ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 840

หนานหว่านเยียนในที่สุดก็อยู่ไม่สุขแล้ว บนใบหน้าที่เย็นชาราวน้ำแข็งของนางก็เริ่มปรากฏความร้อนรน นางรีบถามขึ้นมาทันใดว่า “ลานคัดเลือกอยู่ที่ไหนเพคะ หม่อมฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”

ฝ่าบาทแววพระเนตรเป็นประกายฉับพลัน ร้องทักเฉียนซีว่า “เจ้านำหว่านเยียนไปดูสักหน่อย”

“เพคะ ฝ่าบาท” เฉียนซีพยักหน้าตอบรับคำ ส่งสัญญาณให้หว่านเยียนเดินตามนางไป หนานหว่านเยียนยกชายกระโปรงขึ้น รีบเร่งเดินออกไปประหนึ่งมีลมหอบเท้า

ยามนี้ฝ่าบาทที่ประทับอยู่ที่บนกลับตรัสเสริมแย้มพระสรวลร่า “หว่านเยียนเจ้าไม่ต้องรีบหรอก ตอนนี้ก็ดำเนินการไปกว่าครึ่งแล้ว ถึงเจ้าจะไป ก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้ว”

เมื่อก่อนตอนอยู่ที่ซีเหย่ หนานหว่านเยียนได้รับความเจ็บปวดสาหัสจากเรื่องความรัก ต่อมาหลังจากนั้นก็หลีกหนีเรื่องความรักมาโดยตลอด

วันนี้ พระองค์จะต้องเลือกชายหนุ่มที่วาดหวังไว้ให้แก่หนานหว่านเยียนให้จงได้

สิ้นเสียงตรัส หนานหว่านเยียนหันกลับมามองฝ่าบาทเต็มตาของนาง แล้วเดินไปอย่างเร่งด่วน

นางจะต้องรีบไปยังลานคัดเลือก หยุดยั้งความเสียหายให้ทันกาล

นอกวัง ลานคัดเลือกสวามี

อย่าเรียกว่าลานคัดเลือกเลย เรียกว่าเวทีที่ถูกคนสร้างไว้ชั่วคราวหน้าประตูวังจะดีกว่า

ระหว่างเวทีและประตูวังนั้นถูกกั้นไว้ด้วยผืนฉากยาว ๆ ด้านหนึ่งคือกลุ่มคนที่รอคัดเลือก อีกด้านหนึ่งก็คือคนที่เข้าแข่งขัน คัดเลือกเสร็จสิ้นแล้วเตรียมเข้าวัง

ที่นี่มีเสียงผู้คนดังอื้ออึง ไม่ว่าที่ไหน ๆ ก็เห็นแต่ชายหนุ่มรูปงามจับกลุ่มยืนกันอยู่

สีหน้าของทุกคนต่างตื่นเต้นยินดี ต่างก็มาด้วยจุดประสงค์เดียวกัน นั่นคือกางเลือกสวามีขององค์หญิงหมิงหวง

ในมุมหนึ่งที่ดูไม่สะดุดตา ร่างสูงใหญ่ดูสง่าในชุดดำ ใบหน้าหล่อเหลาขาวใสเกลี้ยงเกลาปรากฏสีโทนเย็น ดวงตาลุ่มลึกที่ดำสนิทราวกับหมึกนั้นสอดส่ายไปยังชายหนุ่มที่อยากเข้าร่วมการคัดเลือกสวามีองค์หญิงทุกคน สายตาดูแอบแฝงและเย็นเยือก

เขาแนบอกพิงเสา รอบกายเต็มไปด้วยไอเย็นชวนให้คนหวาดเสียว เขาเองก็เป็นหนึ่งในผู้เข้าคัดเลือก ทว่าในลานคัดเลือกนั้นมีคนเข้าร่วมกว่าร้อยคน สิบคนเข้าคัดต่อหนึ่งรอบ เขาคือคนที่อยู่ในรอบสุดท้าย

อีกเก้าคนที่เหลือนั้นกำลังจับกลุ่มถกความเห็นอะไรกันอยู่ ทันใดก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหววุ่นวายมาจากทางด้านล่างของเวทีดังไปทั่ว ตามมาด้วยเสียงเด็กน้อยร้องไห้ทำลายความคึกคักในตอนแรก

