ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 827

นางแทบจะอกแตกตายกับฝูงลาโง่เหล่านี้อยู่แล้ว

งานสำคัญทำไม่สำเร็จ เจ้านายก็จำไม่ได้ ตอนนี้ยังมากลับตาลปัตรเปลี่ยนดำเป็นขาว ลากลูกสะใภ้ของนางลงน้ำไปด้วย

ฝูงราชทูตเหล่านี้ เหมือนรวมตัวมาเพื่อสร้างความสับสนให้กับผู้คนเสียมากกว่า

พ่อบ้านกาวโมโหจนพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว เขากำหมัดแน่นด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่นัก

ไท่เฟยตัดบทสนทนาของพ่อบ้านกาวไป พลางกวาดสายตามองดูทุกคนด้วยแววตาที่เกรี้ยวกราด จากนั้นก็ได้กล่าวเตือนอีกครั้งว่า “หากผู้ใดยังกล้าพูดจาเหลวไหล แม้พวกเจ้าจะเป็นราชทูตของต้าเซี่ย ข้าก็จะไม่ไว้หน้าทั้งนั้น!”

พูดจบ นางก็ไม่ได้สนใจคนเหล่านั้นต่อ แต่เดินไปที่หนานหว่านเยียนและกู้โม่หานแทน เมื่อเห็นโม่หวิ่นหมิงที่สีหน้าไร้ซึ่งชีวิตชีวา และหนานหว่านเยียนที่อ่อนล้าโรยแรง “หว่านเยียน เขา...ไม่กลับมาอีกแล้ว เจ้าปล่อยวางเถิด...”

หนานหว่านเยียนกำลังจะหมดเรี่ยวแรงอยู่รำไร หน้าผากของนางเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ แต่นางกลับไม่ยอมที่จะหยุด ริมฝีปากที่ขาวซีดของนางสั่นเทาเบาๆ “ไม่เพคะ...หม่อมฉันยังลองไหว”

“เสด็จแม่ บางคนหัวใจจะหยุดเต้นไปแล้วก็ยังสามารถช่วยชีวิตกลับมาได้ หม่อมฉันก็ต้องสามารถช่วยท่านน้าให้กลับได้เช่นกัน ต้องได้แน่นอน...”

นางดูสติเลื่อนลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กู้โม่หานมองดูนางอยู่ข้างๆ เขาค่อยๆ หลุบตาลงต่ำ ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง

ไท่เฟยรู้สึกจุกหัวใจขึ้นมาทันที นางโน้มตัวลงไปกดมือของหนานหว่านเยียนเอาไว้ พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่โศกเศร้าและเสียใจ “หว่านเยียน ตอนนี้เจ้ากำลังตั้งครรภ์ จะให้อารมณ์จิตใจแปรปรวนเช่นนี้ไม่ได้ และก็ไม่ควรปล่อยให้ร่างกายเหนื่อยล้าจนเกินไป”

“หวิ่นหมิงเขา...กลับมาไม่ได้อีกแล้ว เจ้าพยายามช่วยชีวิตเขาเช่นนี้ มีแต่จะทำให้เขายิ่งทรมาน”

ทันใดนั้นเอง ในหัวของหนานหว่านเยียนก็ว่างเปล่าไปหมด มือที่เหนื่อยล้าจนสั่นเทาถูกไท่เฟยกดไว้จนแน่นจนไม่สามารถขยับได้ นางค่อยๆ หลุบตามองดูโม่หวิ่นหมิงในอ้อมแขนที่ไม่มีลมหายใจแล้ว ความเป็นจริงปะทุเข้ามาในหัวใจของนาง ลมหายใจหอบถี่ประหนึ่งว่ากำลังสำลักน้ำเชี่ยวก็ไม่ปาน อาการปวดที่ครรภ์ค่อยๆ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ในที่สุดนางก็ยอมหยุดช่วยชีวิต บนใบหน้าของนางไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว แต่ดวงตากลับบวมจนปวดไปหมด นางจ้องมองไท่เฟยด้วยแววตาที่สิ้นหวังและหมดอาลัยตายอยาก

“ไม่ควรเป็นเช่นนี้ เสด็จแม่ เราสัญญากันแล้ว ว่าจะกลับต้าเซี่ยด้วยกัน”

“ท่านน้ายังเคยบอกด้วยว่า...จะอยู่เคียงข้างหม่อมฉันและลูกไปชั่วชีวิต...”

“ไม่ใช่ความผิดของหม่อมฉัน เป็นความผิดของคนที่ทำให้ท่านน้าต้องตาย?” หนานหว่านเยียนซบไหล่ของไท่เฟย พลางพูดพึมพำกับตัวเองไม่หยุด

ทันใดนั้นเอง จู่ๆ แววตาที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าไร้ซึ่งชีวิตชีวาก็เปลี่ยนเป็นเกลียดชังขึ้นมาทันควัน หนานหว่านเยียนหันไปจ้องกู้โม่หานตาเขม็ง ดวงตาที่แดงก่ำของนางท่วมท้นไปด้วยความโกรธแค้น พลางพูดขึ้นอย่างช้าๆ “ใช่ คนเหล่านั้นทำร้ายท่านน้า เลือดก็ควรจะต้องชำระด้วยเลือด!”

กู้โม่หานจ้องมองดวงตาเต็มไปด้วยความเย็นชาของหนานหว่านเยียน จู่ๆ ลมหายใจของเขาก็ถี่ขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกหนักอึ้งตั้งแต่หัวจรดเท้า ราวกับถูกถ่วงด้วยตะกั่วก็ไม่ปาน ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาขาวซีดและแย่เป็นอย่างมาก

ไท่เฟยไม่เข้าใจความหมายที่หนานหว่านเยียนสื่อ ยังคิดว่าจิตใจของนางค่อยๆ สงบลงแล้ว

แต่อึดใจต่อมา หนานหว่านเยียนก็ผละออกมาจากอ้อมแขนของนาง พลางดึงปิ่นปักผมบนศีรษะออกมาด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็พุ่งเป้าไปที่กลางอกของกู้โม่หาน

“กู้โม่หาน นี่คือแผนการที่ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลที่พระองค์พูดถึงใช่หรือไม่”

“พระองค์เปิดใจให้กับท่านน้าของหม่อมฉันไม่ได้แม้แต่นิดเดียวเชียวหรือ วันนี้ท่านน้าของหม่อมฉันจากไปแล้ว พระองค์สาแก่ใจแล้วหรือยัง พระองค์จอมปลอมเกินไปแล้ว พระองค์ไม่สมควรที่จะเป็นจักรพรรดิของแผ่นดินเลยแม้แต่น้อย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้