ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 714

แต่หนานหว่านเยียนกลับปฏิเสธที่จะยืนขึ้น ในคำพูดเต็มไปด้วยความละอายและขอโทษ “เยียนเอ๋อร์รู้ตัวว่าทำผิด ดังนั้นจึงอยากขอโทษเสด็จย่า”

“เยียนเอ๋อร์ปลอมตัวเป็นไป๋จื่อ แม้ว่าจะมีความอึดอัดใจ แต่ก็ไม่มีโอกาสบอกความจริงกับท่าน เยียนเอ๋อร์ไม่ดีเอง ทำให้เสด็จย่าเป็นห่วงเยียนเอ๋อร์มานานขนาดนี้โดยไม่มีเหตุผล

เสด็จย่าทวดเป็นคนดี เหล่าไท่ไท่ผู้นี้จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์ รักและปกป้องนางอย่างแท้จริง ไม่อย่างนั้นจะไม่สวดมนต์ไหว้พระถึงสองเดือนกว่าหลังจากที่นาง “เสียชีวิต”

แม้ว่าจะไม่เสียใจที่จากไป แต่นางก็รู้สึกผิดต่อหญิงชราจริงๆ

ตอนนี้ในเมื่อเรื่องราวถูกเปิดโปงแล้ว ผู้ที่ควรขอโทษก็ควรขอโทษแต่โดยดี ถือได้ว่าไม่เหลือความเสียใจให้กับตนเองที่จะจากไปวันหลัง

เสด็จย่าทวดมองดูท่าทางจริงใจและตำหนิตัวเองของหนานหว่านเยียน ดวงตาแดงก่ำขึ้นมาทันที

นางช่วยประคองหนานหว่านเยียนให้ลุกขึ้น ปากก็บ่นพึมพำว่า “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ขอเพียงยังมีเจ้าอยู่ที่นี่ ข้าก็มีความสุข…”

“เยียนเอ๋อร์ เจ้าเข้าใจอะไรได้ดีเกินไป ดังนั้นจึงทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ข้า ข้ายังนึกว่าเจ้าจากไปแล้วจริงๆ แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่ หัวใจดวงนี้ ในที่สุดก็ปล่อยวางได้แล้ว”

นางสำลักน้ำตาแห่งความสุข ความตื่นเต้นและปลงอนิจจังยากจะพรรณนาออกมาได้

เสด็จย่าทวดนั่งลงพร้อมหนานหว่านเยียน ดวงตาคู่นั้นจ้องมองคนที่อยู่ตรงหน้าไม่วางตา

แต่ว่า ไฟไหม้ใหญ่เมื่อสองเดือนก่อนมันเรื่องอะไรกัน?”

“ข้าได้ยินว่า มีการบุกรุกของประเทศศัตรู แต่ข้ากลับคิดว่ามันไม่ง่ายดายอย่างนั้น”ขนาดนั้น

“ในเมื่อเจ้าปลอดภัยดี แล้วหลานสาวยังสบายดีอยู่หรือเปล่า ตอนนี้นางอยู่นอกวังปลอดภัยหรือไม่?”

คำถามของเสด็จย่าทวดทำให้หนานหว่านเยียนลำบากใจเล็กน้อย

นางขมวดคิ้วมองไปที่หญิงชรา เม้มริมฝีปาก สีหน้าซับซ้อน “เสด็จย่า เรื่องนี้เยียนเอ๋อร์มีความลำบากใจยากที่จะพูดออกมา แต่ท่านโปรดวางใจได้ว่า เยียนเอ๋อร์จะไม่ทำอะไรที่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อแคว้นซีเหย่”

“มีเพียงบางสิ่งเท่านั้นที่พูดออกมาไม่ได้จริงๆ”

นางไม่สามารถบอกเสด็จย่าทวดโดยตรงได้ นางต้องการพาเด็กหญิงทั้งสองไปจากแคว้นซีเหย่ แต่ผลคือเกี๊ยวน้อยกลับหายไป

นางก็ถูกบังคับให้อยู่

ก่อนมา หนานหว่านเยียนคาดเดาได้ว่าเสด็จย่าทวดต้องรู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน

แต่นางก็ไม่ได้รังเกียจอะไร ท้ายที่สุดแล้วนางก็ต้องการให้กู้โม่หานปล่อยวางโดยเร็ว แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่

เหมือนที่เสด็จย่าทวดพูดว่า คนเราต้องมองไปข้างหน้าเสมอ ไหนจะตอนนี้กู้โม่หานยังคงเป็นราชกุมารของแคว้น ยิ่งไม่อาจเอาตัวเข้าไปอยู่ในคุกได้

หนานหว่านเยียนจึงส่ายหน้าเบาๆ “เสด็จย่า อย่าเก็บมาใส่ใจเลย”

“ที่สุดแล้วฮ่องเต้ก็ต้องการคนจากวังหลัง ข้าก็ไม่สามารถอยู่ได้ตลอดไป หากสามารถเพิ่มคนใหม่ๆ เข้าไปในวังหลังได้ ก็จะทำให้ฮ่องเต้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เวลาว่างจะได้ไม่ต้องมาหาแต่ข้า”

“นอกจากนี้ข้ากับฮ่องเต้…ความสัมพันธ์ที่อยู่นานเกินไปอาจทำให้เขารู้สึกเบื่อ ผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ฮ่องเต้อาจจะไม่คิดถึงข้าแล้ว”

คำพูดของนางเป็นเชิงเปรียบเทียบอย่างมาก ไม่ได้เปิดเผยความจริงที่นางจะจากไป แต่ยังบรรยายว่านางกับกู้โม่หานจะอยู่ด้วยได้ไม่นาน

แต่เสด็จย่าทวดกลับไม่ใส่ใจ ตบไหล่หนานหว่านเยียนอย่างยั่วเย้า “พูดอะไรน่ะ เยียนเอ๋อร์ เจ้าเก่งที่สุด ถ้าฮ่องเต้กล้ารังเกียจเจ้า ก็บอกข้า!”

“เมื่อมีข้าคอยค้ำชูเจ้า ใครก็ไม่กล้ารังแกเจ้า!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้