ลั่วชิงยวนนำชนเผ่าทั้งสองเข้าโจมตีเมืองผิงหนิง
นางได้เขียนแผนบนแผนที่การป้องกัน และคิดว่าฟู่เฉินหวนจะเข้าใจความตั้งใจของนาง
ด้านหน้าว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดอยู่เลย
เสียงกีบม้าดังกึกก้อง พวกเขาเร่งรีบมาจนถึงนอกเมืองผิงหนิง
แต่ทว่าบนหอประตูเมืองมีเพียงมิกี่คน เมื่อพวกเขาเห็นพวกนอกด่านมา พวกเขาก็ลั่นกลองเพื่อเตือนทันที และเริ่มจุดคบเพลิงเพื่อส่องสว่างพื้นที่โดยรอบ
"ตามคาด ขณะนี้การป้องกันเมืองผิงหนิงอ่อนแอ เราควรฉวยโอกาสนี้ยึดเมืองผิงหนิง"
แต่ลั่วชิงยวนปราม "ช้าก่อน! ระวังจะเป็นกับดัก!"
หล่างชิ่นเยาะเย้ยจากด้านข้าง "เจ้าบอกเองมิใช่หรือว่า พวกนั้นแอบโจมตีเผ่าของเรา เราจึงมีโอกาสโจมตีเมืองผิงหนิง?
ลั่วชิงยวนเหลือบมองนางอย่างเย็นชา "ข้าบอกว่าการป้องกันในเมืองลดลงครึ่งหนึ่ง มิใช่ปราศจากการป้องกัน"
“ดูเหมือนเจ้าจะเคยตกหลุมพรางครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมิรู้จักจำเสียที”
หล่างชิ่นโกรธเล็กน้อย "เจ้า!"
ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นมองหอประตูเมืองแล้วตะโกนว่า "ผู้รักษาประตูเมืองอยู่ที่ใด?"
ในมิช้า ร่างอันสง่างามก็ปรากฏขึ้นที่หอประตูเมือง
ลั่วชิงยวนตกใจมากเมื่อเห็นเขา
‘ฟู่เฉินหวน!’
‘เหตุใดเป็นเขา!’
‘เขาควรทิ้งซือซิงไว้ที่นี่มิใช่หรือ?’
‘เหตุใดเป็นเขาที่คอยป้องกันเมือง?’
นางมิอยากต่อสู้กับฟู่เฉินหวน
เสียงเย็นชาดังมากับสายลมยามค่ำคืน เย็นยะเยือกจนกระดูก
“ข้าเคยคิดจะส่งคนไปช่วยเจ้า แต่มิคิดเลยว่าเจ้าจะยอมจำนนต่อศัตรูเช่นนี้ ใครก็ตามที่ทรยศข้า สมควรตาย!”
“เจ้าพร้อมที่จะตายแล้วหรือยัง?”
ลั่วชิงยวนใจสั่นสะท้าน
นางกำลังจะเอ่ยปากพูด
หล่างชิ่นหัวเราะเบา ๆ และเอ่ยขึ้นว่า "อ๋องผู้สำเร็จราชการ มิได้พบกันนานเลย"
“เจ้าคงมิคิดว่า ชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการจะเข้าร่วมกับชาวนอกด่านใช่หรือไม่? ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็คงจินตนาการมิออกว่าพระชายาทำอะไรเพื่อพวกเราบ้าง”
หล่างชิ่นปรบมือขณะที่เขาพูด
จู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็มีความรู้สึกมิดี
“เหลือเพียงลั่วชิงยวนคนทรยศที่สมควรตายเท่านั้น!”
ลั่วชิงยวนตกตะลึง
ทหารก้าวไปข้างหน้า หยิบจดหมายออกมาแล้วส่งให้ลั่วชิงยวน
นางเปิดซองจดหมาย และข้างในนั้นเป็นหนังสือหย่าจริง ๆ
เป็นหนังสือหย่าจริง ๆ
นางเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ เห็นชายที่มีดวงตาเย็นชายืนอยู่บนยอดหอประตูเมือง
ลั่วชิงยวนมิอาจบอกแยกแยะได้ว่าในขณะนั้นว่าเขาจริงใจหรือแกล้งทำ
ความจริงนั้นทำให้ใจนางบีบรัด
หล่างชิ่นยิ้มอย่างภาคภูมิใจเมื่อเห็นสิ่งนี้ มิว่าจุดประสงค์ของลั่วชิงยวนจะเป็นอย่างไร ก็เป็นเรื่องยากสำหรับชาวแคว้นเทียนเชวียและคงมิอาจยอมรับนางอีกแล้ว
นางมิสามารถกำจัดคำครหาของการเป็นคนทรยศไปชั่วชีวิต
ลั่วชิงยวนรับหนังสือหย่าไว้และเงยหน้าขึ้นมองเขา "ขอบใจสำหรับหนังสือหย่า ในที่สุดข้าก็เป็นอิสระแล้ว"
“แต่เห็นแก่ที่ข้าได้ปกป้องเมืองผิงหนิงมาหลายวันแล้ว ข้าก็ยังหวังว่าสงครามครั้งนี้จะยุติอย่างสันติ”
“เจ้ากับข้าจะต่อสู้กันอย่างยุติธรรม มิว่าจะเป็นหรือตาย แพ้หรือชนะ เรามาจบศึกนี้กัน ปลดปล่อยความแค้นในอดีต และมานั่งเจรจาสงบศึกกันเถอะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...