ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1325

มินานข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวง

ทว่านายท่านมู่มิได้กล่าวโทษนักบวชระดับสูง เพราะมู่หยวนหยวนทิ้งจดหมายไว้แล้วจากไปเอง

เนื่องจากวันนี้อวี๋โหรวออกจากวังพอดี ทั้งสองจึงไปกินอาหารด้วยกันที่โรงเตี๊ยม

บังเอิญเห็นประกาศตามหาวางอยู่บนโต๊ะ

“หนึ่งแสนตำลึง นายท่านมู่ผู้นี้ช่างใจป้ำยิ่งนัก” อวี๋โหรวตกตะลึงกับเนื้อหาในประกาศ

ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะเสียดาย “เขาสามารถเสนอเงินได้ถึงหนึ่งแสนตำลึง เหตุใดยังต้องส่งมู่หยวนหยวนเข้าวัง แม้ว่าเขาจะส่งนางเข้าวังได้ แต่อาจจะมิได้มากถึงหนึ่งแสนตำลึงด้วยซ้ำ”

อวี๋โหรวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คิดว่านายท่านมู่คงต้องการชื่อเสียงเกียรติยศ และต้องการเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ แต่ก็มิพอใจที่จะอยู่ในอันดับสุดท้าย”

ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น จู่ ๆ อวี๋โหรวก็เกิดความสับสนขึ้นมา จึงถามว่า “แต่เขาจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามู่หยวนหยวนจะนำชื่อเสียงเกียรติยศมาให้เขาได้?”

ลั่วชิงยวนก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ไม่มีทางรู้เรื่องนี้ได้

บางทีตระกูลมู่อาจจะมีความลับอื่นซ่อนไว้ก็เป็นได้

“ประเดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้ว เราก็ไปหาบัวถวายกัน ข้าได้ข่าวมาว่ามีคนครอบครองบัวถวาย”

“มิได้นำมาขายอย่างเปิดเผย แต่นำไปขายที่ตลาดมืดในราคาสูง”

ลั่วชิงยวนได้ฟังก็ดวงตาเป็นประกาย “ดีเลย”

ยามนี้มิกลัวราคาสูง กลัวว่ามีเงินแต่ไม่มีของมากกว่า

มิรู้ว่าเหตุใดบัวถวายจึงหายไปหมด

ในเมื่อคืนนี้มีบัวถวายขายในตลาดมืด ลั่วชิงยวนจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไป

นางมาถึงแคว้นหลีแบบไม่มีเงินติดตัว จำต้องไปหาเฉินชี

เมื่อลั่วชิงยวนปรากฏตัวที่หน้าประตูจวนแม่ทัพ เฉินชีก็ดีใจยิ่งนัก รีบเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ามีเลศนัย ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงคลุมเครือว่า “คิดถึงข้าหรือ?”

“ยากนักที่จะเห็นเจ้าเป็นฝ่ายมาหาข้าเอง”

ลั่วชิงยวนขยับเท้าถอยออกห่าง “คืนนี้ตลาดมืดอาจจะมีบัวถวายมาขาย เจ้าไปกับข้าสิ”

เฉินชีได้ฟังดังนั้นก็เลิกคิ้วตอบ “ได้”

“ต้องเตรียมเงินให้พอ!”

เฉินชีตอบตกลงในทันที แล้วสั่งการ “ไปเตรียมเงินสามแสนตำลึงมา!”

ลั่วชิงยวนตกตะลึง เฉินชีให้คนเตรียมเงินมากถึงสามแสนตำลึงจริง ๆ

เฉินชีถามอีก “กลับมาคืนนี้คงดึกมากแล้ว พักที่จวนข้าหรือไม่?”

“บาดแผลของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ดีขึ้นบ้างหรือไม่?”

เฉินชีเอาแต่ถามลั่วชิงยวนมิหยุดตลอดทาง

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่น มิสบอารมณ์ “เงียบบ้างเถิด!”

“เจ้ามิพอใจที่ข้าพูดพร่ำหรือ ก็ได้ เช่นนั้นข้ามิพูดแล้ว” เฉินชีจนใจ เขานั่งตัวตรงพิงผนังรถม้าพลางหลับตาพักผ่อน

น้ำเสียงนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความน้อยใจ

อวี๋โหรวตกตะลึงไปตลอดทาง

นางมิเคยเห็นเฉินชีมีท่าทางเช่นนี้มาก่อน

ยิ่งไปกว่านั้นคือมิเคยเห็นผู้ใดสามารถสั่งเฉินชีได้

เมื่อมาถึงที่หมายลั่วชิงยวนและอวี๋โหรวก็เดินนำหน้า

อวี๋โหรวอดมิได้ที่จะกระซิบถาม “เจ้า… มิกลัวเฉินชีเลยจริงหรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย