“ไปเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปทำความเข้าใจสถานการณ์”
กล่าวจบ เขาก็พาฟู่เฉินหวนเดินไป
ทว่าระหว่างทางกลับพบเกาเหมียวเหมี่ยวเดินสวนมาพอดี
ฉินอี้เข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง แล้วเอ่ยถาม “เหมียวเหมี่ยว อาการบาดเจ็บของเจ้าหายดีแล้วหรือ?”
เกาเหมียวเหมี่ยวตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “บาดแผลเพียงเท่านี้คร่าชีวิตหม่อมฉันมิได้หรอก อีกอย่าง เสด็จพ่อกับเสด็จแม่ประทานยาให้หม่อมฉันมากมาย มิเจ็บปวดแผลแล้ว”
ฉินอี้พยักหน้า “บาดแผลของเจ้าหายเร็วได้เช่นนี้ก็เพราะกินน้ำแกงโสมมังกรมาตลอด เจ้าต้องกินทุกวันตามเวลา ร่างกายจะได้แข็งแรงขึ้น!”
“เข้าใจแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็ดวงตาเป็นประกาย
น้ำแกงโสมมังกรหรือ?
เป็นโสมมังกรชนิดเดียวกับที่หมอหลวงมู่ให้เขากินหรือไม่?
สิ่งนี้แม้แต่หมอหลวงมู่ก็มีเพียงชิ้นเดียว มิเคยพบเห็นชิ้นที่สอง
แต่องค์หญิงแห่งแคว้นหลีกลับได้กินทุกวันเลยหรือ?
เขาอดสงสัยมิได้ว่าสองสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวกันจริงหรือไม่
หากเป็นเช่นนั้น เขาก็มีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายเดือน หรือกระทั่งหลายปีเลยมิใช่หรือ?
เปลวไฟแห่งความหวังลุกโชนขึ้นในใจของฟู่เฉินหวน
ฉินอี้เดินจากไปแล้ว แต่ฟู่เฉินหวนยังคงยืนเหม่อลอย
ฉินอี้หันกลับมาเห็นเข้าก็ตกใจเล็กน้อย รีบร้องเรียก “เจ้าเหม่อลอยกระไร!”
ฟู่เฉินหวนได้สติ พลันรีบเดินตามไป
ทว่าทันใดนั้น ร่างหนึ่งก็ก้าวเข้ามาขวางทางเขาไว้
เกาเหมียวเหมี่ยวพิจารณาฟู่เฉินหวนด้วยความสนใจ แล้วยกมือขึ้นหมายจะถอดหน้ากากของเขา
“ผู้ใดกัน กล้าสวมหน้ากากในวังหลวง?”
ฟู่เฉินหวนถอยหลังด้วยความระแวดระวัง
มือของเกาเหมียวเหมี่ยวค้างเติ่งกลางอากาศ ดวงตาของนางเย็นเยียบลงในทันที
นางพิจารณาเขา แล้วจู่ ๆ ก็หัวเราะเยาะ “เจ้ากล้าหลบรึ?”
ฟู่เฉินหวนก้มหน้าลง ตอบด้วยเสียงต่ำ “ใบหน้าของกระหม่อมถูกไฟไหม้ เกรงว่าจะทำให้องค์หญิงตกพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น เกาเหมียวเหมี่ยวก็หัวเราะเบา ๆ “ทำให้ข้าตกใจรึ? หากข้าตกใจง่ายเพียงนั้น ข้าก็มิใช่เกาเหมียวเหมี่ยวแล้ว!”
“ถอดหน้ากากออกเสีย!”
คำพูดนี้ทำให้ฉินอี้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ขัดคำสั่งรึ?
ฟังดูราวกับว่าเขาเป็นข้ารับใช้
แต่เขาเป็นถึงพี่ชายของเกาเหมียวเหมี่ยว เป็นองค์ชายแห่งแคว้นหลี
หลังจากฟู่เฉินหวนหลบหลีกหลายครั้งก็เอ่ยขึ้นในทันที “เมื่อสวมหน้ากากแล้วจะมิถอดออกจนกว่าจะตาย ขอองค์หญิงอย่าได้ทรงทำให้กระหม่อมลำบากใจเลยพ่ะย่ะค่ะ!”
เกาเหมียวเหมี่ยวเผลอออกแรงเยอะเกินไปจนเจ็บบาดแผล จึงหยุดมือพอดี
นางหรี่ตามองชายสวมหน้ากากตรงหน้า ถึงแม้จะสวมหน้ากาก แต่ท่วงท่าที่เย็นชาและเข้มงวดของเขากลับดึงดูดใจยิ่งนัก
แตกต่างจากองครักษ์ทั่วไปมาก
และยังมีส่วนคล้ายคลึงกับเฉินชีอยู่หลายส่วนด้วย
เกาเหมียวเหมี่ยวยกยิ้ม “นอกจากเฉินชี เจ้าเป็นคนที่สองที่กล้าขัดคำสั่งองค์หญิงผู้นี้”
“มิคาดคิดว่าองครักษ์อย่างเจ้าจะฉลาดเฉลียว รู้วิธีดึงดูดความสนใจของข้าถึงเพียงนี้”
“ดีมาก เจ้าได้ดึงดูดความสนใจของข้าแล้ว”
“ต่อแต่นี้ไป จงติดตามข้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...