“ท่านเจ้าไม่รู้ เสด็จแม่ดูเหมือนจะไม่ชอบนาง...” กู้โม่หานกับเสิ่นอี่ว์เอ่ยปากขึ้นมาพร้อมกัน ประโยคหลังก็ถูกเสิ่นอี่ว์กลืนกลับลงไป พลันเบิกตากว้างพร้อมกับถามว่า “อ๊ะ หยีเฟยเหนียงเหนียง ฟื้นแล้วหรือ?!”
เหนียงเหนียงฟื้นตั้งแต่เมื่อใด?!
ไม่ใช่ เหนียงเหนียงก็เพิ่งฟื้น ทำไมถึงไม่ชอบพระชายานะ พระชายาออกจะเป็นที่โปรดปรานของผู้คน
หรือว่า…เป็นเพราะพระชายาคือธิดาสายตรงของจวนเฉิงเซี่ยง?
ทันใดนั้นเสิ่นอี่ว์ก็ทำอะไรไม่ถูก ลำบากใจ ไม่รู้ว่าควรบอกกู้โม่หานดีไหมว่าหนานหว่านเยียนต่างหากคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเขา
แต่กู้โม่หานกลับไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในตัวเขา ใบหน้าหล่อเหลาดูหดหู่
“เสด็จแม่ฟื้นขึ้นมาเมื่อหลายวันก่อน แต่นอนอยู่บนเตียงนานเกินไป จึงขยับตัวไม่ได้ สูญเสียความสามารถในการพูดชั่วคราว”
เหนียงเหนียงลำบากเช่นนี้ ท่านอ๋องคงจะเสียพระทัยมาก
เสิ่นอี่ว์อดขมวดคิ้วไม่ได้ เมื่อคิดว่ากู้โม่หานน่าสงสารแบบนี้มาตั้งแต่เล็กจนโตก็อดปวดใจไม่ได้ พลางเอ่ยปากปลอบโยนเขาอย่างเคอะเขิน
“ท่านอ๋อง ท่านไม่ต้องกังวล ในเมื่อหยีเฟยเหนียงเหนียงฟื้นขึ้นมาแล้ว นางจะค่อยๆ ฟื้นตัว อีกอย่างนางพูดไม่ได้ อาจไม่ใช่เพราะไม่ชอบพระชายา แค่…เอาเป็นว่า ตอนนี้ท่านและพระชายาดีกันแล้ว ปล่อยไปตามธรรมชาติเถอะ”
เขาไม่ควรพูดตอนนี้ เผื่อว่าจะทำให้ท่านอ๋องกังวลมากขึ้น รอหาโอกาสเหมาะๆ ก่อนค่อยพูดแล้วกัน
“ก็หวังอย่างนั้น” กู้โม่หานหงุดหงิด เมื่อคิดว่าหนานหว่านเยียนจะหลบหน้าเขาแม้แต่การลงจากรถม้า ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
ระหว่างพวกเขา ดูเหมือนว่าจะเข้ากันได้ดีเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเท่านั้น ทันทีที่อยู่ด้วยกันเป็นการส่วนตัว ความไม่ชอบเขาของนางก็จะชัดเจน ไม่มีปิดบัง
เขาสะกดความคิด บอกกับเสิ่นอี่ว์ว่า “ข้ากลับก่อนล่ะ เจ้าพักผ่อนให้มากๆ หากนึกอะไรออกต้องบอกข้าด้วย”
เสิ่นอี่ว์รีบตอบรับ “พ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยพักผ่อนเพียงพอแล้ว หากท่านอ๋องต้องการสิ่งใดโปรดมอบหมายมาได้เลย”
กู้โม่หานโบกมือ บอกให้เขาอย่าฝืนตัวเอง พักผ่อนให้มากๆแล้วจึงจากไป
เสิ่นอี่ว์ถอนหายใจด้วยความรู้สึกผิดที่อธิบายไม่ได้
หวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างท่านอ๋องกับพระชายาจะคลี่คลายโดยเร็วที่สุด…
หลังจากออกจากเรือนซีเฟิงแล้ว กู้โม่หานไม่ได้กลับไปที่ห้องของตัวเอง แต่ตรงไปที่เรือนเซียงหลินแทน
ภายในเรือนเงียบสงบ ไฟในห้องของหนานหว่านเยียนถูกปิดตั้งนานแล้ว กู้โม่หานผลักประตูเบาๆ แล้วเดินเข้าไป
ภายใต้แสงจันทร์ เขาเห็นหนานหว่านเยียนกำลังนอนหลับอย่างสงบอยู่บนเตียง
นางนอนหลับไม่สนิท ไม่รู้ว่าฝันถึงอะไร คิ้วขมวดแน่นขึ้นมา
ในอ้อมแขนของหนานหว่านเยียน เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยสองพี่น้องนอนหลับปุ๋ย ทั้งสองกำลังยิ้ม มองปราดเดียวหัวใจก็เหมือนเต็มไปด้วยน้ำผึ้ง
หลังจากสงบสติอารมณ์ลง กู้โม่หานก็ก้มตัวลง ค่อยๆ เกลี่ยรอยขมวดคิ้วของหนานหว่านเยียนด้วยนิ้วมืออันเรียวยาว พลางเอ่ยเสียงเบา “ฝันถึงอะไร ทำไมดูไม่มีความสุขเลย”
