล้ว ล้วนมาจากสำนักอู๋หยิ่ง หลายวันมานี้ ค่ายเสินเชื่อกำลังกวาดล้างอำนาจของสำนักอู๋หยิ่ง รอจับตัวคนได้แล้ว....”
“รอจับได้ รอจับได้ จะต้องรอถึงเมื่อไหร่?” กู้จิ่งซานพูดแทรกคำพูดของเขา พร้อมพูดขึ้นยังโกรธโมโหว่า “ในฐานะที่เจ้าเป็นถึงไท่จื่อ เจ้าทำงานแบบนี้หรือ? ข้าว่าเจ้ายังไม่รู้ตัวว่าตนเองทำอะไรผิด”
“เจ้ารู้ไหมว่าคนที่อยู่บนเรือในวันนั้นไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นองค์ชายองค์หญิงของแคว้นเทียนเซิ่ง ผิงซวนอ๋องกลับแคว้นเทียนเซิ่งในครั้งนี้ ก็จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นไท่จื่อ กลายเป็นไท่จื่อของแคว้นเทียนเซิ่ง หากวันนั้นเขาเป็นอะไรไป เจ้าจะรับผิดชอบไหวได้อย่างไร?”
หนานหว่านเยียนฟังกู้จิ่งซานพูดเช่นนี้ สายตามัวหมองลง
กู้โม่หานขมวดคิ้วเล็กน้อย ความเยือกเย็นในใจยิ่งไร้ขีดจำกัด
ดวงตาอันล้ำลึกของเขาไม่มีใครรู้ว่าคิดอะไรอยู่ เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงถ่อมตนว่า “เรียนเสด็จพ่อ ลูกรู้ตัวเองว่ามีความละเลยไปบ้าง แต่ก่อนที่จะไปยังทะเลสาบเนี่ย ลูกได้สั่งคนปิดล้อมป่าเขารอบด้านแล้ว ค่ายเสินเชื่อกับองครักษ์รักษาพระองค์ ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร”
“คนของสำนักอู๋หยิ่งพวกนั้นสามารถแทรกตัวเข้ามาได้ คิดว่าเบื้องหลังคงมีผู้บงการที่เราคิดไม่ถึง ถึงได้กล้าบุกมาลอบฆ่าราชวงศ์แบบนี้”
เรื่องลอบฆ่า ฉินอี้หรานสองพี่น้องยังไม่เดือดร้อนอย่างมากมาย ฮ่องเต้กลับบีบคั้นขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่า อยากบีบให้กู้โม่หานยอมสละตำแหน่ง
กู้โม่หานคาดเดาไม่ผิด ฮ่องเต้ชั่วคนนี้ เพื่อไม่ให้นางกับกู้โม่หานได้เป็นไท่จื่อกับไท่จื่อเฟย สร้างเรื่องและแสดงได้ดีจริงๆ
ป้ายคำสั่งเสวียนอู่นั่น เป็นหลักฐานที่ดีที่สุด
แต่พวกเขาไม่สามารถเอาป้ายคำสั่งเสวียนอู่ออกมาเป็นหลักฐานได้ มีใครจับโจรแล้วมาจากท่านนายของตนเอง นี่ไม่ใช่สังคมนิติธรรม ที่ทุกคนเท่าเทียมกัน
นางเองก็คิดไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมกู้จิ่งซานถึงทำกับกู้โม่หาน ทำกับลูกชายแท้ๆของตนเองถึงขนาดนี้ เพียงเพื่ออำนาจหรือ?
นางระงับความโกรธโมโหไว้ในใจ แล้วหันไปพูดกับกู้จิ่งซาน
“เสด็จพ่อ วันที่ถูกลอบฆ่าในทะเลสาบเนี่ย ลูกก็อยู่ในเหตุการณ์ ตอนนั้นพวกนักฆ่าโผล่ออกมาอย่างกะทันหัน แต่ท่านอ๋องก็ไม่ได้หวั่นเกรงอันตราย ปกป้องทูตที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้เป็นอย่างดี หากท่านจะปลดท่านอ๋องออกจากตำแหน่งไท่จื่อ เพียงเพราะเรื่องนี้จริงๆ อยากขอเรียนถามเสด็จพ่อว่า พวกประชาชนแคว้นซีเหย่จะคิดยังไง พวกเหล่าขุนนางแคว้นเทียนเซิ่งจะเห็นว่าอย่างไร? เป็นการกระทำที่บุ่มบ่ามเกินไปไหม?”
“ข้าให้เจ้าพูดแล้วหรือ?” กู้จิ่งซานโยนถ้วยน้ำชาข้างมือไปตรงหน้าหนานหว่านเยียนอย่างรุนแรง
เขาจับจ้องมองหนานหว่านเยียน อำนาจกดขี่นั้น ทำให้ทุกคนแทบหายใจไม่ออก “พระชายาอี้ อย่าคิดว่าเจ้าก็ไม่มีความผิด”
“วันนั้นตอนที่เจ้าทำการรักษาให้กับองค์หญิงฮันเฉิง สิ่งที่เจ้าคิด ข้ารู้ดีแก่ใจ พวกเจ้าทั้งสองคน ล้วนมีความผิด.....”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ อยากรู้ว่านางเอกจะใจอ่อนยอมยกโทษให้กู้โม่หานหรือเปล่า...
ฉันว่า ถ้าไม่ติดว่ามีไทเฮาคอยดูหนุนหลังรักและเอ็นดูนางเอก ป่านนี้น่าจะโดนกู้โม่หาน ทรมานจนตายล่ะ...
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...