ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 854

นางมิอาจกลับไปอย่างมือเปล่า  ถ้าเป็นเช่นนั้นจะเสียหน้ามากเพียงใด!

โยวเอ่อเห็นเจ้านายของเรือนตนเสื่อมเสียหน้าตามากถึงขนาดนี้  พลันสีหน้าแดงระเรื่อร้อนผ่าวก้มหน้าลงด้วยความละอายใจ  นางยื่นมือไปคอยกระตุกแขนเสื้อของลู่เจียวเจียวแล้ว  “องค์หญิง  หรือไม่ก็พวกข้าก็ยังคงเลิกแล้วกันไปเถอะนะ……”

แม้ว่านางก็มิชื่นชอบหนานหว่านเยียนเช่นกัน  แต่ทุกครั้งที่พบหน้ากับหนานหว่านเยียน  นางก็มักรู้สึกหนาวเหน็บไปตลอดทั้งตัว

วันนี้ก็มิทราบเช่นกันว่าองค์หญิงหงเหมิงเป็นเช่นใดแล้ว  กลับคิดต้องการช่วงชิงสนมชายของหนานหว่านเยียนอย่างมิยอมล้มเลิกรามือเช่นนี้

“เลิกแล้วกันไปได้อย่างใด?!”  ลู่เจียวเจียวสะบัดแขนเสื้อออกฉับพลัน  แสดงท่าทีจ้องมองอย่างคุกคามเอาเรื่องมิปล่อยหนานหว่านเยียนให้รอดพ้นไป  “ข้าพูดแล้วว่าข้าต้องการแล้วละก็  ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะต้องได้มาอย่างแน่นอน!”

“หนานหว่านเยียน  เจ้าบอกมาเถอะจะให้คนหรือว่าไม่ให้?”

เผชิญหน้ากับลู่เจียวเจียวนิสัยดื้อด้านเอาแต่ใจตัวเองผู้นี้  หนานหว่านเยียนเองก็รู้สึกปวดศีรษะอยู่บ้างเช่นกัน  แต่นางกลับปฏิเสธอย่างชัดเจนตรงไปตรงมาว่า  “ไม่ได้”

“ลู่เจียวเจียว  ข้าเรียกขานเจ้าว่าองค์หญิงหงเหมิง  นั่นก็เนื่องเพราะเห็นแก่หน้าของเสด็จป้า  เมื่อครู่นี้ข้าได้พูดจาชัดเจนอย่างยิ่งแล้วว่า  คนของข้าเจ้าอย่าได้คิดนำไปแม้แต่สักคนเดียว”

แรกเริ่มนางก็คิดไว้ว่า  ลู่เจียวเจียวต้องการคนละก็  นางประจวบเหมาะที่จะผลักไสสนมชายส่วนหนึ่งออกไปอย่างสมเหตุสมผล  แต่แล้วหวนคิดขึ้นมาว่าหากตนทำเช่นนี้แล้ว  ทางด้านของเสด็จป้านั้นก็จะเข้ามาวุ่นวายมิยอมเลิกราจนยุ่งชะมัดอีกอย่างแน่นอน

เมื่อเป็นลักษณะเช่นนี้แล้ว  ยังมิสู้อย่าได้ส่งออกไปแล้วล่ะ  ก็ให้พวกเขาไปศึกษาเล่าเรียนท่องตำราก็แล้วกัน

หนานหว่านเยียนกำลังคิดเช่นนี้อยู่  โม่เหยียนที่อยู่ด้านข้างกลับขมวดคิ้วแนบแน่นขึ้นมาทันใด  ภายในดวงตาสีดำสนิทค่อยๆ ปรากฏความไม่พึงพอใจขึ้นมาแล้ว

เมื่อครู่นี้เขายังกำลังรู้สึกปิติยินดีอยู่  คิดว่าตนคือคนเพียงหนึ่งเดียวของนาง

กล่าวถึงที่สุดแล้วนางมิเพียงเห็นเขาเป็นสนมชายเท่านั้น  อีกทั้งเชื่อมั่นในตัวเขา  ทรงรับสั่งให้เขาเป็นองรักษ์คนสนิทต้องการให้เขาทำงานแทนนางด้วยซ้ำ  คิดมิถึงว่านางกลับฟุ่มเฟือยมากรักถึงเพียงนี้  ต้องการจะรั้งทุกคนเอาไว้

“เจ้า!  เจ้าทำเกินไปแล้วนะ!”  ลู่เจียวเจียวถูกทัศนคติแข็งกร้าวของหนานหว่านเยียนยั่วโมโหจนบ้าคลั่งไปโดยสิ้นเชิงแล้ว

นางคว้าหมับจับข้อมือของหนานหว่านเยียนเอาไว้  ภายในดวงตาทั้งสองนั้นกอปรด้วยเพลิงโทสะความโกรธเคือง  “หนานหว่านเยียน  เจ้าคิดว่าเจ้าคือองค์หญิงชีพจรสายโลหิตแท้จริง  ก็สามารถอาละวาดอย่างอหังการอยู่ภายในพระราชวังแล้วหรือ?”

