อ๋องหนานหวายรู้เพียงว่ามู่หรงจ้วงจ้วงนั้นร่ำรวย แต่เขาไม่รู้ว่านางจะรวยมากถึงเพียงนี้ เขารู้สึกตื่นเต้นมาก "เสด็จแม่ ด้วยเงินจำนวนนี้ เราสามารถซื้ออาวุธเพิ่มได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ"
กุ้ยไท่เฟยกล่าว "ครั้งก่อนที่เจ้าให้คนส่งข่าวมาบอกว่าเจ้าจะซื้ออาวุธการยิงธนูในแคว้นต้าเยว่ ตอนนี้เจ้าเริ่มติดต่อได้เลย"
“ต้องรอรอบต่อไปพ่ะย่ะค่ะ วันที่ข้าเข้าเมืองมา ข้าได้ติดต่อกับพ่อค้าอาวุธ พวกเขาบอกว่ากำลังเตรียมขายอาวุธชุดนี้ให้กับคนของอู่หลินเหมิงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
กุ้ยไท่เฟยพูดเสียงเย็น "รอรอบต่อไปไม่ได้ รีบไปแย่งมาซะ"
“ลูกถามแล้ว แต่พวกเขาบอกว่าได้ทำข้อตกลงกับอู่หลินเหมิง และจ่ายเงินมัดจำกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
“เช่นนั้นก็คืนเงินมัดจำให้เป็นสองเท่า ต้องเอาอาวุธชุดนี้มาให้ได้ เจ้ากลับมาที่เมืองหลวงในครานี้ ไม่ได้นำคนมาเยอะ แต่ข้ามีคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชา แต่พวกเขาล้วนแต่ขาดอาวุธ ดังนั้นจึงต้องสำรองไว้เสียก่อน”
“คืนเงินมัดจำหรือพ่ะย่ะค่ะ? หากพวกเขายอมยกเลิกการจอง พวกเราต้องเป็นคนจ่ายค่ามัดจำ ตอนนี้พวกเรายังไม่ได้เงินของท่านอา แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายกัน?”
“เงินมัดจำสองเท่านั้นข้าสามารถจ่ายให้ได้ เจ้าไปเจรจากับเขา ขอให้เขาเก็บอาวุธการยิงธนูไว้ให้ก่อน เมื่อได้เงินมาแล้ว เราให้ราคาที่สูงกว่าอู่หลินเหมิงหนึ่งส่วนสิบ พ่อค้าอาวุธเหล่านี้เห็นแก่เงิน หากได้ราคาที่ดีกว่า พวกเขาก็ไม่สนใจเรื่องความซื่อสัตย์หรอก"
อ๋องหนานหวายคิดอยู่ครู่หนึ่ง "แต่ก็ยังกล่าวไม่ได้ว่าเราจะได้เงินแน่นอน"
“ตอนนี้ยังไงเงินนั่นก็เป็นของเราแน่ ฟังข้า เจ้าจงไปเจรจาซะ หากไม่มีอาวุธในมือ ต่อให้คนจะเยอะเท่าใดก็ไม่มีประโยชน์” กุ้ยไท่เฟยกล่าว
เมื่อเห็นว่านางมั่นใจ อ๋องหนานหวายจึงกล่าว"พ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นลูกจะไปติดต่อเขาเดี๋ยวนี้"
อย่างไรก็ตาม เขายังคงกังวลอยู่มากและพูดว่า "เสด็จแม่ หากเราต้องการอาวุธชุดนี้ เราต้องแน่ใจว่าเรามีเงินเพียงพอที่จะจ่ายพวกเขา มิฉะนั้น ลูกจะกลายเป็นคนที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ และพวกเขาจะไม่ทำการค้ากับลูกอีก นอกจากนี้ เราไม่สามารถรับมือกับคนพวกนั้นได้ง่าย ๆ ถึงเราจะไม่ได้กลัว แต่ก็ไม่จำเป็นต้องไปมีเรื่องกับพวกนั้นนะพ่ะย่ะค่ะ"
เนื่องจากตั๋วเงินของท้องพระคลังหลวงนั้นสามารถแลกเปลี่ยนได้ที่ท้องพระคลังหลวงเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถมอบตั๋วเงินนี้ให้กับพ่อค้าอาวุธโดยตรงได้ จึงต้องไปนำเงินออกมาก่อน และฝากเข้ากับคลังการเงินส่วนบุคคล
แหล่งฝากเงินบุคคลเพื่อให้พวกเขานำไปเบิกได้
ดังนั้นอ๋องหนานหวายจึงกังวลว่าการนำเงินหรือทองจำนวนมากเช่นนี้ไปฝากไว้ในคลังการเงินส่วนบุคคล จะเป็นการกระทำที่อุกอาจเกินไป และอาจก่อให้เกิดความสงสัยได้
ด้วยเหตุนี้เขาจึงขอให้ใครสักคนตามหาท่านโหวเหลียง และให้ตั๋วเงินท้องพระคลังหลวงแก่ท่านโหวเหลียง เพื่อแลกตั๋วเงินของร้านติ้งเฟิงของเขา เนื่องจากท่านโหวเหลียงร่วมมือทางการค้ากับร้านติ้งเฟิงของตระกูลหู ดังนั้นนี่จึงเป็นความลับที่ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้
โหวเหลียงยอมแลกเปลี่ยนตั๋วเงินให้ แต่เขานำเรื่องนี้ไปบอกกับหูฮวนสี่ หูฮวนสี่รู้สึกสนใจขึ้นมา เขาจึงสั่งให้คนคอยจับตาดูว่าใครเป็นคนนำตั๋วเงินมาแลกกับตั๋วเงินของท่านโหวเหลียง
ในคืนนั้น หูฮวนสี่ยังบอกเรื่องนี้กับจื่ออันอีกด้วย จากนั้นจื่ออันก็นำเรื่องนี้ไปบอกกับมู่หรงเจี๋ย มู่หรงเจี๋ยที่กังวลว่าเขาจะไม่สามารถหาพ่อค้าอาวุธรายนี้ได้นั้น ข่าวของหูฮวนสี่นั้นมีประโยชน์มาก มู่หรงเจี๋ยกล่าวกับจื่ออัน "หูฮวนสี่เป็นนักการค้าโดยกำเนิด สัมผัสของนางนั้นเฉียบแหลมมาก เจ้าจงสานสัมพันธ์กับนางเข้าไว้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...