ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ นิยาย บท 833

จื่ออันกล่าวว่า “ข้ารู้ ทว่าหากฝ่าบาททรงฟื้นขึ้นมา สถานการณ์ของเราก็จะได้รับการแก้ไข และท่านสามารถปลดระวางภาระได้ในเวลานั้น”

หากองค์จักรพรรดิยังมีพระชนม์ชีพอยู่ ทั้งองค์รัชทายาทและอ๋องหนานหวายก็ไม่ถือเป็นภัยคุกคามอีกต่อไป แม้ว่าอ๋องหนานหวายจะตัดสินใจยอมแพ้ แต่นั่นคือจักรพรรดิมังกรตัวจริง ผู้ครองบัลลังก์มานานหลายปี ข้าราชบริพารทั้งหลายย่อมสนับสนุน แตกต่างจากมู่หรงเจี๋ย

ต่อให้เขาไม่ยอมแพ้แล้วอย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากองค์จักรพรรดิทรงหายจากพระอาการประชวรและกลับมาครองอำนาจอีกครั้ง อ๋องหนานหวายไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องกลับไปยังแคว้นทิศใต้ อย่างน้อยในช่วงสามถึงห้าปีหลังจากนี้คงไม่ก่อความวุ่นวายใด ๆ ภายในสามถึงห้าปีเดียวกันนี้ นางต้องหาทางแก้พิษได้แน่

มู่หรงเจี๋ยยังคงไม่เห็นด้วย เขาไม่หวั่นเกรงเสียงติฉินนินทาของใคร หรือหวาดกลัวคำครหาของผู้ใดทั้งนั้น แต่เขาไม่สามารถปล่อยให้จื่ออันตกอยู่ในวังวนเช่นนั้นได้

“มู่หรง ให้ข้าเข้าไปในวังเถิด อย่างน้อยขอเพียงข้าได้สังเกตอาการของพระองค์ หากข้าแน่ใจแล้ว ข้าจะรีบร้องขอคำสั่งเรียกเข้าวังเพื่อทำการรักษาทันที หากจนแล้วจนรอดยังไร้หนทาง ข้าสัญญาว่าจะยอมแพ้” จื่ออันวิงวอนขอร้อง

มู่หรงเจี๋ยถามกลับ “เอาล่ะ เช่นนั้นลองบอกข้ามาหน่อยว่า เจ้ารู้ข้อมูลเกี่ยวกับแผลรูปหน้าคนมากน้อยเพียงใด?”

จื่ออันส่ายหน้า “ตามความเข้าใจของข้า โรคหน้าผีเป็นโรคที่ข้าเคยอ่านพบมาก่อน เพียงแต่ไม่อาจตัดสินชี้ขาดว่าใช่หรือไม่ ส่วนใบหน้าคล้ายมนุษย์ขนาดเล็กที่ปรากฏอยู่บนแขนของพระองค์ ข้าต้องถามก่อนว่ามันเคยเกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่ บางทีมันอาจปรากฏขึ้นก่อนแล้วแต่ท่านไม่ทราบ”

“หลังจากเกิดแผลรูปหน้าคนเล็ก ๆ นั้นขึ้น จุดกระฝ้าก็เริ่มแผ่ลามขึ้นพระพักตร์ ทั้งยังปรากฏรอยแดงขึ้นมาตามพระวรกาย ลักษณะบวมเป่งนูนขึ้นเล็กน้อย” นี่คือสิ่งที่หมอหลวงบอกกับมู่หรงเจี๋ย มู่หรงเจี๋ยไม่เข้าใจศัพท์เกี่ยวกับพยาธิวิทยา ดังนั้นจึงทำได้เพียงถอดความจากสิ่งที่หมอหลวงกล่าว...

“พอจะมีบันทึกทางการแพทย์เกี่ยวกับพระอาการของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงหรือไม่? ข้าอยากอ่าน” จื่ออันถาม

“มี มีเอกสารบันทึกจากราชวงศ์ก่อนจำนวนมากอยู่ในห้องตำรา พวกมันถูกบันทึกโดยนักประวัติศาสตร์ทั้งหมด แม้เป็นความจริงบ้าง ไม่เป็นความจริงบ้าง แต่ก็ควรมีเนื้อหาครอบคลุม”

สิ่งที่นักประวัติศาสตร์บันทึกไว้ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลที่ทางราชสำนักมีคำสั่งให้บันทึก ถึงกระนั้นก็มีส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงอยู่บ้าง ที่นักประวัติศาสตร์เขียนแยกส่วนไว้และส่งต่อกันมา

พวกเขาคาดหวังเพียงว่านักประวัติศาสตร์ผู้บันทึกเรื่องราวเหล่านั้น จะเขียนบันทึกทางประวัติศาสตร์ด้วยทัศนคติที่ปราศจากการบิดเบือน

ทั้งสองกลับไปที่ห้องตำรา และเริ่มค้นหาบันทึกพระราชประวัติของจักรพรรดิหมิง

หน้าสุดท้ายมีข้อความบันทึกไว้ว่า จักรพรรดิหมิงทรงมีจุดแดงขึ้นตามพระพักตร์ และมีแผลรูปใบหน้ามนุษย์ขนาดเล็กที่หน้าท้อง ใบหน้านั้นเล็กจ้อย มีตา ปาก จมูกครบ ไม่มีใบหู ปากเผยออ้าราวภูตผี

ทั้งสองเข้าไปในพระราชวัง มู่หรงเจี๋ยจัดแจงให้จื่ออันเข้าไปพร้อมกับเขาโดยถือกล่องโสมไว้และก้มหน้าลง

มู่หรงเจี๋ยไม่เคยพาข้ารับใช้ติดตามเข้าวังมาแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นทหารรักษาพระองค์ประจำวังซีเหวยจึงไม่สนใจเขา ทว่าตอนนี้เขากลับพาคนเข้ามาด้วย นายทหารรักษาพระองค์จึงหยุดเขาไว้

มู่หรงเจี๋ยเอ่ยเสียงเคร่งขรึม “หลีกไปให้พ้น แม้แต่ข้าเจ้ายังบังอาจขวางทางอย่างนั้นหรือ?”

นายทหารรักษาพระองค์กล่าวตอบด้วยความยำเกรง “ท่านอ๋อง ฝ่าบาททรงมีรับสั่งห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป ท่านได้รับพระราชานุญาตให้เข้าไปได้ ทว่าไม่สามารถพาใครเข้าไปด้วยได้”

มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างเฉยเมย “แล้วหากข้ายืนกรานว่าจะพาเขาเข้าไปด้วยเล่า?”

นายทหารรักษาพระองค์รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย “นี่…”

ทหารรักษาพระองค์ประจำวังซีเหวยล้วนได้รับความไว้วางใจจากองค์จักรพรรดิ พวกเขาย่อมรู้ดีแก่ใจว่า เมื่อใดก็ตามที่องค์จักรพรรดิสิ้นพระชนม์ พวกเขาทั้งหมดก็จะถูกฝังกลบตามไปด้วยเช่นเดียวกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์