แต่แล้วประโยคของท่านมหาราชครูในวินาทีต่อมา กลับทำผู้คนตะลึงยิ่งกว่า!
เขาพูดกับลั่วชิงยวนด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน “ภาพนี้ ให้ข้าได้หรือไม่?”
ทุกคนต่างมีสีหน้างุนงง
นี่มิใช่ของกำนัลที่ให้ท่านมหาราชครูลั่วอยู่แล้วงั้นหรือ?
อีกอย่างนี่เป็นเพียงภาพวาดเท่านั้น!
แต่ลั่วชิงยวนเข้าใจความหมายท่านมหาราชครูลั่วจะสื่อ เขาอยากได้ทุกอย่างที่อยู่ในภาพนั้น
นางเผยยิ้มอ่อนโยน “เจ้าค่ะ นี่เป็นของกำนัลที่จะมอบให้ท่านปู่มหาราชครูอยู่แล้ว! เพียงแค่ท่านต้องการชม ก็จะสามารถชมภาพนี้ได้ตลอดเจ้าค่ะ”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ มหาราชครูลั่วพยักหน้าดีใจ สายตาที่มองลั่วชิงยวนเอ็นดูขึ้นมาทันที
“ได้ เจ้าหนู ขอบคุณที่มอบของกำนัลที่ล้ำค่าเช่นนี้ให้ปู่! ปู่ชอบมากเลย!”
สิ้นประโยคนี้ รอบด้านดังเป็นเสียงซุบซิบขึ้น
ท่านมหาราชครูยอมรับลั่วชิงยวนเป็นหลานสาวแล้วงั้นหรือ?
หลายปีมานี้ ลั่วเยวี่ยอิงไปเยี่ยมท่านมหาราชครูที่จวนหลายครั้ง แม้จะได้เจอกับท่านมหาราชครูลั่วบ้าง แต่เขากลับไม่เคยเหลียวแลนางมาก่อน ยิ่งไม่ต้องว่าเรื่องการยอมรับนางเป็นหลานสาวเลย!
ลั่วชิงยวนมีสิทธิ์อะไรกัน!?
เพียงแค่ภาพวาดผืนหนึ่งมีสิทธิ์อะไรได้เป็นหลานสาวของท่านมหาราชครู!
นางกัดฟันอย่างคับแค้น!
ไม่เพียงแต่ลั่วเยวี่ยอิง คนทั้งลานต่างก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
สายตาฟู่เฉินหวนตกอยู่ที่ภาพวาดนั้นเนิ่นนาน เพื่อดูว่าในภาพมีกลไกอะไร จึงทำให้ท่านมหาราชครูลั่วดีใจเช่นนี้ จนถึงกับยอมรับนางเป็นหลานสาว
อย่างที่รู้ ท่านมหาราชครูลั่วไม่ยอมรับแม้กระทั่งพ่อของลั่วชิงยวน
และลั่วไห่ผิงก็เดินขึ้นหน้าพร้อมเรียก “ท่านอารอง”
มหาราชครูมองเขาทีหนึ่ง รอยยิ้มหุบลงทันใด พร้อมกับเปลี่ยนเรื่องคุย “วันนี้ขอบคุณทุกท่านที่มาฉลองวันเกิดอายุเจ็ดสิบปีของข้า เลิกเสียเวลาได้แล้ว ทานอาหารเถิด ข้ารู้สึกเพลีย จะขอไม่อยู่ต่อกับทุกท่านแล้ว”
ไม่คิดว่าเจ้าหนูลั่วชิงยวน จะมีความสามารถมากเช่นนี้ นางทำได้จริง ๆ ! เรื่องนี้ทำเอาลั่วหรงเปิดโลกสุด ๆ !
ประตูห้องปิดลง ท่านมหาราชครูลั่วกางภาพดูอีกครั้ง รอบนี้ขอบตาของเขาเปียกชื้นอย่างอดไม่ได้ เขาหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา
“สิ่งนี้มัน ทำได้อย่างไรกัน คนที่อยู่ในภาพ สามารถออกมาและพูดคุยกับข้าได้หรือไม่?” ท่านมหาราชครูลั่วถามลุ้น
ลั่วชิงยวนเพียงแค่ส่ายหน้าอย่างเสียดาย “ที่จริงแล้ว เป็นเพราะความยึดเหนี่ยวในใจของท่านต่างหาก จึงทำให้ท่านสามารถเห็นภาพแต่ละฉากในภาพวาดได้ ภาพวาดผืนนี้เป็นเพียงสิ่งปลอบใจ เขาตัวจริง เข้าสู่สังสารวัฏของชีวิตจนเกิดใหม่อีกครั้งแล้ว บางทีตอนนี้เขาอาจจะกำลังใช้ชีวิตที่ดีบนที่ใดสักแห่งของดินแดนแผ่นนี้”
“ท่านปู่อย่ายึดติดกับอดีตมากเกินไป ปล่อยตัวท่านเอง และปล่อยครอบครัวของท่านไปเถิด เพื่อทำความหวังของท่านให้สำเร็จ ท่านอาทำเรื่องที่ส่งผลเสียต่อตระกูลไปหลายอย่าง”
“ทำให้คนที่ประสงค์ร้ายนั้นมีช่องโหว่ให้มุดได้”
ลั่วชิงยวนคิด ในเมื่อท่านปู่เรียกนางมาโดยเฉพาะ งั้นเรื่องบางอย่าง ก็ควรจัดการแล้วเช่นกัน
ได้ยินประโยคนี้ ท่านมหาราชครูขมวดคิ้ว “มุดช่องโหว่หรือ? หมายความว่าอย่างไร?”
ลั่วชิงยวนมองไปทางภาพวาดที่แขวนอยู่อย่างมีความนัย และเอ่ยพูดช้า ๆ …
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...