ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 105

ลั่วชิงยวนนิ่วหน้า

หากเป็นนางแม้ว่าโหยหาลูกชายที่สูญเสียไปตั้งแต่วัยเยาว์ นางก็คงไม่คิดจะอัญเชิญวิญญาณเขามาหลังจากที่ผ่านไปหลายสิบปีเช่นนี้

นางรู้สึกว่า เรื่องนี้มีบางอย่างแปลก ๆ

เจ้าของร้านเองก็ไม่รู้อะไรมากนัก เขาแค่รับผิดชอบจัดหาของและเก็บเงินมาเท่านั้น หนนี้เขานึกโลภและบุ่มบ่ามมากเกินไป จนทำให้ตนต้องเดือดร้อน

เพราะว่าเขานั้นซาบซึ้งที่ลั่วชิงยวนช่วยแก้ปัญหาให้ เขาจึงมอบเงินห้าร้อยตำลึงกับนางเป็นการขอบคุณ

เมื่อลั่วชิงยวนรับเงินนั้น นางรู้สึกขึ้นมาทันทีว่า นี่อาจจะเป็นวิธีทำมาหากินของนางได้ หากว่านางใช้ศาสตร์นี้ทำเป็นอาชีพ นี่น่าจะดีกว่าต้องทนทุกข์และโมโหหัวเสียอยู่ในตำหนักอ๋องใช่หรือไม่?

เมื่อมีความคิดเช่นนี้ นางก็รู้สึกมุ่งมั่น…

เราจะต้องแก้ไขปัญหาในจวนมหาราชครูให้จงได้

หากว่าสามารถแก้ปัญหาในจวนมหาราชครูได้ และได้ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือจากจวนมหาราชครู ในอนาคตหากว่ามีเรื่องแปลกประหลาดอันใดเกิดขึ้นกับตระกูลร่ำรวยในเมือง พวกเขาก็ต้องแนะนำนางให้ไปดู นางเองต้องสร้างชื่อเสียงขึ้นมาเสียก่อนถึงจะเริ่มหาเงินทองได้

เมื่อออกมาจากร้าน ลั่วชิงยวนเองก็ยังคงครุ่นคิดเรื่องนี้ไม่เลิก

แม่นมเติ้งถามว่า “พระชายา ท่านคิดเรื่องวิธีแก้ปัญหาในจวนมหาราชครูอยู่หรือเจ้าคะ?”

ลั่วชิงยวนครุ่นคิดและพึมพำ “หากว่าข้าจะแก้ปัญหานี้ ต้องรับมือกับปมในใจของท่านมหาราชครูลั่ว…”

คนตายแล้วก็ตายไปไม่อาจหวนคืน นี้เป็นกฎตามธรรมชาติ

เป็นไปไม่ได้ที่นางจะทำให้พวกเขาได้สมหวัง

ดังนั้นจึงต้องเริ่มจากการแก้ไขปมในใจของมหาราชครูลั่ว

“แม่นมเติ้ง หลายปีที่ท่านอยู่ในตำหนักอ๋องท่านเคยได้ยินเรื่องที่ว่า มหาราชครูลั่วเสียบุตรชายไปเมื่อสมัยเขายังหนุ่มหรือไม่?” ลั่วชิงยวนไม่มีความทรงจำใดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ดังนั้นนางก็เลยต้องสอบถามหาต้นสายปลายเหตุ

แม่นมเติ้งคิดอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่จะพยักหน้า “เคยได้ยินมาว่า ตอนที่มีเพลิงไหม้จวนมหาราชครู ไม่เพียงภรรยาและบุตรของเขาที่เสียชีวิตเท่านัน แต่ทรัพย์สมบัติทุกชิ้นที่เป็นของพวกเขาก็ไหม้ไปในกองเพลิงด้วย”

“นี่เป็นความเสียใจใหญ่หลวงที่ติดอยู่ในใจของท่านมหาราชครู เขาแทบไม่อาจจำหน้าตาของภรรยาและบุตรได้แล้ว ดังนั้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา เขาก็ส่งคนออกเสาะหาจิตรกรชื่อดังมาวาดภาพเหมือนของภรรยาและบุตรที่อยู่ในความทรงจำของท่านมหาราชครู”

ลั่วชิงยวนมองดูและเห็นว่านั่นเป็นรูปของลั่วอวิ๋นสี่

“คนของจวนมหาราชครูยังหาตัวของลั่วอวิ๋นสี่ไม่เจออีกเหรอ?”

เมื่อเช้านี้ลั่วอวิ๋นสี่ตกใจกลัววิ่งหนีออกมาจากตำหนักอ๋อง นี่ก็เป็นเวลานานมากแล้วหากแต่นางยังไม่ถึงจวนอีกหรือ?

“ดูเหมือนว่าคนในจวนมหาราชครูจะร้อนใจกันมากเจ้าค่ะ ส่งคนออกมาตามหามากมายขนาดนี้ พวกเขาน่าจะไปหาที่ตำหนักอ๋องด้วยเช่นกันเจ้าค่ะ” แม่นมเติ้งบอก

ลั่วชิงยวนนิ่วหน้า ลั่วอวิ๋นซีจากไปเพราะทะเลาะกับนาง หากว่ามีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ นางเองก็อาจจะโดนลากเข้าไปเกี่ยวด้วย แล้วอีกอย่างสีหน้าลั่วอวิ๋นซีวันนี้ก็เต็มไปด้วยเคราะห์ร้าย…

ไม่น่าจะ…

คิ้วของนางกระตุก และรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที

นางหยิบเข็มทิศออกมาและรีบวิ่งเข้าไปในตรอกเพื่อตรวจดูเงียบ ๆ จากนั้นก็เดินตามการชี้นำของเข็มทิศไปยังสวนด้านหลังของหอนางโลม…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย