มู่หรงเจี๋ยตอบกลับอย่างเรียบเฉย “ข้าทำให้หลายคนขุ่นเคืองมานักต่อนัก ไม่มีผู้ใดสามารถรับประกันได้ว่าไม่มีใครต้องการเด็ดหัวข้าทิ้ง ดังนั้นคงเป็นการดีหากมีทางออกอื่นเพื่อเอาตัวรอด”
จื่ออันถอนหายใจเบา ๆ “จริงด้วย”
เขาเพิ่งดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เมื่อไม่นานมานี้ ก่อนจะกลายมาเป็นผู้สำเร็จราชการแทน เขาก็เป็นทหารกล้าที่มีความห้าวหาญเยี่ยงชายชาตรีอยู่ในตัว
เมื่ออยู่ในจุดที่มีปืนสีดำจ่อหน้ารายล้อมเช่นนี้ นานวันเข้าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่
หนี่หรงขอให้ใครบางคนยกอ่างอาบน้ำ และนำน้ำร้อนเข้ามาให้ จากนั้นจื่ออันก็อาบน้ำที่มีกลิ่นหอมจรุงอยู่ภายในคุกใต้ดินนั้น
การนอนแปลกที่อาจไม่คุ้นเคยสำหรับนางก็จริง ทว่านางไม่ใช่คนบอบบาง ต่อให้อยู่บนภูเขาสูงชัน นางก็ผล็อยหลับได้ทุกเมื่อ ตราบเท่าที่นางเหนื่อยล้าเต็มทน
นอกจากนี้ เตียงของพวกเขาไม่อ่อนนุ่มเอาเสียเลย มู่หรงเจี๋ยไม่เคยชินกับการนอนบนเตียงแข็ง แต่เมื่ออยู่ในจุดนี้ เขาก็พร้อมจะแบกรับความยากลำบาก
ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่สบายเลย เนื่องจากตอนนี้เขาไม่มีหมอนนุ่ม ๆ รองรับ หรืออยู่บนเตียงสูง ๆ
ที่ไหนมีนาง ที่นั่นย่อมเปรียบเสมือนบ้าน
“หวงไท่โฮ่วเรียกท่านให้เข้าเฝ้า เหตุใดท่านถึงไม่ยอมไป?” จื่ออันลูบต้นแขนแล้วถามอย่างครุ่นคิด
“อย่าด่วนกังวลไปเลย” มู่หรงเจี๋ยโอบกอดนางไว้ ไล้ปอยผมไปทัดไว้ข้างหูนาง จากนั้นคว้าเหยือกน้ำส้มสายชูอันเดิมออกมาจากที่ไหนสักแห่ง “มา จิบเสียหน่อย”
จื่ออันรีบผลักออกไป “ไม่เอา!”
“ดื่มเถอะ ข้าจะดื่มเป็นเพื่อนเจ้าเอง” หลังจากมู่หรงเจี๋ยกล่าวเช่นนั้น เขาก็ยกจขึ้นจิบครั้งหนึ่ง แล้วยื่นให้นาง คะยั้นคะยอจะให้นางดื่มให้ได้
ตอนแรกจื่ออันคิดว่าเขาแค่ดื่มน้ำส้มสายชูเพียงเพื่อทดแทนการติดสุรา ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เขาไม่เพียงดื่มมันเป็นกิจวัตร แต่ยังบังคับให้นางดื่มแทบทุกวัน จนนางรู้สึกประหนึ่งอยากจะอาเจียนทุกครั้งที่ได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวของน้ำส้มสายชู
“บอกข้ามาตามตรง ท่านดื่มน้ำส้มสายชูมากถึงเพียงนี้ไปเพื่ออะไรกัน?” จื่ออันเค้นถาม
มู่หรงเจี๋ยเพิกเฉยต่อคำถามของนาง ยกจิบอีกครั้งแล้วบ้วนทิ้ง ก่อนจะโน้มตัวไปจูบจื่ออัน
ซุนฟางเอ๋อร์ยืนอยู่หน้าระเบียง เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่นั้นบางเบา ทำให้นางตัวสั่นสะท้านจากความหนาวเย็น ถึงกระนั้นนางก็ไม่คิดจะหาเสื้อผ้ามาสวมทับ และไม่มีทีท่าว่าจะเดินวกกลับเข้าไปในห้อง
นางกัดฟันแน่น แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง พืชไม้เลื้อยหน้าระเบียงถูกนางฉีกออกเป็นชิ้น ๆ
“เห็นแล้วหรือยัง? แม้นางจะถูกคุมขัง เขาก็ยังย้ายไปนอนกับนางในคุก เขาไม่มีความรู้สึกอย่างนั้นหรือ? เขาแค่ไม่ได้รักเจ้าเท่านั้น ต่อให้เจ้าจะพยายามมากเพียงใด เขาก็ไม่มีวันรักเจ้าอยู่วันยังค่ำ” เสียงเย้ยหยันของอ๋องหนานหวายดังขึ้น ทุกคำกล่าวเปรียบเหมือนมีดคมกริบทิ่มแทงหัวใจนาง
ใบหน้าของซุนฟางเอ๋อร์ราบเรียบ กดข่มความเกลียดชังไว้ภายใน ตอบกลับไปเสียงเบา “แล้วอย่างไร?”
“เปล่า ข้าเพียงจำสิ่งที่เจ้าเคยพูดก่อนหน้านี้ได้ ต่อให้มู่หรงเจี๋ยไม่ฆ่านาง เขาก็ขับไล่ไสส่งนางออกไปอยู่ดี ข้าอดคิดไม่ได้ว่ามันช่างน่าขันยิ่งนัก เจ้าไปเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงคิดว่าเขาจะทำเช่นนั้น เพียงเพราะเจ้าเอาชนะใจเขาไม่ได้ จึงคิดว่าเขาไม่มีหัวใจอย่างนั้นหรือ?”
“พอได้แล้ว!” ซุนฟางเอ๋อร์รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
น้ำเสียงของอ๋องหนานหวายเย็นยะเยือกพอ ๆ กับหยาดฝนในช่วงฤดูหนาว “ข้าแค่อยากจะย้ำเตือนเจ้า อย่าได้ทำลายงานใหญ่เพียงเพราะความหลงผิดชั่ววูบ มู่หรงเจี๋ยไม่รักเจ้า และตลอดชีวิตของเขาก็จะไม่มีวันรักเจ้าเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้น เขายังหัวเราะเยาะความจริงใจของเจ้าอย่างไร้ความปรานี ผู้ชายแบบนี้ เจ้ายังอยากแสดงความเมตตาต่อเขาอีกหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...