ไม่มีใครตอบสนองตามธรรมชาติ กู้โม่หานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไหนๆ ตอนนี้หนานหว่านเยียนก็ไม่รู้เรื่อง เขาเลยถอดเสื้อคลุมออก แล้วนอนลงข้างๆ สามคนแม่ลูก
ชายหนุ่มกอดหนานหว่านเยียนและเด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองอย่างอ่อนโยน โอบสามแม่ลูกไว้ในอ้อมแขน หลับตาลงค่อยๆผล็อยหลับไป
ในคืนนี้ เขารู้สึกอุ่นใจอย่างหาที่เปรียบมิได้…
บรรยากาศภายในจวนอ๋องอี้อี้อ๋องอบอุ่นและผ่อนคลาย แต่ในขณะนี้ภายในคุก กลับมีคลื่นใต้น้ำกำลังพรั่งพรู อันตรายเกิดขึ้นรอบด้าน
หนานชิงชิงสวมเสื้อผ้าสกปรกขดตัวอยู่ที่มุมห้องขัง บรรยากาศโดยรอบเย็นเยียบและเปียกชื้นไปด้วยวัชพืช
แต่ถึงอย่างนั้น หนานชิงชิงก็ยังไม่ยอมแพ้
“ท่านฉลาดมาก” ผู้หญิงในหมวกผ้าโปร่งหัวเราะเบาๆ
“ใช่ข้าทำเอง ท่านทะเลาะกับไท่จื่อเฟยตลอดเวลา ตอนนี้ไท่จื่อเฟยมีแสงเจิดจ้า แต่ท่านกลับธรรมดาลงเรื่อยๆ ยอมได้ยังไง ดังนั้นจดหมายฉบับนั้นที่ข้าให้ท่าน ท่านย่อมร้อนใจมาก จะเริ่มหาโอกาสจัดการกับไท่จื่อเฟย แผนการของท่าน ข้ารู้ดี”
หนานชิงชิงโกรธมากที่กลายเป็นเบี้ยของคนอื่น แต่ในเมื่อแพ้ก็แพ้ มีบางอย่างที่ด้อยกว่าคนอื่นจริงๆ นางมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างเฉียบขาด
“ให้เวลาและโอกาสข้ามากกว่านี้ ข้าจะแซงหน้าท่านแน่นอน! ท่านมันสารเลวจริงๆ ครั้งล่าสุดในวัง หยีเฟยถูกวางยาพิษ เป็นฝีมือของท่านที่แอบคอยผสมโรงสินะ!”
“ไม่คิดเลยว่า ท่านจะชั่วร้ายถึงขนาดทำได้ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง!”
ในครั้งที่หยีเฟยเกิดเรื่อง นางไม่สามารถเข้าใกล้หยีเฟยได้เลย ดังนั้นจึงต้องทำอะไรบางอย่างจากภายนอก แต่หยีเฟยกลับถูกพิษเข้า
ในเวลานั้นนางเดาได้ว่า มีคนในวังที่มีเป้าหมายเดียวกับนาง แต่นางไม่คาดคิดว่า คนผู้นี้ปกติแล้วจะเป็นคนที่ดูอบอุ่นอ่อนโยนมาก
“ข้าชั่วร้าย?” ทันใดนั้นสตรีในหมวกผ้าโปร่งก็หัวเราะขึ้นมา พลางกล่าวเย้ยหยันอย่างเย็นชา “พระชายาเฉิง ท่านไม่ชั่วร้ายหรือ ไม่ชั่วร้ายแล้วจะมาที่นี่ได้ยังไง?”
หนานชิงชิงรู้ว่าตัวเองสามารถทำทุกอย่างโดยไม่เลือกวิธีการ เสียสละได้ทุกอย่าง แต่นางก็ยังไม่ยอมจำนนหากพ่ายแพ้ ไม่ยอมให้ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า แล้วนับประสาอะไรกับหนานหว่านเยียนที่จับพลัดจับผลูร่ำรวยขึ้นมา
“ข้าสิ้นหวังในชัยชนะ ท่านคิดว่าข้ายังจะเอาตัวรอดได้อีกหรือ?”
“สถานการณ์ในวันนี้ท่านทำได้ไม่เลว แต่กู้โม่หานกับหนานหว่านเยียนยังไม่ได้รับอันตรายใดๆ เหมือนเก่า แม้ว่าเสด็จพ่อจะไม่ชอบกู้โม่หาน แต่ขุนนางและประชาชนก็มีผู้สนับสนุนเขาไม่มากก็น้อย ท่านจะทำอะไรเขาไม่ได้เลย! “
“ถ้ากู้โม่หานกับหนานหว่านเยียนไม่ตาย แผนการของท่านจะไม่มีวันสำเร็จ!”
ใบหน้าของสตรีใต้หมวกผ้าโปร่งไม่เปลี่ยนแปลง แต่สายตากลับคมกริบขึ้นมา
“งั้นก็...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ อยากรู้ว่านางเอกจะใจอ่อนยอมยกโทษให้กู้โม่หานหรือเปล่า...
ฉันว่า ถ้าไม่ติดว่ามีไทเฮาคอยดูหนุนหลังรักและเอ็นดูนางเอก ป่านนี้น่าจะโดนกู้โม่หาน ทรมานจนตายล่ะ...
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...