เห็นแต่เพียงด้านล่างเวทีเด็กชายตัวน้อยอายุราว ๆ สองขวบปี เจ้าเด็กน้อยสวมเสื้อครุยตัวโคร่งขนาดไม่พอดีตัว เสื้อผ้าดูแล้วทั้งเก่าและยับยู่ยี่ แขนเสื้อย้อยลงพื้น ส่วนเอวที่อ้วนฉุยิ่งทำให้เจ้าเด็กน้อยตัวเตี้ยลงไปอีก

เบื้องหน้าของเขามีชายทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด ตาทั้งสองปิดสนิท ดูไปแล้วดูเหมือนจะตายมาสักพักแล้ว

เจ้าเด็กน้อยร้องดังออกมาอย่างไร้เดียงสาหมดหนทาง “ท่านพ่อ ท่าน ท่านตายอย่างอนาถ”

แม้ว่าจะอายุน้อย แต่ดวงตาดำขลับเต็มดวงทั้งคู่นั้นเผยให้เห็นแววฉลาด ใบหน้ากลมตุ่ยเต็มไปด้วยรอบเปื้อน แต่กลับยังมีความน่ารักอ่อนโยนแจ่มชัดจนสังเกตได้

พอเขาเปล่งเสียงร้อง บรรดาคุณชายมีตระกูลในลานคัดเลือกต่างค่อย ๆ นิ่วหน้าขมวดคิ้ว เริ่มเดินถอยออกห่าง ต่างคิดว่าพิธีเลือกสวามีที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้กลายเป็นงานศพจะต้องเกิดเรื่องไม่เป็นมงคลไปตลอด

ในลานแห่งนั้นไม่มีสักคนเลยที่คุ้นหน้า เขาเม้มริมฝีปากในใจก็แอบพึมพำขึ้นมา หรือว่า คนนั้นยังไม่มากันนะ

ถ้ายังไม่มาอีก ก็จะมาไม่ทันฮองเฮาเลือกสวามีแล้ว...

ด้านล่างของเวที เสียงร้องของน่าวน่าวดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก ต่างคนต่างก็ค่อย ๆ เริ่มวิพากษ์วิจารณ์

คุณชายเสื้อสีครามเข้มมองน่าวน่าวด้วยอาการนิ่วหน้า เอ่ยเสียงกล่าวออกไปอย่างไม่พอใจว่า “เจ้าเด็กนี่ วันดี ๆ แบบนี้ เหตุใดต้องมาก่อเรื่องในวันงานคัดเลือกสวามีนี้ด้วย”

สิ้นเสียงพูดนั้น ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างเริ่มคิดเข้าด้วยฝ่ายของคุณชายเสื้อครามเข้ม

โดยรวมก็คือ พวกเขาต่างก็ไม่ยอมที่จะมาเสียเวลากับเจ้าเด็กสกปรกมอมแมมนี่ จึงทำให้บรรดาองครักษ์รีบดึงตัวฝูงชนเหล่านั้นออกไป

คนอื่น ๆ ก็คิดเห็นเช่นเดียวกัน ต่างก็ไม่ได้ใส่ใจในตัวน่าวน่าวและ “ท่านพ่อที่ตายไป”

ขณะที่น่าวน่าวได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดนั้น ในช่วงที่ดวงตาบีบน้ำตาออกมาแต่ในใจกลับคิดว่าคนเหล่านี้ควรต้องตกรอบนั้น ก็มีชายในชุดครุยดำเดินปรากฏตัวออกมาเบื้องหน้าของตัวเขา

ชายผู้นั้นก้มลงมองดูน่าวน่าว นิ้วมืออันเรียวยาวเช็ดน้ำตาที่บีบเค้นออกมาจากมุมขอบตาของเจ้าหนุ่มน้อย ลึกลงไปในดวงตานั้นซ่อนความเจ็บปวดหัวใจและความตื่นเต้นที่ไม่อาจสังเกตได้โดยง่าย ถึงขั้นที่เรียกว่าหนักอึ้ง

“เจ้าหนู” เจ้าชื่ออะไร แม่เจ้าล่ะ นางอยู่ที่ไหน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้