ฮองเฮาเฉากล่าว “เช่นนั้น หม่อมฉันคิดว่าเราควรปล่อยพวกเขาไว้ตามลำพังก่อน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาอยู่ในเขตแดนของเป่ยโม่ ไม่ว่ามู่หรงเจี๋ยจะทรงพลังเพียงใด คงไม่เก่งกาจถึงขั้นทำให้โลกพลิกกลับหรอกกระมัง”
นางโบกมือส่งสัญญาณให้องค์รัชทายาทออกไป เขาจึงโค้งคำนับแล้วถอยออกไปจากห้อง
ฮองเฮาเฉาปรบมือแล้วตะโกนว่า “เชิญเข้ามาได้ สนมชิง”
ใบหน้าของจักรพรรดิอ่อนลงเล็กน้อย หลังจากได้ยินนางเชิญสนมชิงเข้ามา “ฮองเฮาช่างรู้ใจข้ายิ่งนัก”
ฮองเฮาเฉาหยิบจอกสุราขึ้นมาจิบด้วยรอยยิ้ม แสงในดวงตาของนางทอประกายวาบแล้วเลือนหายไป
หลังจากนั้นไม่นาน สนมชิงก็เข้ามา โดยมีฉินอยู่ในอ้อมแขน
นางสวมชุดนางสนมสีฟ้า ผิวพรรณขาวผ่องเป็นยองใยราวกับหิมะ ดวงตาประหนึ่งผลอัลมอนด์ จมูกโด่งสวยได้รูป ริมฝีปากแดงเนียนละเอียด ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงแบบนี้ ชุดกระโปรงยาวซึ่งมีกระดุมสองแถวแนบชิดติดกับลำตัว เผยให้เห็นอกขาวสล้าง และลำคอเรียวระหง นางมวยผม เดินนวยนาดอ้อยอิ่ง เป็นรูปลักษณ์ที่เย้ายวนใจจนยากจะละสายตา
เมื่อจักรพรรดิเห็นนาง ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง
ฮองเฮายืนขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ ข้ายังมีธุระที่ต้องไปจัดการต่อ สนมชิง ถวายการรับใช้ฝ่าบาทด้วย เมื่อครู่นี้ฝ่าบาททรงกังวลพระทัยไม่น้อย”
“เพคะ หม่อมฉันถวายบังคมฮองเฮา!” สนมชิงผู้มีรูปร่างสวยงามราวเทพปั้น ริมฝีปากสีแดงของนางเผยอออกเล็กน้อย คำพูดที่นุ่มนวลของนางเหมือนกับสายน้ำหยด ทำให้ผู้คนหลงมึนเมาเพียงแค่ยลยินเสียงของนาง
ฮองเฮามองนางด้วยสายตามีความหมายแล้วเดินจากไปอย่างช้า ๆ กระโปรงของนางพาดผ่านบันไดหินหยกขาวของพระราชวัง เผยให้เห็นความสง่างามและน่าเกรงขามที่ไม่อาจอธิบายได้ของนาง
สนมชิงไม่ลืมมารยาท “หม่อมฉันสนมชิง ถวายบังคมฝ่าบาท!”
จักรพรรดิยิ้มกว้างทันทีและโบกมือ “มานี่เร็ว!”
“เพคะ ฝ่าบาท!” สนมชิงเดินเข้ามา กรีดกรายนั่งเกยบนตักของจักรพรรดิ วางฉินลงบนโต๊ะ จากนั้นหันกลับมากอดก่ายเขาแล้วยิ้มอย่างตระการตา “หม่อมฉันได้ยินฮองเฮากล่าวว่าฝ่าบาททรงกังวลพระทัย ขอบังอาจถามได้หรือไม่ว่าฝ่าบาทถูกสิ่งใดทำให้ไม่สบอารมณ์หรือเพคะ?”
จักรพรรดิ์เอื้อมมือไปบีบคางหญิงสาว “ตอนนี้ไม่หลงเหลือความกังวลแล้ว ข้ากลับภาคภูมิใจเอามาก ๆ”
“ภูมิใจหรือ? เช่นนั้นมีข่าวดีอะไรกัน? เหตุใดไม่ทรงบอกหม่อมฉันให้รู้สึกภาคภูมิใจด้วยเล่าเพคะ?” สนมชิงปิดปากแล้วหัวเราะเบา ๆ
“ข้าหลอกผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งต้าโจวให้มาที่นี่ได้สำเร็จ หากสนมรบไม่มีมู่หรงเจี๋ยสักคน คงเป็นเรื่องยากที่ต้าโจวจะชนะ” จักรพรรดิหัวเราะ ดวงตาของเขาเป็นประกายสดใส
แน่นอนว่าฮองเฮาคือผู้ที่สนับสนุนทุกความสำเร็จของเขา
นิ้วเรียวยาวของสนมชิงกวาดไปตามสายฉิน ทำให้เกิดเสียงดังกึกก้อง ทันใดนั้นทำนองเพลง ‘ทวนทองอาชาเหล็ก’ ก็เริ่มแกว่งไกวราวกับมีชีวิต ก่อให้เกิดจินตนาการล้ำลึกว่ากองทหารหลายพันนายกำลังควบม้าทะยานไปข้างหน้า บ่งบอกว่าแม่นางคนนี้มีทักษะในการบรรเลงมากเพียงใด
จักรพรรดิหลับตาลง จินตนาการว่าอาชาทองของกองทัพเป่ยโม่ใกล้จะข้ามเขตพรมแดนของแผ่นดินต้าโจว และมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงแห่งต้าโจวอย่างไม่หยุดยั้ง
ต้าโจวคือความฝันอันสูงสุดของเขา ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ สตรีงามผุดผาด ทั้งยังมีแม่นางหยวนผู้โด่งดังระบือนามไปทั่วแคว้น
เขาเคยพบพานนางเพียงครั้งเดียว และได้เห็นภาพเขียนของนางเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ทว่าเขาไม่มีวันลืมเลือนไปตลอดชีวิต หากไม่สามารถคว้านางมาลิ้มรสได้ เช่นนั้นจะเป็นมหาจักรพรรดิประสาอะไร?
อ๋องฉีออกมาจากห้องตำราหลวง ยืนนิ่งอยู่ตรงทางเข้าพระราชวังโดยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนต่อ
เขาไม่กล้ากลับจวน เพราะไม่รู้ว่าจะอธิบายให้ผู้สำเร็จราชการฟังอย่างไร คำสัญญาก่อนหน้านี้ของเขากลายเป็นผายลมไปแล้ว
หนทางสุดท้าย คือเขาต้องไปเข้าเฝ้าหวงไท่โฮ่ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...