อวี๋โหรวก็ประหลาดใจ นางมิคาดคิดว่าลั่วชิงยวนจะล่วงรู้ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนาง
อีกทั้งยังไปเอาเรื่องจั๋วฉ่างตงเพื่อนางและทำร้ายจั๋วฉ่างตงจนอยู่ในสภาพเช่นนั้น
การกระทำของนางคล้ายคลึงกับลั่วเหลาในสมัยก่อนยิ่งนัก
นางชอบใจมาก
“กินยาเสีย” ลั่วชิงยวนรินยาให้
อวี๋โหรวเดินเข้าไปดมแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ “ในนี้มีบัวถวายผสมด้วยหรือ?”
“เจ้ากินไปเถิด”
“อาการบาดเจ็บของเจ้าน่าจะทุเลาลงเพราะยานี้”
ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “อาการบาดเจ็บภายในของเจ้าก็มิได้ดีไปกว่าข้าหรอก รีบกินเสีย”
อวี๋โหรวจำต้องยอมดื่มยานั้น
ลั่วชิงยวนนั่งลงข้าง ๆ รินน้ำชาหนึ่งถ้วย แล้วกล่าวว่า “ต่อไปจั๋วฉ่างตงจะต้องหาเรื่องเจ้าอีกเป็นแน่ เจ้าจะปิดบังตนเองอีกมิได้”
“ในเมื่อฝีมือของเจ้าทำให้จั๋วฉ่างตงริษยาได้ เช่นนั้นก็อย่าได้เกรงใจนาง!”
“ส่วนทางด้านนักบวชระดับสูง ข้าคิดว่านางคงจะให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความสามารถ มิใช่ผู้ที่ประจบสอพลอ”
นี่คือความเข้าใจที่ลั่วชิงยวนมีต่อเวินซินถง
จั๋วฉ่างตงสามารถเป็นคนสนิทข้างกายของนางได้ ย่อมเป็นเพราะจั๋วฉ่างตงมีฝีมือที่แข็งแกร่งในสำนักนักบวช มิใช่เพราะจั๋วฉ่างตงประจบสอพลอเก่ง
อวี๋โหรวทอดสายตาเศร้าสร้อย “อันที่จริง... อาจารย์ของข้าเป็นคนที่มิชอบแก่งแย่งชิงดี”
“เพียงแต่เขาออกเดินทางเพื่อแสวงหาอิสรภาพของเขา”
“ข้าคิดว่าหากในภายหน้าสามารถออกจากที่นี่ได้ ก็คงจะเดินตามรอยเส้นทางที่เขาเคยเดิน”
“ข้าจึงมิได้มีความทะเยอทะยานมากนัก ข้าเพียงถูกบีบคั้นจนถึงทางตัน จำต้องหาวิธี”
อวี๋โหรวพูดอย่างตรงไปตรงมา
ลั่วชิงยวนตกตะลึงเล็กน้อย
เมื่อเห็นอวี๋โหรวดูเหมือนจะยังคงคิดถึงอาจารย์ของนาง ลั่วชิงยวนจึงอดมิได้ที่จะเอ่ยถึง “อาจารย์ของเจ้าคือเจ๋อเฉิงใช่หรือไม่?”
“ข้าเคยพบเขา”
เมื่ออวี๋โหรวได้ฟังดังนั้นก็ดวงตาเป็นประกายในทันที “เจ้าเคยพบเขาหรือ? จริงหรือไม่? ยามนี้เขาอยู่ที่ใด?”
ลั่วชิงยวนหยิบสมุดบันทึกที่พกติดตัวออกมา
ลั่วชิงยวนพยักหน้า “เคยสิ มิเช่นนั้นข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าเป็นศิษย์ของเขา”
“เขากล่าวว่า ตลอดชีวิตนี้เสียใจที่มิได้อยู่กับเจ้าได้นานพอ อีกทั้งยังกังวลว่าเจ้าจะถูกรังแก และยังฝากข้ามาบอกเจ้าว่าอยากให้กำลังใจเจ้าด้วย ในภายภาคหน้าให้ออกจากแคว้นหลี ไปดูใต้หล้าอันกว้างใหญ่”
อวี๋โหรวได้ฟังแล้ว น้ำตาของนางก็พลันไหลริน
นางร้องไห้ไปหัวเราะไป เช็ดน้ำตาแล้วกล่าวด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณ”
“ถึงแม้เขาจะมิอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยก็ทำให้ข้าได้รู้ที่อยู่ของเขา”
“ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”
“เพียงแต่จุดจบของเขาทำให้ข้าประหลาดใจนิดหน่อย”
“แต่ถึงอย่างไร นี่ก็เป็นการเลือกของเขาเอง”
นางปิดสมุดบันทึก มองไปยังลั่วชิงยวน “ข้าขอเก็บสิ่งนี้ไว้ได้หรือไม่?”
“ข้าจะนำไปส่งที่แท่นหินแห่งบาปเอง”
ลั่วชิงยวนพยักหน้า “เช่นนั้นก็ดีที่สุด”
“อย่างไรเสีย ยามนี้ข้าก็ยังไปแท่นหินแห่งบาปมิได้อยู่แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...