ครั้นอาหารฝีมือป้าชุ่ยยู่ทำเสร็จพอดี ก็มีคนมาเพิ่มอีกจริง ๆ
ตอนนี้เป็นอ๋องอันที่มา เขาไม่ได้ทักทายผู้ใดด้วยซ้ำ แต่เดินมานั่งลงข้างตานชิงเสี้ยนจู่เสียดื้อ ๆ
“วันนี้ท่านอ๋องไม่ได้เข้าวังหรอกหรือ?” ตานชิงเสี้ยนจู่ถามด้วยรอยยิ้ม
“ไปแล้วและกลับมาแล้ว เสด็จแม่รู้สึกไม่ค่อยสบาย อยู่กับนางได้ไม่นานก็แยกย้าย” อ๋องอันกล่าว
“พี่รอง ท่านมาที่บ้านแม่ยายแก่ของข้าเช่นนี้ ก็เหมือนกับได้กลับบ้านของตนเอง ท่านไม่ละอายใจเลยหรือ?” มู่หรงเจี๋ยถาม
อ๋องอันชำเลืองมองเขาเบา ๆ “ก้มหน้ากินข้าวต่อไปเถอะ ลมพัดแรงออกอย่างนี้ ไม่กลัวมันพัดลิ้นขาดเมื่อเจ้าพูดจาไร้สาระหรอกรึ?”
จื่ออันมองไปที่มารดาของตน เห็นว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของนางสดใสยิ่งขึ้น ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้างบ้าง ดูเหมือนว่านางเองก็หวังว่าอ๋องอันจะมาอยู่เคียงข้างนางในค่ำคืนนี้
อาหารค่ำส่งท้ายปีเก่าเสร็จสิ้นลงท่ามกลางเสียงพูดคุยและหัวเราะของทุกคน อ๋องอันเจริญอาหารราวกับไม่ได้กินอาหารในวังมาก่อนหน้านี้
หลังจากรับประทานอาหาร เขาบอกว่าเขาจะขอให้ตานชิงเสี้ยนจู่ช่วยเขียนภาพให้เขาหน่อย จากนั้นก็ลากอีกฝ่ายไปยังลานบ้าน
ถ่านไฟในเตากำลังลุกโชน บรรยากาศภายในบ้านนั้นอบอุ่น แขกเหรื่อทยอยมาเยี่ยมเยียนทีละคน
เนื่องจากที่นี่อยู่ใกล้เมือง ไม่ว่าจะเป็นหูฮวนสี่ เซียวท่าและภรรยาของเขา จ้วงจ้วง โหรวเหยา และอื่น ๆ ต่างก็มาหากันทั้งหมด
ช่วงนี้ทุกคนไม่ค่อยมีโอกาสได้รวมตัวกันสักเท่าไรเลย ฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงว่าคืนนี้จะคึกคักรื่นเริงเพียงใด
จื่ออันชื่นชอบวันที่เต็มไปด้วยแขก ต่างฝ่ายต่างหัวเราะและพูดคุยเกี่ยวกับวันชื่นคืนสุขในอดีตร่วมกัน ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าปีที่ผ่านมาทั้งเงียบสงบและสวยงามอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่กี่วันหลังจากขึ้นปีใหม่ บรรยากาศโดยทั่วไปช่างคล้ายกับวันปีใหม่ของจื่ออันในยุคปัจจุบัน แต่ละครอบครัวเดินทางไปไหว้ปีใหม่หรืออะไรทำนองนั้น
อย่างไรก็ตาม มู่หรงเจี๋ยไม่ต้องการเดินทางไปไหว้ปีใหม่ หรือแม้แต่อยากให้ใครเดินทางมาไหว้ปีใหม่ที่จวนตนเอง สำหรับเขาแล้ว เทศกาลวันตรุษคือวันแห่งการพักผ่อนปีละครั้งซึ่งมีค่ามาก
“แล้วอาการของฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง?” มู่หรงเจี๋ยถามต่อ
“ไม่ค่อยดี” จื่ออันส่ายหน้า “ฝ่าบาทไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่าเลยในช่วงสองสามวัน หลังจากปีใหม่ ทั้งยังมีอาการบวมน้ำ หลังเสวยพระโอสถแล้วอาการบวมก็ไม่ทุเลา ตอนนี้จึงต้องพึ่งพาการฝังเข็มเท่านั้น”
“เขายังถามไถ่เกี่ยวกับแม่ยายแก่อยู่หรือไม่?”
“ไม่แล้ว”
“ถ้าเขาถามขึ้นมาอีก เจ้าต้องระมัดระวังในการตอบคำถามให้มาก ข้าไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ อีกอย่าง หากสบโอกาสเจ้าก็ควรเปรยถามเรื่องการเล่าเรียนขององค์ชายสามด้วย ข้าเคยสอบถามเมื่อหลายปีก่อน อาจารย์กล่าวว่าเขาดื้อรั้น ไม่ค่อยยอมเชื่อฟัง หรือเจ้าอาจไปคุยกับสนมเหมยดูก็ได้”
“อืม เข้าใจแล้ว” จื่ออันตอบ
ผ่านช่วงปีใหม่ไป ข่าวร้ายก็ตามมา จื่ออันมีความสุขอยู่กับบรรยากาศอันเงียบสงบของวันตรุษได้ไม่นานนัก ไม่ทันไรก็มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น จนนางเริ่มปวดเศียรเวียนเกล้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...