หลังจากที่จื่ออันสงบลง ก็โต้กลับไปว่า “ที่ว่ากันว่าเวลาเปลี่ยนคนย่อมเปลี่ยนนั้นคงเป็นความจริง หากดวงวิญญาณของฮองไทเฮาอยู่ที่แดนสุขาวดี ก็ไม่รู้ว่านางจะโกรธแค้นเพียงใด เมื่อเห็นผู้คนรอบตัวนางถูกสนมอี้ดูถูกเช่นนี้”
“ไม่ต้องมาพูดเรื่องนี้กับข้า ข้าไม่เคยเชื่อเรื่องผี เมื่อมีคนตายก็คือตาย สูญสลายหายไป นางไม่มีทางรู้หรอกว่าข้าทำอันใดกับคนที่อยู่ข้างหลังนาง จะมาแค้นเคืองอันใดกัน”
นางยกมือขึ้น “เอาล่ะ อย่ามายุ่งวุ่นวายกับข้า ตอบข้ามาตามตรง ข้าไปตำหนักเย็นได้หรือไม่”
จื่ออันมองซุนกงกงเหมือนมีบางอย่างจะพูด
ซุนกงกงพยักหน้าให้จื่ออันเบา ๆ บ่งบอกว่าเขาจะยินยอมให้เข้าไปเยี่ยม
แม้ว่าจื่ออันจะไม่รู้ว่าซุนกงกงวางแผนอันใดไว้ แต่เขาก็มีไหวพริบอยู่เสมอ บางทีถ้าสนมอี้เข้าไปที่นั่น ก็อาจจะไม่พบอันใดเลยก็เป็นได้
นางจึงพูดว่า “ตกลง ในเมื่อสนมอี้ต้องการเห็นก็ไปเถิด แต่ข้าต้องไปด้วย เพราะอย่างไรเสีย สนมเหลียงก็ติดเชื้อหวัดที่สามารถแพร่เชื้อได้”
“เจ้าชอบเป็นสุนัขที่คอยติดตามคนอยู่แล้ว แล้วข้าจะห้ามเจ้าได้อย่างไร?” สนมอี้พูดอย่างเย็นชา
“หญิงแพศยาปากสกปรกเหม็นเน่ามาจากที่ใด? มันเหม็นเสียจนข้าไม่อาจงีบหลับได้ลง ที่อื่นมีไม่ไป ดันมาตำหนักฉางเซิง จะมาเลือกเก็บลูกพลับนิ่มไปบีบหรือไร?” เสียงเข้มดังมาจากประตู ฟังดูเกรี้ยวกราดยิ่งนัก
เมื่อจื่ออันได้ยินดังนั้น จึงรีบกลืนคำพูดเหน็บแนมที่มาถึงริมฝีปากลงท้องไปอย่างใจเย็น แล้วยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าการปะทะฝีปากจะไม่ใช่จุดแข็งของจ้วงจ้วง แต่สถานะของนั้นนางสามารถบดขยี้ผู้อื่นได้
สนมอี้เงยหน้าขึ้นมองจ้วงจ้วงที่กำลังเดินเข้ามา หลังจากได้ยินคำพูดเช่นนั้น นางก็มีสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก แต่เนื่องจากสถานะของจ้วงจ้วง นางจึงไม่อาจด่าทอได้ ทำได้เพียงพูดเสียงเบาว่า “รบกวนเวลางีบหลับขององค์หญิง ข้ามีความผิดจริงเพคะ แต่ข้าเกรงว่าจะไม่มีลูกพลับนิ่มในตำหนักฉางเชิงหรอกเพคะ องค์หญิงบอกว่าปากของข้าสกปรกเหม็นเน่า ทว่าคำพูดขององค์หญิงก็ไม่ได้สะอาดเช่นกันเพคะ”
“ปากข้าจะสะอาดหรือไม่ ใช่การอันใดที่เจ้าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยได้หรือ? แต่ถ้าปากเจ้าไม่สะอาด ข้าสามารถควบคุมปากเจ้าได้” จ้วงจ้วงเดินเข้ามานั่งลงด้วยท่าทางเย่อหยิ่งและเย็นชา
“มันเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับสนมอี้ แต่ถ้าคำพูดเช่นนั้นแพร่ออกไปก็จะไม่งาม ฉะนั้นควรทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนจะดีกว่า” จื่ออันมองจ้วงจ้วง “องค์หญิง ผู้อาวุโสเช่นท่านพูดความจริงตามตรงออกมาเถิด ท่านคือองค์หญิงเจิ้นกั๋ว มีเกียรติเทียบเท่าฮองเฮา บัดนี้วังหลังยังไม่ได้รับการจัดการ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่านแล้ว”
จ้วงจ้วงดุอยู่ในใจ แม่สาวน้อยนี่รู้จักประจบประแจง ทั้งยังเรียกข้าว่าผู้อาวุโสอีก
แต่นางย่อมช่วยจื่ออันอยู่แล้ว นางพูดว่า “ฮองไทเฮาสั่งให้เจ้าจัดการบัญชีวังไม่ใช่หรือ? ในเมื่อเป็นคำสั่งของฮองไทเฮา แล้วจะไม่ถูกต้องได้อย่างไร? อีกทั้งตอนนี้ยังไม่มีฮองเฮาไม่ใช่หรอกรึ? สนมเหมยและสนมอี้มีหน้าจัดการกิจการของวังหลัง ซึ่งค่อนข้างยากลำบากพออยู่แล้ว พระชายาผู้สำเร็จราชการแทนจึงควรช่วยแบ่งเบาภาระต่อไป ซึ่งนั่นเป็นหน้าที่รับผิดชอบของเจ้า ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”
ใบหน้าของสนมอี้บูดบึ้ง แต่นางไม่ได้เอ่ยคำใดออกมา จากนั้นก็พูดว่า “องค์หญิง เช่นนั้นข้าขอออกไปก่อนนะเพคะ”
“เหนียงเหนียงโปรดรอประเดี๋ยว ข้าจะไปกับท่านด้วย” จื่ออันกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...