“แม่ทัพฉิน ข้าได้ยินชื่อเสียงของท่านมานานแล้ว!” จื่ออันเป็นคนแรกที่กล่าวทักทาย
“ฉินโจวถวายบังคมพระชายา!” นางไม่ได้ลงจากหลังม้า แต่โค้งตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยด้วยท่าทีเหยียดหยาม ขณะที่มุมริมฝีปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยด้วยความดูถูก
ถึงกระนั้น สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเหยียดหยามคือรังสีสังหารที่เย็นเยียบ
จื่ออันกล่าว “ท่านแม่ทัพสุภาพยิ่งนัก”
จื่ออันไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยองเกินไป อีกทั้งไม่ตกใจหรือเกรงกลัว นางตอบด้วยท่าทีสงบนิ่ง เพราะรู้ดีว่าการมาเยือนของฉินโจวในครั้งนี้จะต้องไม่ง่ายอย่างแน่นอน
ฉินโจวคลี่ยิ้ม “พระชายาเดินทางมาหลายพันลี้เพื่อมาที่เป่ยโม่ของเรา ทั้งยังทำงานหนักทั้งวันทั้งคืนเพื่อต่อสู้กับโรคระบาด ครั้งนี้ข้ากลับมาที่เมืองหลวง แต่ยังไม่ได้พบหน้าใคร เพราะข้าต้องรีบรุดมาหาพระชายา เพื่อขอบพระทัยเป็นอย่างแรกเพคะ”
“ยิ่งดียิ่งนักท่านแม่ทัพ!” แน่นอนว่าจื่ออันรู้ว่ามีบางอย่างซ่อนอยู่ภายใต้คำขอบคุณ
ฉินโจวจ้องมองอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นลงจากหลังม้าแล้วเดินเข้าไปหาจื่ออันก่อนจงใจมองไปรอบ ๆ “หมอจากกรมฮุ่ยหมินไม่ได้ถูกส่งตัวมาที่นี่หรือ? เหตุใดถึงไม่เห็นพวกเขาเลย? อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นเจ้าบ้าน เหตุใดถึงปล่อยให้พระชายาทำงานเพียงลำพัง? พวกคนขี้ขลาดเหล่านี้จะต้องได้รับบทเรียนเสียแล้ว”
เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านได้ยินคำพูดของฉินโจว เขาก็รีบรายงานอย่างรวดเร็ว “รายงานท่านแม่ทัพ ตั้งแต่มาที่หมู่บ้านมู่ไจ้ พวกเขาก็ไม่ทำอะไรเลย และเอาแต่ใส่ร้ายพระชายาไปวัน ๆ หากไม่เชื่อ พวกเขาถูกใต้เท้าซูจับตัวแล้วขังไว้ในกระท่อมขอรับ”
“จริงรึ?” ฉินโจวยกยิ้มอย่างเย็นชา ขณะมองไปที่หัวหน้าหมู่บ้าน “หมอจากกรมฮุ่ยหมินจะใส่ร้ายพระชายาไปเพื่ออะไร เล่าให้ข้าฟังหน่อยซิ”
หัวหน้าหมู่บ้านสังเกตเห็นว่าบางอย่างผิดปกติไป เพราะใบหน้าของฉินโจวอัดแน่นด้วยความเย็นชา
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อโพล่งออกไปแล้ว เขาก็จำเป็นต้องกล่าวต่อ ดังนั้นจึงกัดฟันกล่าวว่า “เรื่องเป็นเช่นนี้ขอรับ หมอเหล่านั้นกล่าวหาพระชายาอย่างผิด ๆ โดยอ้างว่านางมีเจตนาร้ายแอบแฝง ยิ่งไปกว่านั้นยังใส่ความนางอย่างเกินจริง และบอกอีกว่าพระชายาต้องการทำร้ายพวกเขา ช่างไร้สาระเสียจริง”
ฉินโจวหันมองจื่ออัน “ไร้สาระยิ่งนัก”
นางเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายทีละก้าวอย่างช้า ๆ “พระชายา ท่านจะไม่เชิญข้าเข้าไปนั่งพักสักหน่อยหรือ?”
“พื้นที่โรคระบาดเต็มไปด้วยเชื้อโรค ท่านแม่ทัพโปรดกลับไปเถิด” จื่ออันตอบ
เห็นได้ชัดว่านางเป็นผู้มาเยือน แต่เมื่อเข้าไปในเรือน นางกลับดูเหมือนเป็นเจ้าบ้าน
จื่ออันนั่งลงพลางมองดูอีกฝ่าย “ท่านแม่ทัพเพิ่งกลับมายังเมืองหลวง แต่มาที่หมู่บ้านมู่ไจ้เพื่อมาหาข้าเป็นอันดับแรก ท่านต้องการอะไรหรือไม่?”
ฉินโจวเป็นแม่ทัพที่มีนิสัยตรงไปตรงมา ดังนั้นนางจึงไม่พูดอ้อมค้อม “ท่านมาที่เป่ยโม่เพื่อจุดประสงค์อะไร?”
“จุดประสงค์?” จื่ออันคลี่ยิ้มประชดประชัน “มิใช่ว่าท่านและอ๋องฉีขอให้ข้ามาหรอกหรือ? พวกท่านส่งจดสาส์นไปให้องค์จักรพรรดิแห่งต้าโจวและเชิญข้ามาที่นี่ เช่นนั้นจุดประสงค์ที่เชิญข้ามาที่นี่คืออะไรเล่า? แล้วข้ามาที่นี่เพื่ออะไร?“
“พวกเราขอให้ท่านมาที่นี่เพื่อรักษาโรคระบาด อย่างไรเสีย ท่านก็มาถึงที่นี่นานแล้ว การรักษาได้ผลหรือไม่เล่า?” ฉินโจวกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“รักษามารยาทด้วย!” จื่ออันกล่าวอย่างเย็นชา “อย่าลืมว่าข้าไม่ใช่ทาสหรือคนรับใช้ของท่าน ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อการสงบศึก มิเช่นนั้น ข้าจะเกี่ยวข้องกับเป่ยโม่ได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้ข้าใช้ชีวิตอย่างสุขสบายและสงบสุข แต่ตอนนี้ต้องรับมือกับความตายทุกวี่วัน แล้วท่านคิดว่าข้ามาที่นี่เพื่ออะไรเล่า?”
“เป็นเพราะข้าหลงเชื่อมู่หรงเจี๋ย” ฉินโจวกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...