ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 890

อาจกล่าวได้ว่าหุบเขาจ้างกู่เป็นดินแดนที่แห้งแล้ง หากมิใช่ความจำเป็น ก็น้อยนักที่จะมีคนย่างกายเข้าไปในดินแดนนั้น

เย่เชียนเฟิงก็เป็นเพราะนาง จึงมีความจำเป็นต้องไป ดังนั้นนางจึงติดหนี้บุญคุณเขาใหญ่หลวง

แต่อาการบาดเจ็บภายในของโม่เหยียนนั้นหนักกว่าเย่เชียนเฟิงมาก คนผู้นี้คงจะอยู่ที่หุบเขาจ้างกู่นานกว่าผู้อื่นนัก!

เขาก็ช่างอดทน อาการบาดเจ็บภายในหนักเยี่ยงนี้ วันปกติคงมิได้ผ่านมาง่ายๆ แต่เขากลับมิได้แสดงออกมาแม้แต่นิดเดียว แม้แต่ในวันเลือกคู่ เขาก็เอาชนะคู่ต่อสู้มานับมิถ้วน

อีกทั้ง เขาบาดเจ็บหนักเพียงนี้แต่ยังสามารถแข็งแกร่งได้เยี่ยงนี้ นี่ถ้าสุดท้ายแล้วมันหายขาด คงจะแข็งแกร่งมาก เกรงว่าคงจะอยู่ในระดับเดียวกันกับกู้โม่หาน......

เอ่ยถึงหุบเขาจ้างกู่ สายตาของโม่เหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ใบหน้าอันเย็นชาที่ขาวและหล่อเหลาดึงขึ้นเล็กน้อย นิ้วมือของเขากำแน่นขึ้น ดวงตาของเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยคลื่นใต้น้ำที่ปั่นป่วนมากมาย

“อืม ข้าน้อยเคยไปในหุบเขาจ้างกู่เพื่อหาของสิ่งหนึ่ง นั่นจึงทำให้เกิดบาดเจ็บภายใน”

หนานหว่านเยียนเอ่ยไปอย่างจริงจัง

“แม้ว่าข้าจะมิรู้ว่าเจ้าไปที่หุบเขาจ้างกู่เพื่อหาสิ่งใด แต่ก็มิควรจะถลุงร่างกายตนเองเช่นนี้ เจ้าก็รู้ว่าตนนั้นบาดเจ็บภายในสาหัสมาก ก็ควรที่จะบอกข้า ข้าก็จะมิพาเจ้าออกมา วันนี้เจ้าเพื่อที่จะต่อสู้ศัตรู ใช้กำลังภายในมากเกินไป ทำให้อาการบาดเจ็บภายในระเบิดออกมา มิรู้สึกเจ็บหรือ?”

“ก็นับว่าเจ้าโชคดี โชคดีที่ในมือข้ามียารักษาอาการบาดเจ็บภายในอยู่ ข้าจะนัดวันรักษาให้เจ้า ภายในระยะเวลานี้ เจ้าก็มิต้องไปใช้กำลังแล้ว”

โม่เหยียนได้ยินคำพูดเป็นห่วงของนาง คิ้วและดวงตาที่งดงามซ่อนความสุขไว้เล็กน้อย ปากบางโค้งงอ“ขอบพระทัยองค์หญิง ข้าน้อยควรจะตอบแทนองค์หญิงเยี่ยงไรดี?”

“เจ้ามิต้องตอบแทนข้า เพียงแค่ทำในสิ่งที่เจ้าควรทำให้ดีก็พอ แม้ข้าจะเป็นองค์หญิง แต่ข้าก็เป็นหมอ ข้าจะมิยอมดูเจ้าผัดวันประกันพรุ่งทำให้อาการแย่ลง อีกทั้งบาดแผลเจ้านี้ควรจะรักษาแล้ว หากยังมิรักษาก็อันตรายแล้ว”

เมื่อเอ่ย นางก็หยุดชั่วคราว และกล่าวเสริมด้วยความซาบซึ้ง“อีกทั้งวันนี้เจ้าก็ได้ช่วยชีวิตไว้ หากมิใช่ว่าเจ้ายอมสละชีวิตเพื่อช่วยพวกข้า คนที่นอนอยู่ในตอนนี้ ก็เป็นข้าและพวกลูกๆ แล้ว นอกจากจะรักษาเจ้าแล้ว หากเจ้ายังต้องการรางวัลใดอีก ข้าก็จะพยายามหามาให้อย่างสุดกำลัง”

โม่เหยียนจ้องมองนางด้วยแววตาที่มีความหมาย ยิ้มออกมา

“ตอนนี้ข้าน้อยมิขอสิ่งใด องค์หญิงสามารถรอข้าน้อยคิดเสร็จแล้วค่อยเอ่ยถามได้หรือไม่”

“ตามใจเจ้า”หนานหว่านเยียนเอ่ย“ตอนนี้รถม้าพังแล้ว ยังเหลือหนทางอีกยาวไกลกว่าจะถึงอู้ไห่ มีลูกสี่คนแน่นอนว่าจะเดินเท้ามิได้ ข้าได้ให้หยุนเหิงขี่ม้าเร็วไปซื้อรถม้าคันใหม่มาแล้ว เมื่อคำนวณเวลาดูก็คงใกล้กลับมาแล้ว”

โม่เหยียนรู้สึกเป็นห่วง“แล้วจวิ้นจู่และพวกซื่อจือ ได้ตกใจกันหรือไม่?”

หนานหว่านเยียนก็ได้หันมามองโม่เหยียน“เกี๊ยวน้อยพูดมิผิด เจ้าก็อยู่ที่นี่เถิด บัดนี้ปลอดภัยแล้ว เจ้ามิต้องกังวล”

“เพคะ”โม่เหยียนพยักหน้า

หนานหว่านเยียนจากไป บัดนี้ในรถม้าเหลือเพียงเกี๊ยวน้อยและโม่เหยียนสองคน

ดวงตาทั้งสี่ของพวกเขาสบตากัน ดวงตาสีเข้มของโม่เหยียนซ่อนความรักตามใจเอาไว้ เขายิ้มให้เกี๊ยวน้อยเบาๆ“จวิ้นจู่”

เกี๊ยวน้อยกลับจ้องมองเขา มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น“ท่านมิต้องเสแสร้งแล้ว ข้ารู้แล้วว่าท่านคือใคร ท่านเป็นคนของแคว้นซีเหย่!”

ใบหน้าเปื้อนยิ้มของโม่เหยียนตกตะลึงไป สายตาเปลี่ยนเป็นตกใจขึ้นทีละน้อย“จวิ้นจู่......”

เกี๊ยวน้อยขังเขาไว้แน่น ตาได้แดงแล้ว น้ำเสียงก็มีความโกรธเคือง“สองปีผ่านไปแล้ว ข้าคิดว่าท่านจะหลบซ่อนด้วยความละอายใจไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ท่านกลับกล้าที่จะมาแค้วนต้าเซี่ย กล้ากลับมาข้างกายท่านแม่......”

“หรือว่าท่านมิกลัว มิกลัวข้าจะเปิดเผยสถานะที่แท้จริงของท่าน ให้ท่านกินไม่หมด แอบห่อพากลับหรือ!”

(กินไม่หมด แอบห่อพากลับ เปรียบเทียบกับการ ก่อเรื่องไม่ดีหรือทำให้เกิดเรื่องไม่ดี จำต้องแบกรับ รับผลที่ตามมา มักจะใช้สำหรับตักเตือนคนว่า จะทำเรื่องอะไรอย่าลืมคำนึงถึงผลที่ตามมา)

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้