ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1120

ด้วยบัญชาของฟู่เฉินหวนจึงมิได้มีการทรมานหรือเบียดเบียนลั่วชิงยวนในคุกแต่อย่างใด

นางกลับได้รับการดูแลอย่างดี มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์

และยังได้รับอนุญาตให้ออกจากคุกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ครึ่งชั่วยามในยามเที่ยงทุกวันด้วย

แต่ก็เป็นการปล่อยตัวออกไปอย่างเป็นความลับ

วันหนึ่งในยามเที่ยง ลั่วชิงยวนได้เห็นอาเสินกำลังบินวนอยู่บนท้องฟ้า

เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่ใกล้ นางจึงยื่นแขนออกไป

อาเสินจึงบินลงมาเกาะบนแขนของนาง

พร้อมกับนำดอกชามาให้นางหนึ่งดอก

ลั่วชิงยวนดมกลิ่นดอกชานั้นแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าต้องการบอกข้าว่านางเดินทางมาแล้วใช่หรือไม่”

อาเสินมิอาจพูดตอบได้จึงบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง

บินวนเวียนอยู่สักพักก่อนจะบินจากไป

ลั่วชิงยวนดมกลิ่นหอมของดอกชานั้นอีกครั้ง แล้วคำนวณตำแหน่งของซ่งเชียนฉู่ ปรากฏว่าอีกสามวันนางก็คงจะมาถึงเมืองหลวงแล้ว

แต่สิ่งที่ลั่วชิงยวนคาดมิถึงก็คือก่อนที่สามวันนั้นจะมาถึง

ไทเฮากลับเสด็จมา

พร้อมกับพระราชโองการ

“ลั่วชิงยวนเป็นนางปีศาจผู้ก่อความวุ่นวายให้แก่แผ่นดิน ให้ประหารชีวิตด้วยการตัดหัวในยามเที่ยงวันนี้!”

“ให้รีบนำตัวไปยังลานประหารทันที”

ลั่วชิงยวนถูกนำตัวไปยังลานประหารโดยทันที

ขณะนั้นมีราษฎรจำนวนมากมารวมตัวเฝ้าดูกันอยู่รอบลานประหาร

และในครั้งนี้ไทเฮาก็เสด็จมาเป็นประธานในการประหารด้วยตัวเองด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าลั่วชิงยวนตายอย่างแน่นอน

ราษฎรรอบข้างต่างพากันซุบซิบ

“พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการ เหตุใดถึงกลายเป็นนางปีศาจได้?”

“ท่านเซียนฉู่เคยทำนายดวงชะตาให้ข้า แล้วก็แม่นยำมาก เหตุใดนางถึงเป็นอันตรายต่อผู้คนกัน”

“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้?”

แม้จะมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการที่ลั่วชิงยวนวางแผนฆ่าผู้อาวุโสเหยียนและเหยียนผิงเซียว แต่ราษฎรกลับมิได้สาปแช่งลั่วชิงยวนเลย

ขณะที่มีการทำนายชะตาแคว้น นางได้เห็นเข็มทิศนั้น แล้วพบว่ามันสามารถทำให้เห็นนิมิตอดีตของอาจารย์นักพรตเสวียนซานได้ ทำให้แม้แต่อาจารย์นักพรตเสวียนซานก็ยังต้องหวาดกลัว

สิ่งนั้นคือสมบัติล้ำค่าของแคว้นหลี!

แม้ว่าลั่วฉืงจะมิเคยเห็นสมบัติล้ำค่าของแคว้นหลี แต่นางก็มั่นใจว่าต้องเป็นเข็มทิศนี้แน่นอน!

การได้มาจากมือของลั่วชิงยวนโดยง่ายจะดีที่สุด เพื่อประหยัดเวลาและแรงในการค้นหา

ลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะ “เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้ารึ”

“ตอนนี้เจ้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว หากมิเชื่อข้า เจ้าก็ต้องตาย” ลั่วฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“หรือว่าเจ้ายังคงรอให้ฟู่เฉินหวนมาช่วยเจ้าอยู่ ตอนนี้เขายังเอาตัวเองมิรอดเลยด้วยซ้ำ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของลั่วชิงยวนก็เปลี่ยนไป

สายตาของนางจ้องมองลั่วฉิงอย่างดุเดือด

ลั่วฉิงหัวเราะเบา ๆ “จ้องหน้าข้าไปก็ไม่มีประโยชน์”

“เจ้ายังมิรู้ใช่หรือไม่ เขาปวดหัวหนักมาสามวันแล้ว ทั้งยังอาเจียนเป็นเลือดจนข้าคิดว่า หากอาการกำเริบอีกครั้ง เขาต้องตายแน่แล้ว”

“มันเหลือเชื่อจริง ๆ คนคนหนึ่งอาเจียนเป็นเลือดได้มากถึงเพียงนี้โดยมิตายได้อย่างไรกัน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย