ฟู่เฉินหวนยังคงนิ่งเงียบ มิเอ่ยคำใดสักคำ
จักรพรรดิสูงสุดโกรธจัด พลันตบหน้าฟู่เฉินหวนเข้าไปอีกสองฉาดอย่างแรงจนตัวเองเกือบล้มลงไปที่พื้น
ดีที่ขันทีรีบเข้ามาพยุงไว้ได้ทัน
จักรพรรดิสูงสุดชี้นิ้วไปที่ฟู่เฉินหวนด้วยความโกรธจัดจนแทบหายใจมิออก “เจ้ามันโหดร้ายเกินไปแล้ว!”
ฟู่เฉินหวนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย “คนที่อยากได้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ ก็ต้องยอมเสียสละบ้างเป็นธรรมดา”
“เจ้าอยากให้ข้าตายใช่หรือไม่!” จักรพรรดิสูงสุดโกรธจนแทบคลั่ง อยากจะเข้าไปเตะซ้ำอีกสักสองที แต่แล้วก็วูบหมดสติไป
จักรพรรดิสูงสุดเป็นลมล้มพับไป
หมอหลวงรีบมาตรวจชีพจรและตรวจร่างกายอย่างละเอียด เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอันตราย ฟู่เฉินหวนก็ขอตัวออกไป
เขาเดินไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิที่ห้องทรงพระอักษรทั้งที่ยังมีรอยฝ่ามือแดงปรากฏอยู่บนใบหน้า
ฟู่อวิ๋นโจวตอนนี้ร้อนใจยิ่งกว่าจักรพรรดิสูงสุด รีบถามทันที “ลั่วชิงยวนปลอดภัยดีใช่หรือไม่?”
ฟู่เฉินหวนยังคงตอบเหมือนเดิม “นางตายแล้ว”
ฟู่อวิ๋นโจวตัวแข็งทื่อทันใด ตะลึงงันราวถูกฟ้าผ่า
เขาจ้องมองฟู่เฉินหวนด้วยความตกใจ ดวงตาพลันกลายเป็นสีแดงก่ำด้วยความโกรธ จากนั้นวิ่งเข้ามากระชากคอเสื้อฟู่เฉินหวน
“ฟู่เฉินหวน! เจ้าเคยสัญญาว่าจะดูแลนางให้ดี! เจ้ากล้าดีอย่างไรมาฆ่านาง!”
“หากเจ้ามิต้องการนาง ก็มีคนอื่นอีกตั้งมากมายที่ต้องการนาง! เหตุใดเจ้าต้องฆ่านางด้วย!”
จักรพรรดิตวาดลั่นด้วยความโกรธ ดวงตาเต็มไปด้วยเพลิงโทสะประหนึ่งว่าต้องการฆ่าฟู่เฉินหวนจริง ๆ
เขาต่อยหน้าฟู่เฉินหวนอย่างแรงจนล้มลงไปกองกับพื้น
ฟู่เฉินหวนเช็ดเลือดที่มุมปาก แต่ก็มิได้เอ่ยคำใด มิได้ตอบโต้
จักรพรรดิเหวี่ยงฟู่เฉินหวนลงพื้น ก่อนจะขึ้นคร่อมแล้วระดมหมัดด้วยความเคียดแค้น
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
จักรพรรดิบันดาลโทสะบีบคอฟู่เฉินหวนด้วยความเกลียดชัง
นางผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ นางผู้เป็นที่หมายปองกลับถูกฟู่เฉินหวนกระทำเยี่ยงไร้ค่า มิรู้จักทะนุถนอม
เขาเกลียดตัวเอง เกลียดที่หลอกลวงนาง เกลียดที่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป
ยิ่งเกลียดมากที่ตนใจอ่อน หากใช้อำนาจช่วงชิงนางมาด้วยการบังคับให้แต่งงาน แม้ลั่วชิงยวนจะมิยินดี แต่ก็คงมิถึงแก่ความตาย!
ฟู่เฉินหวนค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้น “หากไม่มีสิ่งใดแล้ว กระหม่อมขอทูลลา”
กล่าวจบ ฟู่เฉินหวนก็หันหลังเดินออกไป
เมื่อออกจากตำหนักอ๋อง เขาก็ใช้มือเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก
ตลอดทางที่ออกจากวัง ผู้คนต่างมองมาที่เขาเพราะรอยแผลบนใบหน้า
เมื่อออกจากวังแล้วฟู่เฉินหวนก็รีบออกเดินทางไปยังซีหลิงในทันที
ข่าวไฟไหม้ตำหนักอ๋องแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวง
ส่วนข่าวลั่วชิงยวนถูกไฟคลอกเสียชีวิตก็แพร่ไปอย่างเงียบ ๆ โดยผู้คนต่างเชื่อว่าเป็นฝีมือของฟู่เฉินหวน
“เฮ้อ เมื่อก่อนข้ายังเคยไปให้ท่านเซียนฉู่ทำนายชะตาให้ แม่นมากทีเดียว มิคิดว่าจะจากไปเร็วถึงเพียงนี้”
“เมื่อมินานมานี้พระชายาอ๋องมิได้อยู่กับชายอื่นหรอกหรือ? เห็นอิงแอบแนบชิดกันกลางถนน ได้ยินว่าไปที่ศาลากลางน้ำ แล้วยังแสดงความรักกันต่อหน้าธารกำนัลด้วย”
“คงเป็นเพราะเรื่องนี้ท่านอ๋องจึงเสียหน้า จึงได้เผาพระชายาจนสิ้นไป”
คำพูดนี้ทำให้ผู้คนแตกตื่น วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...