หนานหว่านเยียนมองดูกู้โม่หานอย่างสงสัยแวบหนึ่ง เขาเป็นถึงเทพสงคราม ยังต้องให้นางให้กำลังใจยังไง?
คิดอยู่แบบนี้ แต่นางก็ยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน พร้อมพูดกับเขาว่า
“เกี๊ยวน้อยของข้ายังสามารถยิงแม่นเหมือนจับวาง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงท่านอ๋อง ท่านอ๋องจะต้องได้ชัยชนะอย่างแน่นอน ต้องได้อันดับหนึ่งแน่”
กู้โม่หานจับจ้องมองใบหน้ายิ้มแย้มดั่งดอกไม้บานของหนานหว่านเยียนอย่างลึกซึ้ง ก้มหน้าไปใกล้นาง หนานหว่านเยียนหลบอย่างไม่รู้ตัว พร้อมจ้องมองดูเขาอย่างสงสัย
ชายหนุ่มเพียงแค่ลังเลสักพัก จากนั้นริมฝีปากอันร้อนรุ่มก็จูบบนริมฝีปากของนาง หนานหว่านเยียนนิ่งอึ้ง เบิกตากลมโตมองดูเขา
กู้โม่หานกำลังทำอะไร?
ทำไมเขาถึงจูบนางต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้?
กู้โม่หานลูบผมของนางอย่างอ่อนโยนเป็นธรรมชาติ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เกี๊ยวน้อยของเจ้า เป็นเกี๊ยวน้อยของเรา”
พูดเสร็จ เขาขยับไปใกล้หูของนาง พร้อมกระซิบพูดขึ้นว่า “เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะเอาใจคนอื่นบ้าง เรียนแบบภรรยาเจ้าสิบ ดูพวกเขารักกันมากแค่ไหน เราห่างไกลกันขนาดนี้ ดูก็รู้ว่าปลอม”
สายตาหนานหว่านเยียนหันไปมองทางด้านองค์ชายสิบกับพระชายาสิบ และก็เห็นตัวติดกัน กอดกันไว้ไม่ยอมปล่อย
นางจึงค่อยสงบจิตใจได้ไม่น้อย
เห็นแบบนี้แล้ว กู้โม่หานช่างละเอียดอ่อนจริงๆ กระทำได้อย่างสมเหตุสมผลมีหลักฐาน เป็นยอดนักแสดงโดยกำเนิดจริงๆ แต่ทำไมนางรู้สึกค่อนข้างผิดปกติ?
แต่หนานหว่านเยียนก็ครุ่นคิดไม่นาน
“ข้าคิดไม่รอบคอบกว่าท่าน” นางหันไปยิ้มหัวเราะให้เขา ตั้งใจจัดคอเสื้อให้กับเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋องรีบไปลงแข่งขันเถอะ ข้าคอยให้กำลังใจอยู่ด้านข้าง”
กู้โม่หานพอใจมาก แล้วก็ยอมปล่อยนางไป
หนานหว่านเยียนหันเดินจากไป ค่อยพบว่ามีสายตาหญิงสาวมากมาย ต่างหันมามองนางด้วยสายตาอิจฉา
หนึ่งในนั้น สายตาฉินมู่ไป๋แลดูร้อนรุ่มไม่พอใจ
หนานหว่านเยียนทำเป็นมองไม่เห็น
และนางไม่รู้ หนานชิงชิงยืนมองดูนางกับฉินมู่ไป๋อยู่ไม่ไกล มุมปากกระตุกยิ้มเยือกเย็น อย่างมีความหมายลึกซึ้ง
เวลานี้ การแข่งขันรอบแรกเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ทุกคนทำตามความประสงค์และลำดับของตนเอง....เดินไปยิงธนู
กู้โม่หลิงกับกู้โม่เฟิงเริ่มก่อน สองคน คนหนึ่งอ่อน คนหนึ่งแข็งแกร่ง คนหนึ่งบุ๋น คนหนึ่งบู๊ ความแตกต่างของขนาดร่างกายนั้นก็เริ่มเห็นอย่างชัดเจนแล้ว
“เจ้าเจ็ด” กู้โม่เฟิงถือคันธนูไว้ในมือ พร้อมหันไปบอกกู้โม่หลิง
กู้โม่หลิงก็ยิ้มแย้มอย่างไร้พิษภัย พร้อมพูดขึ้นว่า “ปกติน้องไม่ชำนาญการยิงธนู ขอพี่สามอย่าหัวเราะเย้ยน้อง”
กู้โม่เฟิงมองดูเขาแวบหนึ่ง แล้วก็ไม่พูดอะไรมาก ดึงสายธนูพร้อมลูกศร หรี่ตาลง จ้องมองไปที่ตรงกลางเป้า
วินาทีต่อมา ลูกศรหลุดออกจากคันธนู เสียบตรงไปยังพื้นที่เกินสี่นิ้วของเป้า
ทันใดนั้น ผู้คนต่างพากันร้องพูดขึ้นมาว่า “ฝีมือการยิงธนูของเฉิงอ๋องนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ”
“สามารถได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพค่ายเสินเชื่อมานานหลายปี ฝีมือต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว”
“ไม่รู้ว่าวันนี้ท่านอ๋องเจ็ดจะเป็นอย่างไรบ้าง เทียบกับเฉิงอ๋องแล้ว เกรงว่า....”
