นางมิลังเล รีบลงจากเขาไปทันที
สายตาของหล่างชิ่นดุร้ายขณะกัดฟันแน่น “ลั่วชิงยวน รอข้าก่อนเถอะ!”
......
เมื่อมหาราชาจารย์เหยียนกลับถึงเมืองหลวง สิ่งแรกที่ทำคือนำคำให้การของหล่างชิ่นขึ้นทูลเกล้าฯ ในราชสำนัก
ทั้งการสมรู้ร่วมคิดกับเผ่านอกด่าน แผนการโจมตีเมืองผิงหนิง ทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของลั่วชิงยวน
เขากล่าวโทษลั่วชิงยวนในราชสำนัก บีบบังคับให้จักรพรรดิออกคำสั่งจับกุมลั่วชิงยวน ปิดผนึกจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการและประหารตระกูลฉินทั้งตระกูล
ฟู่จิ่งหานรู้ดีว่าเป็นไปมิได้ที่ลั่วชิงยวนจะสมรู้ร่วมคิดกับเผ่านอกด่าน เพราะนางถือตราประทับของจักรพรรดิสูงสุดไปช่วยเหลือเมืองผิงหนิง
แต่บัดนี้ลั่วชิงยวนหายตัวไป อ๋องผู้สำเร็จราชการก็ยังมิกลับมา ฟู่จิ่งหานรับมือกับแรงกดดันจากมหาราชาจารย์เหยียนมิไหว
หลังจากพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อยื้อเวลาก็ต่อรองจนสามารถออกคำสั่งจับกุมลั่วชิงยวนไปก่อน
มิเช่นนั้นจะถูกบีบให้ประหารตระกูลฉินทั้งตระกูล
ฟู่เฉินหวนเดินทางอย่างยากลำบากด้วยเส้นทางทุรกันดาร มิสนกลางวันกลางคืน ทันทีที่เข้ามาในเมืองหลวงก็ล้มลงไป
มิสามารถทนจนถึงวังหลวงได้
จึงถูกนำตัวกลับจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการอย่างเร่งรีบ
ซ่งเชียนฉู่ร้อนใจอย่างมาก เมื่อมาถึงจวนเพื่อรักษาพยาบาลแล้วก็ช่วยชีวิตฟู่เฉินหวนไว้ได้
ฟู่เฉินหวนฟื้นขึ้นมา ซ่งเชียนฉู่รีบถาม “ชิงหยวนเล่าเพคะ?”
“นางอยู่ที่ใดเพคะ?”
“ตอนนี้มีการออกหมายจับนางอยู่ทุกหนทุกแห่ง ท่านรู้หรือไม่เพคะ? เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ไปได้เล่าเพคะ?”
ซ่งเชียนฉู่เป็นห่วงอย่างมาก
ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเคร่งเครียดขณะพูดว่า “นางมิเป็นอะไร จะมิถูกจับหรอก”
“ข้าจะเข้าวังหลวง”
ฟู่เฉินหวนพยายามยันตัวลุกขึ้น แล้วก็ออกจากห้องไป
เรื่องของฉินไป๋หลี่จำเป็นต้องชี้แจง การกระทำของลั่วชิงยวนก็จำเป็นต้องชี้แจงเช่นกัน
แต่ระหว่างที่ฟู่เฉินหวนกำลังจะเข้าเฝ้ากลับถูกขันทีขวางไว้ “ท่านอ๋อง ไทเฮามีรับสั่งเรียกเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”
ดวงตาของฟู่เฉินหวนเย็นชาลง “ข้ามีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับกองทัพจะกราบทูลจักรพรรดิ ค่อยไปเข้าเฝ้าไทเฮาทีหลัง”
อีกฝ่ายก็ยังขวางเขาไว้ “ไทเฮาตรัสว่ามีเวลาว่างพบท่านอ๋องเพียงตอนนี้ หากท่านอ๋องมิไปจะเสียพระทัยไปตลอดพระชนม์ชีพพ่ะย่ะค่ะ”
ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว ไทเฮาคิดจะทำอะไร!
แต่ลั่วชิงยวนต้องถูกประหาร
มิเช่นนั้นคนที่สมรู้ร่วมคิดกับเผ่านอกด่านก็จะเป็นตระกูลเหยียน
หากเป็นเช่นนั้น ตระกูลเหยียนก็ต้องปกป้องตัวเอง
ด้วยการปราบปรามจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการ
ฟู่เฉินหวนกัดฟันคิดจะปล่อยให้ลั่วเยวี่ยอิงตาย
แต่ทันใดนั้นความเจ็บปวดรุนแรงก็พลันเกิดขึ้น
เขาอดทนอย่างมาก
ไทเฮาเห็นเขาลังเลจึงหมุนตะเกียงข้างกาย ประตูบานเล็กตรงมุมห้องพลันเปิดออก ลั่วเยวี่ยอิงนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น
มิได้ถูกผู้ใดทรมาน แต่พื้นเต็มไปด้วยแมลงและมด
“ท่านอ๋อง... ท่านอ๋องช่วยหม่อมฉันด้วยเพคะ...” ลั่วเยวี่ยอิงเห็นฟู่เฉินหวนแล้วเหมือนเห็นแสงสว่าง
ลมหายใจของฟู่เฉินหวนติดขัด ทันใดนั้นก็เหมือนถูกกระแทกอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดแสนสาหัสแพร่กระจายออกมาจากส่วนลึกของจิตใจ กลืนกินสติสัมปชัญญะของเขา
กลิ่นคาวเลือดไหลทะลักขึ้นมาในลำคอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...