ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1044

“นั่นเป็นเพียงกลยุทธ์เพื่อยุติสงคราม มหาราชาจารย์เหยียนกลับมิเข้าใจหรือ?”

“มิเช่นนั้นสงครามครั้งนี้จะยุติลงเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร?”

เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วบริเวณ

“ใช่แล้ว สงครามครั้งนี้จบลงเร็วกว่าที่คาดไว้มาก”

“แท้จริงแล้วเป็นเพราะลั่วชิงยวนได้เป็นราชาเผ่านอกด่านหรือ?”

มหาราชาจารย์เหยียนโต้แย้งด้วยความโกรธจัด “เจ้าเป็นคนแคว้นเทียนเชวีย เหตุใดจึงได้รับความไว้วางใจจากเผ่านอกด่าน!”

ลั่วชิงยวนตอบกลับอย่างเย็นชา “ข้ามีวิธีของข้า มหาราชาจารย์เหยียนทำมิได้ กลับต้องการล้วงความลับของข้าอีกหรือ?”

“และการเป็นราชาเผ่านอกด่านเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า บัดนี้ข้ามิใช่ราชาเผ่านอกด่านอีกต่อไปแล้ว”

มหาราชาจารย์เหยียนยังคงพยายามใส่ร้ายนางต่อ

ลั่วชิงยวนขัดจังหวะอย่างเย็นชา “แต่หลังจากที่ได้เป็นราชาเผ่านอกด่าน ข้าก็ได้รับข่าวสารมากมายจากภายในกลุ่มของพวกเขา”

“เมื่อข้ารีบไปที่เมืองผิงหนิง เสบียงในเมืองเกือบจะหมดแล้ว ทหารปล้นอาหารจากชาวบ้าน ซ้ำยังบังคับให้ชาวบ้านออกรบ เพื่อปกป้องตนจากศัตรู ซึ่งปลุกเร้าความขุ่นเคืองในหมู่ราษฎร”

“เงินที่ฝ่าบาททรงอนุมัติเพื่อสร้างป้อมปราการก็ถูกโกง นำไปสร้างแต่สิ่งที่ไร้ประโยชน์”

“แม้กระทั่งเครื่องกระทุ้งหินจำนวนมากที่ฉินเชียนหลี่สั่งให้สร้างขึ้นลับ ๆ ก็ยังถูกคนทรยศเปิดเผย จนถูกกองทัพศัตรูยึดไปหมด”

“นอกจากนี้ยังมีเงินเบี้ยหวัดทหารที่ถูกโกงไปด้วย”

“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะมีคนทรยศอยู่ในกองทัพเมืองผิงหนิง พวกเขาสมรู้ร่วมคิดกับองค์หญิงหล่างชิ่นแห่งเผ่านอกด่าน วางแผนจับตัวฉินเชียนหลี่ และใช้วิธีแปลงโฉมปลอมตัวเป็นฉินเชียนหลี่ออกคำสั่งไร้สาระมากมาย เพื่อพยายามใส่ร้ายฉินเชียนหลี่”

“ดังนั้นจึงมีคนสมรู้ร่วมคิดกับเผ่านอกด่านจริง ๆ!”

“และคนผู้นั้นเป็นขุนนางคนสำคัญในราชสำนักด้วย! เป็นผู้มีอำนาจสูงส่ง!”

ลั่วชิงยวนกล่าวจบก็มองไปที่มหาราชาจารย์เหยียน

มหาราชาจารย์เหยียนรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย เขามิรู้ว่าลั่วชิงยวนตรวจสอบหลักฐานอะไรได้บ้าง แต่หล่างชิ่นตายแล้ว ลั่วชิงยวนน่าจะตรวจสอบอะไรมิได้

ขุนนางในราชสำนักได้ฟังแล้วต่างตกใจและโกรธแค้น

คนที่โกรธแค้นที่สุดก็คือแม่ทัพใหญ่ฉิน

“เป็นฝีมือผู้ใดกันแน่! หากมิได้กำจัดคนชั่วผู้นี้ ความแค้นจะไม่มีทางสงบลงได้!”

ฟู่จิ่งหานก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยจึงรีบถาม “พระชายาแห่งตำหนักอ๋อง เจ้ามีหลักฐานอะไรที่ตรวจสอบได้บ้างหรือไม่?”

ลั่วชิงยวนหยิบสมุดเล่มหนึ่งออกมา

แล้วถวายแด่จักรพรรดิ

จากนั้นเหล่าข้าราชบริพารก็แยกย้ายกันไป ฟู่จิ่งหานรีบพานางไปพบจักรพรรดิสูงสุดโดยด่วน

“สมกับที่องค์จักรพรรดิสูงสุด ยอมเจ็บปวดเพื่อถ่วงเวลาให้เจ้าได้ไปชายแดน เจ้ามิทำให้ผิดหวังจริง ๆ! ครั้งนี้หลักฐานชัดเจน เรามาดูกันว่าพวกเขาจะแก้ตัวอย่างไร!”

ฟู่จิ่งหานตื่นเต้นมาก ก่อนหน้านี้มิเคยมีความคืบหน้ามากมายเช่นนี้มาก่อน

“ฝ่าบาทอย่าเพิ่งดีใจไปเลยเพคะ ตระกูลเหยียนย่อมมีวิธีรับมือ จะมิยอมแพ้โดยง่ายแน่นอนเพคะ”

ขึ้นอยู่กับว่า แม่ทัพใหญ่ฉิน หรือ ตระกูลเหยียน ฝั่งไหนจะเร็วกว่ากัน

ฟู่จิ่งหานพยักหน้าแล้วกระซิบ “แล้วเรื่องพิษในพระวรกายขององค์จักรพรรดิสูงสุดเล่า หากเจ้ารักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดให้หายได้ เพียงคำพูดขององค์จักรพรรดิสูงสุดก็สามารถลงโทษตระกูลเหยียนได้แล้ว”

“องค์จักรพรรดิสูงสุดเป็นอย่างไรบ้างเพคะ? ยังคงอาการทรงตัวอยู่หรือไม่?”

“มิค่อยดี เพราะมิค่อยดีนัก จึงทำให้ไทเฮายังมิลงมืออีก”

กล่าวจบ ทั้งสองก็มาถึงห้องบรรทมของจักรพรรดิสูงสุด

จักรพรรดิสูงสุดยังคงนอนอยู่บนเตียง ขยับตัวมิได้เลย

ใบหน้าก็ดูซูบผอมกว่าเดิมด้วย

หลายครั้งที่ใช้การฝังเข็มกระตุ้นร่างกายในตอนแรกเพื่อแผนการนี้ ทำให้ร่างกายเกิดความเสียหาย บัดนี้ร่างกายจึงอ่อนแอมาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย