ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1117

“แล้วเหยียนผิงเซียวเล่า ท่านก็เป็นคนฆ่าเขาด้วยเช่นกันสินะ!”

ขุนนางในท้องพระโรงเอ่ยถาม

ลั่วชิงยวนยังมิทันตอบก็มีขุนนางที่นางมิเคยเห็นมาก่อนเอ่ยขึ้นว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมมีพยานและหลักฐานพ่ะย่ะค่ะ!”

องค์จักรพรรดิขมวดคิ้ว แม้จะมิเต็มใจ แต่เรื่องนี้มิอาจเพิกเฉยได้

“นำตัวเข้ามา”

ลั่วชิงยวนหันกลับไปมองก็เห็นลั่วฉิงเดินเข้ามาในท้องพระโรง

“ฝ่าบาท หม่อมฉันลั่วฉิง เป็นนางรับใช้ข้างกายคุณชายเหยียน คืนที่เกิดเรื่องกับคุณชายเหยียน หม่อมฉันเห็นเขาไปที่ร้านของท่านเซียนฉู่และถูกท่านเซียนฉู่ฆ่าตายเพคะ”

“ตอนที่คุณชายเหยียนต่อสู้กับท่านเซียนฉู่ หน้ากากของท่านเซียนฉู่หลุด หม่อมฉันเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา ปรากฏว่าเขาคือพระชายาลั่วชิงยวนเพคะ!”

“บาดแผลร้ายแรงถึงชีวิตของคุณชายเหยียน หมอตรวจสอบแล้วว่าเกิดจากกริชจันทร์เสี้ยว หลายคนย่อมเคยเห็นอาวุธป้องกันตัวที่พระชายาใช้เป็นประจำ ซึ่งก็คือกริชจันทร์เสี้ยว!”

ลั่วฉิงนำหลักฐานมาแสดง

แล้วกล่าวต่อไปว่า “หม่อมฉันพบจดหมายในห้องของคุณชายเหยียน เป็นจดหมายที่ท่านเซียนฉู่นัดเขาไปที่ร้านด้วยเพคะ”

“ท่านเซียนฉู่หลอกลวงคุณชายเหยียนไปฆ่า!”

เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ผู้คนก็มิได้ตกตะลึงนัก

เพราะทุกคนรู้ว่าเหยียนผิงเซียวมีความบาดหมางกับลั่วชิงยวน

สิ่งที่น่าตกใจกลับเป็นเรื่องใบหน้าที่แท้จริงของฉู่ลั่ว

ลั่วชิงยวนยังมิทันได้แก้ต่าง

ลั่วฉิงก็กล่าวหาต่อไป

“มหาราชาจารย์เหยียนลาออกจากราชการ เดินทางไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่เมืองฉิน แต่มินานก็มีข่าวว่าเขาเสียชีวิตด้วยอาการป่วย แต่ข่าวที่คนของหม่อมฉันส่งกลับมา มหาราชาจารย์เหยียนถูกฆ่าต่างหากเพคะ!”

“สภาพศพน่าเวทนายิ่งนัก!”

“มิว่าใครจะเป็นคนฆ่ามหาราชาจารย์เหยียนก็ล้วนเกี่ยวข้องกับลั่วชิงยวน!”

“นางเป็นคนทำนายว่าแคว้นเทียนเชวียจะมีภัยพิบัติมาจากทางใต้ เมืองฉินอยู่ทางใต้ นางจงใจใส่ร้ายมหาราชาจารย์เหยียนว่าจะก่อกบฏ!”

“บัดนี้คนตระกูลเหยียนตายหมดแล้ว นางกับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการก็บรรลุเป้าหมายแล้ว!”

“ฝ่าบาท ลั่วชิงยวนกล่าววาจาชั่วร้ายให้สาธารณชนสับสน ซ้ำยังใช้เวทมนตร์คาถาแทรกแซงกิจการราชสำนักด้วย ซึ่งเหมือนกับเวทมนตร์ของแคว้นหลีเมื่อครั้งก่อนทุกประการเพคะ!”

“ลั่วชิงยวนคือผู้ช่วยเหลือฟู่เฉินหวนในการแย่งชิงบัลลังก์เพื่อล้างแค้น! พวกท่านลืมเหตุการณ์ก่อกบฏในวังหลวงที่ทำให้ผู้คนล้มตายไปมากมายแล้วหรือเพคะ?”

ลั่วฉิงกล่าววาจาเฉียบคม

สิ้นคำของนาง ขุนนางทั้งหลายก็ตกตะลึง

จากนั้นลั่วฉิงก็ถูกลากออกจากท้องพระโรงไปรับโทษโบยห้าสิบไม้

ขณะนั้นมีขุนนางผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความมิพอใจ “ฝ่าบาท หลังจากเหตุการณ์ก่อกบฏในวังหลวง แคว้นเทียนเชวียก็สั่งห้ามเวทมนตร์ ลั่วชิงยวนปลอมตัวเป็นฉู่ลั่วเพื่อทำนายโชคชะตา จงใจใส่ร้ายมหาราชาจารย์เหยียน ล้วนเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”

“การกระทำเช่นนี้เป็นการใช้เวทมนตร์แสดงพลังอำนาจ บ่อนทำลายราชวงศ์ สมควรประหารชีวิตพ่ะย่ะค่ะ!”

ขุนนางหลายคนลังเล แต่เมื่อได้ยินเรื่องเหตุการณ์ก่อกบฏในวังหลวงก็หวาดหวั่น

“เห็นชอบพ่ะย่ะค่ะ!”

“เห็นชอบพ่ะย่ะค่ะ!”

ผู้ที่ออกมากล่าวล้วนเป็นขุนนางอาวุโสที่เคยผ่านเหตุการณ์ก่อกบฏในวังหลวง และร่วมตัดสินใจลงโทษเผาทั้งเป็นพระชายาหลี

พวกเขาหวาดกลัวว่าฟู่เฉินหวนจะทำเช่นนี้เพื่อล้างแค้น

จึงรีบแสดงท่าทีเห็นด้วยกับการประหารลั่วชิงยวน

พวกเขามิคิดจะฟังคำอธิบายของลั่วชิงยวนและตัดสินโทษประหารนางทันที

ท่ามกลางขุนนางที่เห็นด้วยกับการประหารลั่วชิงยวน

ก็มีเสียงเย็นชาทรงอำนาจดังขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย