ของขวัญ?
จู่ๆ โม่เหยียนก็สำลักออกมา ใบหน้าเล็กๆของอันอันและน่าวน่าวเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ยื่นมือเล็กๆสั้นๆไปตบหน้าอกเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล "คุณชายโม่เหยียน ไม่เป็นไรใช่ไหม?"
"ไม่เป็นไร ข้าเผลอสำลักเข้า" โม่เหยียนมองไปที่เด็กน้อยทั้งสองที่เป็นห่วง หัวใจของเขาอ่อนยวบยาบ แต่ว่าของขวัญที่เขาให้หยุนเหิงจัดเตรียมนั้นแท้จริงแล้วอยู่ในมือของเด็กน้อยทั้งสองแล้ว
ใบหน้าที่หล่อเหลาไร้ที่ติของเขายิ้มออกมา และลูบหัวของเด็กน้อยทั้งสอง "ซื่อจือทั้งสอง ของขวัญของพวกท่านยังอยู่นอกวัง ข้าจะมอบให้พวกท่านภายหลัง ได้ไหม?"
อันอันและน่าวน่าวแน่นอนว่าไม่มีปัญหา น่าวน่าวเพียงถามไปเรื่อยเท่านั้น และยังแบ่งปันของขวัญที่ท่านพ่อซื้อให้กับโม่เหยียนอย่างมีความสุข
หลังจากผ่านไปนาน ในช่องเวลาที่น่าวน่าวพูดจนปากแห้งและหยุดพูดไปดื่มน้ำ โม่เหยียนจึงมีโอกาสที่จะพูด "แล้วพวกท่าน ชอบท่านพ่อใหญ่คนนั้นไหม"
อันอันและน่าวน่าวพูดพร้อมกันโดยไม่ต้องคิด “ชอบ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มที่พึงพอใจปรากฏขึ้นในดวงตาของโม่เหยียนโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ชอบก็ดีแล้ว เชื่อว่าเขาก็ชอบซื่อจือทั้งสองเช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของโม่เหยียนทำให้สองพี่น้องนึกว่าเขาคงเสียใจ
สองพี่น้องถือความคิดที่ว่า "ตักน้ำใส่ถ้วยให้เท่ากัน" อันอันตบหลังของโม่เหยียนเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อย และปลอบเขาเบาๆ "คุณชายโม่เหยียน ท่านอย่าท้อนะ"
(ตักน้ำใส่ถ้วยให้เท่ากัน อุปมาว่าถ้าชอบใครรักใครก็ปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เอียนเองไปด้านใดด้านหนึ่ง)
"แม้ว่าพวกข้าจะมีท่านพ่อใหญ่แล้ว แต่ข้ากับน้องชายก็ยัง ชอบท่านมาก!"
น่าวน่าวยังมองไปที่โม่เหยียนอย่างกระตือรือร้น "ข้าและพี่ชายจะชอบคุณชายโม่เหยียนตลอดไป!"
โม่เหยียนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี มันมาถึงขนาดนี้ได้อย่างไร เขาลุกขึ้นและพูดเบาๆ กับเด็กน้อยทั้งสองว่า "โม่เหยียนก็ชอบซื่อจือทั้งสองเช่นกัน นี่ก็ดึกแล้ว ถึงเวลากลับไปทานอาหารแล้ว"
“ถ้าหากซื่อจือทั้งสองไม่รังเกียจ วันนี้โม่เหยียนจะไปทานอาหารเย็นที่ตำหนักสี่เยว่ดีไหม?”
ในอดีตสองพี่น้องจะไม่ปฏิเสธ และพวกเขาก็สนิทกับโม่เหยียนมาก แต่ตอนนี้เมื่อพวกเขาได้ยินว่า โม่เหยียนกำลังจะไปทานอาหารเย็นที่ตำหนักสี่เยว่ พวกเขาก็รีบคว้าตัวไว้ ใบหน้าเล็กๆทั้งสองแสดงถึงความรู้สึกผิด "ไม่ ไม่ต้องไปแล้ว"
“วันนี้ข้าและพี่ชายจะทานอาหารที่นี่”
"ต่อไปนี้คุณชายโม่เหยียน อย่าไปที่นั่นบ่อยเกินไปจะดีกว่า ทานอาหารเย็นก็ยังมีพี่สาวอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่นะ!"
สีหน้าของโม่เหยียนนิ่งไปกะทันหัน ดูเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก
เห็นได้ชัดว่าเด็กน้อยทั้งสองชอบเขามาก วันนี้เกิดอะไรขึ้น?
เมื่อมองไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ที่เหมือนกันของทั้งสอง เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า "ทำไม? เป็นไปได้ไหมว่าซื่อจือทั้งสองรังเกียจโม่เหยียน?"
อันอันและน่าวน่าวรีบส่ายหัวเหมือนเขย่าแล้วมีเสียงพูดพร้อมกันว่า "ไม่ใช่แน่นอน!"
