เหตุใดแคว้นหลีจึงส่งกองทัพมากะทันหัน
ฟู่อวิ๋นโจวเอ่ยถาม “ท่านมหาปราชญ์ ท่านเชี่ยวชาญด้านนี้ พอจะทำนายผลลัพธ์ได้หรือไม่?”
“ควรจะรับมืออย่างไร”
ขุนนางทั้งหลายต่างมองไปที่ลั่วฉิง ลั่วฉิงไม่มีทางเลือก จึงได้แต่กัดฟันกล่าวว่า “เรื่องนี้... ทำนายได้ แต่หม่อมฉันต้องการเวลาเพคะ”
ฟู่อวิ๋นโจวมีสีหน้ากังวล และถามว่า “ท่านมหาปราชญ์ต้องการเวลานานเพียงใด?”
ลั่วฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “สามวันเพคะ!”
สิ้นคำพูดของนาง หลายคนก็แสดงความมิพอใจ
“สามวันหรือ? ซีหลิงอยู่ห่างจากเมืองหลวงราวพันลี้ สามวันกว่าจะบอกผลลัพธ์ จะทันการณ์ได้อย่างไร”
“ก่อนหน้านี้พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการก็มิได้ใช้เวลานานถึงเพียงนั้น”
“ใช่ ท่านมหาปราชญ์คงจะมิค่อยมีความสามารถมากถึงเพียงนั้นกระมัง”
คำพูดนี้ทำให้ลั่วฉิงหน้าซีดเผือด
“สองวัน อย่างเร็วที่สุดก็ต้องสองวัน!” ลั่วฉิงกัดฟันกล่าว
ในตอนนี้ ฟู่เฉินหวนกล่าวอย่างใจเย็น “แคว้นหลีส่งกองทัพมาโดยมิทราบสาเหตุ ข้าคิดว่าตอนนี้ควรส่งคนไปเจรจากับแคว้นหลีโดยด่วน”
“ระหว่างนั้นก็ส่งกองกำลังไปเสริมอย่างลับ ๆ ด้วย อย่าได้พึ่งพาแต่ผลการทำนายของท่านมหาปราชญ์”
“หากผลลัพธ์ออกมาแล้วมีอะไรเปลี่ยนแปลง เราก็จะสามารถรับมือได้”
เหล่าขุนนางต่างพยักหน้าเห็นด้วย
ฟู่อวิ๋นโจวจึงสั่งการ “เช่นนั้นก็ทำตามที่อ๋องผู้สำเร็จราชการรับสั่ง แยกย้ายกันไปเตรียมการได้เลย”
“ท่านมหาปราชญ์ หวังว่าสองวันข้างหน้าท่านจะให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ”
เขาเป็นผู้แต่งตั้งมหาปราชญ์ลั่วฉิงผู้นี้เอง
และเป็นหนึ่งในมิกี่เรื่องที่เขาทำหลังจากขึ้นครองราชย์ จะผิดพลาดมิได้ มิเช่นนั้นเขาในฐานะจักรพรรดิคงจะถูกคนด่าลับหลังว่าเป็นจักรพรรดิผู้โง่เขลา
ลั่วฉิงแบกรับแรงกดดันมหาศาล นางได้แต่ตอบว่า “เพคะ!”
......
ลั่วชิงยวนนับวันเวลาด้วยความกระวนกระวาย คิดว่าเมื่อใดแคว้นหลีจะยกทัพมา
เย็นวันหนึ่ง ลั่วชิงยวนนั่งพิงหน้าต่างตามปกติ มองทิวทัศน์นอกหน้าต่างด้วยความเบื่อหน่ายเต็มที
เขามักจะชวนแต่ฉู่ลั่วดื่มเหล้า
หรือว่ามีเรื่องมิสบายใจ?
ลั่วชิงยวนเห็นฟู่เฉินหวนใจเย็นผิดปกติในวันนี้ เปลวไฟในใจที่ยังมิมอดดับจึงเริ่มลุกโชนขึ้นอีกครั้ง
นางเดินเข้าไปนั่ง แล้วรินเหล้าสองจอก
ฟู่เฉินหวนเอ่ยถามก่อน “มารดาของเจ้ามิได้ทิ้งถุงหอมไว้ให้เจ้าหรือ? ข้างในมีอะไร? เรื่องเกี่ยวกับน้ำศักดิ์สิทธิ์ของแคว้นหลี เจ้ายังปิดบังข้าอีกมากเพียงใด?”
ลั่วชิงยวนได้ยินดังนั้น ใจก็สั่นไหวเล็กน้อย
ฟู่เฉินหวนถามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แสดงว่าเขามีความตั้งใจที่จะฟังนางอธิบาย
หากอธิบายได้ชัดเจน อาจจะคลี่คลายความแค้นของเขาได้
ลั่วชิงยวนตอบทันที “อันที่จริงหม่อมฉันบอกท่านไปหลายเรื่องแล้ว แต่ก็มีบางเรื่องที่ยังปิดบังไว้”
“หากท่านยินดีฟังหม่อมฉันอธิบาย หากท่านยินดีเชื่อหม่อมฉัน หม่อมฉันก็ยินดีบอกท่านทุกเรื่อง”
“รวมถึงเหตุผลที่เฉินชีเรียกหม่อมฉันว่าอาเหลาด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...