ลั่วชิงยวนถูกปลุกให้ตื่น
เห็นเวินซินถงที่เดินเข้ามาด้วยความโกรธเกรี้ยว
มู่หยวนหยวนก็ตกใจเล็กน้อย ท่าทางของนักบวชระดับสูงทำให้นางหวาดกลัว “ท่านนักบวชระดับสูง เกิดเรื่องอันใดขึ้นเจ้าคะ?”
เวินซินถงกลั้นโทสะไว้ กล่าวกับมู่หยวนหยวน “คุณหนูมู่ โปรดออกไปก่อน ข้ามีเรื่องจะพูดกับนางเป็นการส่วนตัว”
มู่หยวนหยวนมิกล้าขัดคำสั่ง จึงออกจากห้องไป
เมื่อประตูปิดลง เวินซินถงก็คว้าแขนของลั่วชิงยวนกระชากนางให้ลุกขึ้น
พละกำลังรุนแรงยิ่งนักราวกับจะฉีกร่างลั่วชิงยวนออกเป็นชิ้น ๆ
“ลั่วชิงยวน เจ้าช่างมีความสามารถนัก เจ้าถึงกับนำสำนักเทียนฉยงมา! เจ้าเกรงว่าข้าจะมีปัญหามิพอรึ!”
เวินซินถงโกรธจัด
เช้าตรู่วันนี้เซี่ยหลิงมาหานาง บอกว่าคนจากสำนักเทียนฉยงปรากฏตัวที่บ้านตระกูลมู่ นางรีบมาตรวจสอบจึงพบร่องรอยของสำนักเทียนฉยงจริง ๆ
และทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัญหาที่มู่หว่านจ้าวสร้างขึ้น!
ลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้ว “ข้านำมาหรือ?”
“เมื่อวานข้าบอกเจ้าแล้วว่าเรื่องราวมิได้ง่ายดายเพียงนั้น หากข้าสามารถนำสำนักเทียนฉยงมาได้ ข้าจะไปทำงานกับเจ้าหรือ?”
คำพูดของลั่วชิงยวน ทำให้โทสะในใจของเวินซินถงระเบิดออก
ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความโกรธ พลันยกมือขึ้นปาดเข้าไปอย่าแรง
“เจ้าว่ากระไรนะ?!”
ลั่วชิงยวนคว้าจับข้อมือของนางไว้อย่างมิปรานี
แล้วสะบัดออกอย่างแรง
“จะมิพูดซ้ำสอง”
“นักบวชระดับสูง ความสามารถของเจ้ามิแข็งแกร่งก็ควรรับฟังความคิดเห็นอย่างนอบน้อม ไยต้องดื้อรั้นเช่นนี้?”
“ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นคนที่เฉินชีพามา แต่เจ้าก็มิควรถึงกับมิฟังคำเตือน”
ลั่วชิงยวนรู้สึกยากจะเชื่อว่านี่คือศิษย์น้องของนาง
ศิษย์น้องที่เมื่อก่อนชอบวิ่งตามหลังนาง อ้อนวอนให้นางซื้อน้ำตาลปั้นให้
แววตาของนางมิสดใสเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
เหลือเพียงความขุ่นมัว
ขุ่นมัวจนมองมิเห็นเบื้องลึกของจิตใจนาง
นางเกลียดท่าทางที่คิดว่าตนเองเก่งกาจและหยิ่งผยองของลั่วชิงยวน!
เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินคำพูดของเวินซินถง ความหนาวเย็นก็แผ่ซ่านไปทั่วหัวใจ
“ข้าจะจัดการสำนักเทียนฉยงเอง”
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา เวินซินถงก็ตกตะลึง ทั้งโกรธทั้งอยากหัวเราะ “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร?”
“ข้ายังมิกล้าพูดเลยว่าจะจัดการสำนักเทียนฉยงได้? เจ้าทำได้รึ?”
“ลั่วชิงยวน เจ้าปากเก่งยิ่งกว่าเฉินชีเสียอีก!”
สายตาลั่วชิงยวนเย็นชาขณะกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ข้าบอกว่าทำได้ก็ทำได้ หากทำมิได้ค่อยมาต่อว่าข้าดีหรือไม่?”
เวินซินถงโกรธจนแทบคลั่ง สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์
สายตาดุดันจ้องมองลั่วชิงยวน “ได้! ข้าจะให้โอกาสเจ้า!”
“หากเจ้ามิสามารถแก้ไขปัญหาของตระกูลมู่ได้ หากข้าสังหารเจ้าก็อย่าโทษข้าแล้วกัน!”
ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วเล็กน้อย “ได้”
เวินซินถงโกรธจนกัดฟันแน่นอน
จากนั้นก็เขียนสัญญาขึ้นมา บีบบังคับให้ลั่วชิงยวนลงนามประทับรอยนิ้วมือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...