อันอันชำเลืองมองน้องชาย จากนั้นบิดแขนเสื้อของเขา พูดอย่างอายๆ ว่า "คือ ท่านพ่อใหญ่พูดไว้!"
“เขาบอกพวกข้าว่าตั้งแต่นี้ไปห้ามคนอื่นเข้าใกล้ท่านแม่!”
เด็กน้อยทั้งสองพูดอย่าง "ตรงไปตรงมา" ราวกับสายฟ้าที่ฟาดลงมาที่โม่เหยียน
ทันใดนั้นเขาก็แสดงสีหน้าขมขื่น และรู้สึกหดหู่ใจยิ่งขึ้น เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ดูเหมือนเขาจะพูดอะไรไม่ได้ "ลูกกตัญญู" สองคนนี้ชั่งเชื่อฟังและกตัญญู พวกเขาจำคำพูดของเขาในใจได้จริงๆ ...
ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย โม่เหยียนมองดูเด็กที่ไร้เดียงสาและน่ารักสองคนต่อหน้าเขา และต้องนั่งลงอีกครั้งโดยแสร้งทำเป็นเสียใจเล็กน้อย
“เป็นอย่างนี้นี่เอง ในเมื่อซื่อจือไม่ต้องการให้โม่เหยียนไป ดังนั้นโม่เหยียนก็จะไม่ไป”
นิ้วของเขาค่อยๆ ลูบหัวของเด็กน้อยทั้งสอง แต่ดวงตาของเขาค่อยๆ รวบรวมมืดครึ้มที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้
“เอาล่ะ เมื่อซื่อจือทั้งสองกลับไปแล้ว อย่าลืมบอกองค์หญิงหมิงหวงว่าพรุ่งนี้โม่เหยียนจะไปขึ้นราชการกับองค์หญิงอย่างแน่นอน
"ตกลง!" น่าวน่าวมองสีหน้าของโม่เหยียนไม่ออก แต่ก็ตกลงอย่างมีความสุข อันอันก็พยักหน้าเช่นกัน
เด็กน้อยทั้งสองตัดสินใจอยู่ที่นี่เพื่อทานอาหารเย็น และพวกเขาก็ได้บอกหนานหว่านเยียนล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นโม่เหยียนจึงสั่งให้คนลงไปเตรียมอาหาร
ตอนนี้เขาคือแม่ทัพติ้งหย่วน สถานะก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน ห้องโถงมีทุกสิ่งที่ควรมีอยู่ และมีของเล่นบางอย่างที่เด็กๆ ชอบ ซึ่งเหมาะสำหรับอันอันและน่าวน่าวได้ฆ่าเวลา
หลังจากนั้นไม่นาน นางกำนัลก็เข้ามาพร้อมอาหารเย็น
เมื่อมองไปที่อาหารบนโต๊ะ อันอันน่าวน่าวก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงหม่านฮั่นฉวนสีในคืนนั้น
(หม่านฮั่นฉวนสี งานเลี้ยงที่มีทั้งอาหารแมนจูและชาวฮั่น )
แม้ว่าพวกเขาจะยังตะกละอยู่บ้าง แต่สำหรับสองพี่น้องแล้ว ตราบใดที่มันอร่อย พวกเขาจะไม่ปฏิเสธ
เด็กน้อยทั้งสองแทบรอไม่ไหวที่จะหยิบตะเกียบขึ้นมา
โม่เหยียนดูแลพวกเขาทั้งสองคนเป็นอย่างดี แกะกุ้งและปูให้พวกเขาโดยไม่รู้ตัว และทำเนื้อให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้เด็กน้อยสองคนเคี้ยวได้
เมื่อเห็นทุกการเคลื่อนไหวของโม่เหยียน น่าวน่าวก็ถอนหายใจอย่างไร้ความคิด "ข้าไม่รู้ว่าทำไม แต่ข้ามักจะรู้สึกว่าคุณชายโม่เหยียนคล้ายกับท่านพ่อใหญ่เลย"
“พวกท่านทั้งสองคนอ่อนโยนมาก ดีกับข้าและพี่น้องข้า ที่สำคัญ หล่อทั้งคู่ เป็นวิทยายุทธ์ทั้งคู่ และท่านทั้งสองก็รักท่านแม่!”
อันอันรีบต่อบทสนทนาทันที "ถูกต้อง ดังนั้นข้าและน้องชายตัดสินใจจะพาคุณชายโม่เหยียนไปหาท่านพ่อใหญ่—"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ อยากรู้ว่านางเอกจะใจอ่อนยอมยกโทษให้กู้โม่หานหรือเปล่า...
ฉันว่า ถ้าไม่ติดว่ามีไทเฮาคอยดูหนุนหลังรักและเอ็นดูนางเอก ป่านนี้น่าจะโดนกู้โม่หาน ทรมานจนตายล่ะ...
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...