เพิ่งพูดเสร็จ สายตาของทุกคน ต่างหันไปมองกู้โม่หลิง
เห็นกู้โม่หลิงถือคันธนูอยู่อย่างไม่ชำนาญ หรี่ตาลงข้างหนึ่ง มองตรงไปยังตรงกลางเป้า
เสียง “ฮู้” ดังขึ้น ลูกศรออกจากคันธนู แต่ไม่ได้พุ่งลงพื้นเหมือนอย่างที่ทุกคนคาดไว้ กลับยิงเสียบเข้าที่เป้าหมายอย่างแน่นหนาแทน
“ฝีมือการยิงธนูของท่านอ๋องเจ็ดก็ดีขนาดนี้เลยหรือ?”
“สามารถสู้กับเฉิงอ๋องได้?”
เกิดเสียงแห่งความโกลาหลขึ้น กู้โม่เฟิงเอียงหัวมองดูกู้โม่หลิงที่ตกตะลึง พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “เห็นทีเจ้าเจ็ดถ่อมตนอย่างมาก มีฝีมือยิงธนูได้ไม่เลวแท้ๆ”
เสียง “ซี๊ด” ดังขึ้น แทงตรงกลางเป้าสีแดง ไม่บิดเบี้ยวแม้เพียงนิด
ทันใดนั้น ทุกคนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา ท่าทีตกตะลึงอย่างมาก
“ไม่เสียแรงที่เป็นถึงผิงซวนอ๋อง เทพสงครามของแคว้นเทียนเซิ่ง ฝีมือนี้ยอดเยี่ยมอย่างมาก เก่งกาจมากจริงๆ”
“ ซีเหย่มีกู้โม่หาน เทียนเซิ่งมีฉินอี้หราน ล้วนเป็นชื่อเทียบเท่าเตี้ยนเซี่ย เก่งมากจริงๆ ไม่รู้ว่าฝีมือไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยจะเป็นอย่างไรบ้าง”
ผู้คนรอบข้างพูดเสียงดังวุ่นวาย ฉินอี้หรานไม่สนใจเลย ฝีมือการต่อสู้ของเขาไม่ด้อย เพียงแค่ยิงธนูมีอะไรยาก ยิงถูกเป้านั้นยิ่งเป็นเรื่องปกติ
เขาหันไปมองดูกู้โม่หานที่อยู่ด้านข้าง มุมปากกระตุกยิ้ม
“ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย ถึงทีเจ้าแล้ว”
กู้โม่หานมองดูลูกศรที่ฉินอี้หรานยิงไป มีแสงเย็นวาบอยู่ในรูม่านตาสีดำลึก
เขาค่อยๆยกมือขึ้นมา นิ้วเรียวกำคันธนูไว้แน่น ดวงตาคู่ดั่งนกฟีนิกซ์ที่ขนตางอนยาว หรี่แคบลงจ้องมองไปที่ลูกศรของฉินอี้หราน แล้วดังสายธนู
เสียง “ฮู้” ดังขึ้น ลูกศรขนนกส่องแสงระยิบระยับพุ่งทะลุอากาศพร้อมกับเสียงคำราม พุ่งถึงไหนก็แหลกราบไปถึงนั่น พุ่งผ่าลูกศรฉินอี้หรานที่เสียบอยู่ตรงเป้า
ความแข็งแกร่งของลูกศรยาว แยกลูกศรขนนกออกเป็นสองส่วนโดยตรง อย่างเป็นระเบียบ
ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็อึ้ง มองดูอยู่อย่างตกตะลึงตาค้าง ในใจเหมือนดั่งมีคลื่นที่โหมซัดสาดอย่างบ้าคลั่ง
ไม่รู้ว่าใครตะโกนพูดขึ้นมาก่อนว่า “โอ้พระเจ้า ลูกศรของไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย ยิงผ่าลูกศรของผิงซวนอ๋องขาดเป็นสองท่อนแล้ว”
“แบบนี้ยอดเยี่ยมเกินไปไหม ทั้งรวดเร็วทั้งรุนแรงทั้งแม่นยำ เทพสงครามของแคว้นซีเหย่เรา แข็งแกร่งและร้ายกาจอย่างมาก”
ทันใดนั้น ท่ามกลางฝูงคนก็เกิดความโกลาหลขึ้นมา
ฉินมู่ไป๋มองดูท่าทีกล้าหาญชาญชัยของกู้โม่หาน ความรู้สึกที่ดีที่มีต่อเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น
ผู้ชายที่เก่งกาจขนาดนี้ หากได้มาเป็นสามีของนาง งั้นทุกอย่างก็จะงดงามอย่างมาก.....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ อยากรู้ว่านางเอกจะใจอ่อนยอมยกโทษให้กู้โม่หานหรือเปล่า...
ฉันว่า ถ้าไม่ติดว่ามีไทเฮาคอยดูหนุนหลังรักและเอ็นดูนางเอก ป่านนี้น่าจะโดนกู้โม่หาน ทรมานจนตายล่ะ...
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...