มีภาพวาดแขวนอยู่บนผนังตรงทางเข้าด้านหน้า มันเป็นภาพเหตุการณ์เพลิงไหม้รุนแรง ยังประกอบไปด้วยสตรีและเด็กอยู่ในภาพนั้น ก่อนจะมีเสียงกรีดร้องดังขึ้น
พวกเขาพยายามดิ้นรนหลบหนี แต่ก็ไม่อาจหนีจากเพลิงที่โหมกระหน่ำมาได้
เมื่อหนีไม่ทัน พวกเขาจึงต้องตายในเปลวเพลิง
“น้องหญิงชิงยวน?”
เมื่อเห็นว่านางตะลึงไป ลั่วหลางหลางก็เอ่ยเรียก
จากนั้นลั่วชิงยวนก็กลับมามีสติอีกครั้ง และยิ่งมองเข้าไปใกล้มากขึ้น ภาพวาดนั้นก็แสดงให้เห็นภาพของสตรีกิริยาอ่อนโยนกำลังอุ้มเด็กเอาไว้
ผู้คนในภาพดูคล้ายจะมีชีวิตอยู่อย่างไร้กังวล
ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
หลังจากที่ลั่วหลางหลางเข้าไปในห้อง ลั่วชิงยวนก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก ทั้งห้องเต็มไปด้วยภาพวาดที่คล้ายกัน
มีทั้งรูปเดี่ยวของสตรีและรูปเดียวของเด็กแขวนอยู่ด้วย
จะเห็นได้ว่า ภาพวาดเหล่านี้ไม่ได้ถูกวาดโดยศิลปินคนเดียวกันทั้งหมด อีกทั้งมันยังมีรูปแบบการวาดที่แตกต่างกันอีกด้วย
และแน่นอนว่าภาพวาดบุคคลเหล่านี้ถูกวาดตามคำอธิบายของมหาราชครูลั่ว นั่นก็เพราะว่าเขามีภาพวาดในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่ให้ความรู้สึกราวกับเป็นคนละคน
เกือบทั้งห้องถูกรายล้อมไปด้วยภาพบุคคลและสิ่งที่คลาแน่นอยู่ในดวงตาของนางก็คือผู้คนมากมาย ภาพที่ลั่วชิงยวนเห็นทุกภาพจะมีฉากเพลิงไหม้และเสียงกรีดร้องโหยหวนซึ่งทำให้นางได้สติขึ้น ขนแขนของนางตั้งชัน
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
แม้ว่าคนอื่นจะไม่ได้เห็นสิ่งเหล่านั้น แต่ภาพเหมือนบุคคลที่อัดแน่นไปด้วยภาพบุคคลและสีขาวดำขนาดใหญ่ก็ทำให้ทั้งห้องน่าหดหู่เป็นพิเศษ
ด้านหลังภาพเหมือนบุคคลที่แขวนอยู่ในห้อง มีชายชราผมหงอกนอนอยู่บนเก้าอี้ไม้จันทน์สีเข้ม เขานุ่งห่มเสื้อผ้าเรียบ ๆ มัดผมเป็นมวย หลวม ๆ อย่างเกียจคร้าน
ลั่วชิงยวนมองเขาอีกครั้ง มหาราชครูลั่วผู้นี้มีหน้าผากกว้างและดวงตาที่สุขสกาว เขาเป็นคนมีการศึกษาและโชคลาภ แต่ลมปราณของเขาขุ่นมัวเล็กน้อย ซึ่งคงได้รับอิทธิพลจากภาพเหมือนบุคคลเหล่านี้เป็นแน่
เมื่อได้เห็นสีหน้าของเขาก็ดูเหมือนกับว่าเขาไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยอะไร ซึ่งนับว่าดีแล้ว
“ท่านปู่รอง” ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้าและทำความเคารพ
ภาพเหมือนเหล่านั้นถูกดัดแปลงทั้งหมด และคงไม่แปลกที่ท่านรั่วจะต้องฝันร้ายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่กับภาพเหมือนพวกนี้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ยิ่งฝันร้ายมากเท่าไร ความรู้สึกผิดในใจก็จะขยายวงกว้างมากขึ้นเท่านั้น
เขารู้สึกผิดที่ไปช่วยลั่วไห่ผิง แทนที่จะไปช่วยภรรยาและลูกของตน
เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ยิ่งหมกมุ่นกับเรื่องนี้มากขึ้นอีกเป็นตามธรรมชาติ
ยิ่งเขารู้สึกผิดเรื่องภรรยาและลูกของเขามากเท่าไร เขาก็ยิ่งเกลียดลั่วไห่ผิงมากขึ้นเท่านั้น
นั่นเพราะเขาช่วยจิ้งจอกตาขาวไว้แท้ ๆ
เดิมทีนางสงสัยว่ามีบางอย่างผิดปกติกับการอัญเชิญวิญญาณในจวนมหาราชครู แต่เมื่อนางได้เห็นภาพเหล่านี้ นางก็ยิ่งแน่ใจมากขึ้นแล้วว่า นี่เป็นการสมคบคิดกันเพื่อกำจัดจวนมหาราชครู!
จะต้องมีผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน!
เมื่อเดินออกจากลานบ้าน ลั่วหลางหลางก็มีสีหน้างุนงง "ทำไมเจ้าไม่ให้ข้าอธิบายเล่า ถึงแม้ว่าพวกเราจะรังเกียจเดียดฉันท์อัครเสนาบดีลั่ว แต่นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้าเลย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...