สีหน้าแววตาของหนานหว่านเยียนจ้องมองนางอย่างเย็นชา  ตอบนางว่า  “ไฉนจึงไม่ได้เล่า?”

คำพูดนี้มิผิดไปเหยียบถูกกับระเบิดของลู่เจียวเจียวเข้าแล้วอย่างจัง  นางระเบิดเพลิงโทสะขึ้นมาแล้วในชั่วพริบตา  ภายในดวงตากระหายเลือดเต็มเปี่ยมความเคียดแค้นชิงชัง  “หนาน! หว่าน! เยียน!”

“เจ้าคือองค์หญิงชีพจรสายโลหิตแท้จริงแล้วอย่างไรล่ะ?  ข้าคือองค์หญิงแห่งแคว้นต้าเซี่ยที่ได้รับการเลี้ยงดูจากเสด็จแม่มานานร่วมยี่สิบปีแล้ว!  ไหนเลยที่เฉิงเหย่าจินซุ่มโจมตีกลางทางคนหนึ่งอย่างเจ้าจะสามารถทัดเทียมได้?!”

(เฉิงเหย่าจินซุ่มโจมตีกลางทาง หมายถึง เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดมาก่อน)

ครู่เดียวต่อมา  นางรู้สึกแต่ว่าพลังบนข้อมือที่ถูกลู่เจียวเจียวจับเอาไว้สลายหายไปแล้ว  ยามที่เงยหน้าขึ้นมองอีกครั้งนั้น  ก็เห็นโม่เหยียนคว้าลำคอลู่เจียวเจียวเอาไว้แล้วอย่างดุดัน  สายตาเปล่งประกายโหดเหี้ยม  ประดุจหนึ่งสัตว์ป่าที่เหี้ยมโหดดุร้ายก็มิปาน  กอปรด้วยสำนึกฆ่าฟันอันเหน็บหนาวไร้ที่สิ้นสุด

“อั๊ก!”  ลู่เจียวเจียวถูกโม่เหยียนบีบลำคอไว้จนก้าวถอยหลังอย่างหักโหมไปแล้วมากมายหลายก้าว  พลังแข็งแกร่งนั้นทำให้นางเบิกสองตาจนกว้างขึ้นแล้วด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง  เกิดความรู้สึกหายใจไม่ออกขึ้นมาแล้ว

โยวเอ่อตระหนกตกใจยิ่งกว่าแล้ว  นางตะโกนอย่างหวาดหวั่นพรั่นพรึงว่า  “เจ้า  เจ้าต้องการจะทำอะไร?!  นั่นคือองค์หญิงหงเหมิงเชียวนะ!  เจ้าคนผู้น้อยบังอาจกล้าล่วงเกินเบื้องสูง!”

โม่เหยียนเหล่สายตาเหลือบมองโยวเอ่อที่อยู่ด้านข้างคราหนึ่ง  พลันสีหน้าแววของเขาทำให้โยวเอ่อตกใจจนขาอ่อนปวกเปียกสั่นเทาขึ้นมาแล้ว

เขาหัวเราะเย็นชา  ประกายเพลิงโทสะจากดวงตาสีดำตวัดจ้องมองลู่เจียวเจียวเขม็ง  ริมฝีปากบางเม้มจนสนิท  ช่างเต็มเปี่ยมด้วยอำนาจบารมีสะกดข่ม

“ประการแรก  ข้าหาได้เป็นใบ้ไม่  ข้ามิต้องการกล่าววาจากับองค์หญิงหงเหมิงนั้น  เนื่องเพราะมิต้องการสิ้นเปลืองคารมเปล่าๆ”

“ประการที่สอง  ในเมื่อองค์หญิงหงเหมิงทรงทราบศักดิ์ฐานะของตนเองแล้ว  ก็ยิ่งสมควรให้ความสำคัญกับคำพูดและพฤติการณ์ของตัวเอง  วันนี้ผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเจ้าคือองค์หญิงหมิงหวง  อีกทั้งเป็นรัชทายาท ซึ่งจะเป็นจักรพรรดินีของแคว้นต้าเซี่ยในอนาคตอีกด้วย”

“ศักดิ์ฐานะของนาง  เทียบกับเจ้าที่เป็นองค์หญิงอุปถัมภ์อุ้มมาเลี้ยงดูคนหนึ่งแล้ว  ช่างสูงส่งกว่ามากมายยิ่งนัก!”

“ตอนที่เจ้าเอ่ยปากเหยียดหยามองค์หญิงหมิงหวงด้วยคำพูดหยาบคายนั้น  เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่า  ตัวเจ้าเองนั้นนับเป็นตัวอะไรล่ะ?!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้