ด้วยบัญชาของฟู่เฉินหวนจึงมิได้มีการทรมานหรือเบียดเบียนลั่วชิงยวนในคุกแต่อย่างใด
นางกลับได้รับการดูแลอย่างดี มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์
และยังได้รับอนุญาตให้ออกจากคุกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ครึ่งชั่วยามในยามเที่ยงทุกวันด้วย
แต่ก็เป็นการปล่อยตัวออกไปอย่างเป็นความลับ
วันหนึ่งในยามเที่ยง ลั่วชิงยวนได้เห็นอาเสินกำลังบินวนอยู่บนท้องฟ้า
เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่ใกล้ นางจึงยื่นแขนออกไป
อาเสินจึงบินลงมาเกาะบนแขนของนาง
พร้อมกับนำดอกชามาให้นางหนึ่งดอก
ลั่วชิงยวนดมกลิ่นดอกชานั้นแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าต้องการบอกข้าว่านางเดินทางมาแล้วใช่หรือไม่”
อาเสินมิอาจพูดตอบได้จึงบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง
บินวนเวียนอยู่สักพักก่อนจะบินจากไป
ลั่วชิงยวนดมกลิ่นหอมของดอกชานั้นอีกครั้ง แล้วคำนวณตำแหน่งของซ่งเชียนฉู่ ปรากฏว่าอีกสามวันนางก็คงจะมาถึงเมืองหลวงแล้ว
แต่สิ่งที่ลั่วชิงยวนคาดมิถึงก็คือก่อนที่สามวันนั้นจะมาถึง
ไทเฮากลับเสด็จมา
พร้อมกับพระราชโองการ
“ลั่วชิงยวนเป็นนางปีศาจผู้ก่อความวุ่นวายให้แก่แผ่นดิน ให้ประหารชีวิตด้วยการตัดหัวในยามเที่ยงวันนี้!”
“ให้รีบนำตัวไปยังลานประหารทันที”
ลั่วชิงยวนถูกนำตัวไปยังลานประหารโดยทันที
ขณะนั้นมีราษฎรจำนวนมากมารวมตัวเฝ้าดูกันอยู่รอบลานประหาร
และในครั้งนี้ไทเฮาก็เสด็จมาเป็นประธานในการประหารด้วยตัวเองด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าลั่วชิงยวนตายอย่างแน่นอน
ราษฎรรอบข้างต่างพากันซุบซิบ
“พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการ เหตุใดถึงกลายเป็นนางปีศาจได้?”
“ท่านเซียนฉู่เคยทำนายดวงชะตาให้ข้า แล้วก็แม่นยำมาก เหตุใดนางถึงเป็นอันตรายต่อผู้คนกัน”
“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้?”
แม้จะมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการที่ลั่วชิงยวนวางแผนฆ่าผู้อาวุโสเหยียนและเหยียนผิงเซียว แต่ราษฎรกลับมิได้สาปแช่งลั่วชิงยวนเลย
ขณะที่มีการทำนายชะตาแคว้น นางได้เห็นเข็มทิศนั้น แล้วพบว่ามันสามารถทำให้เห็นนิมิตอดีตของอาจารย์นักพรตเสวียนซานได้ ทำให้แม้แต่อาจารย์นักพรตเสวียนซานก็ยังต้องหวาดกลัว
สิ่งนั้นคือสมบัติล้ำค่าของแคว้นหลี!
แม้ว่าลั่วฉืงจะมิเคยเห็นสมบัติล้ำค่าของแคว้นหลี แต่นางก็มั่นใจว่าต้องเป็นเข็มทิศนี้แน่นอน!
การได้มาจากมือของลั่วชิงยวนโดยง่ายจะดีที่สุด เพื่อประหยัดเวลาและแรงในการค้นหา
ลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะ “เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้ารึ”
“ตอนนี้เจ้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว หากมิเชื่อข้า เจ้าก็ต้องตาย” ลั่วฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“หรือว่าเจ้ายังคงรอให้ฟู่เฉินหวนมาช่วยเจ้าอยู่ ตอนนี้เขายังเอาตัวเองมิรอดเลยด้วยซ้ำ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของลั่วชิงยวนก็เปลี่ยนไป
สายตาของนางจ้องมองลั่วฉิงอย่างดุเดือด
ลั่วฉิงหัวเราะเบา ๆ “จ้องหน้าข้าไปก็ไม่มีประโยชน์”
“เจ้ายังมิรู้ใช่หรือไม่ เขาปวดหัวหนักมาสามวันแล้ว ทั้งยังอาเจียนเป็นเลือดจนข้าคิดว่า หากอาการกำเริบอีกครั้ง เขาต้องตายแน่แล้ว”
“มันเหลือเชื่อจริง ๆ คนคนหนึ่งอาเจียนเป็นเลือดได้มากถึงเพียงนี้โดยมิตายได้อย่างไรกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...