เมื่อคำพูดของเฉินชีหลุดออกมา ฝูงชนรอบตัวก็แตกตื่น
“หนึ่งแสนตำลึงหรือ? สวรรค์โปรด แพงถึงเพียงนี้เลยรึ?”
ในขณะที่ลั่วชิงยวนคิดว่าต้องได้มาแน่นอนแล้ว
ท่ามกลางฝูงชนก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “หนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง!”
ลั่วชิงยวนใจหายวาบ
หันไปมอง แต่กลับมองมิเห็นว่าเสียงนั้นมาจากผู้ใด
เนื่องจากคนที่นั่งอยู่เหล่านั้นดูธรรมดาทั่วไป
ฝูงชนส่งเสียงจอแจด้วยความฮือฮา ทุกคนต่างตกตะลึงกับราคานี้
เมื่อก่อนขายบัวถวายได้แพงสุดหนึ่งร้อยตำลึง ยามนี้ราคากลับพุ่งขึ้นไปถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง
นี่มันเกิดอะไรขึ้น
สายตาเย็นเยียบของเฉินชีเหลือบมองไปยังทิศทางที่เสียงนั้นดังขึ้น แล้วตะโกนในทันที “สามแสน!”
รอบด้านเงียบสงัดไปชั่วขณะ
ทว่าเงียบไปเพียงชั่วครู่ เสียงเดิมก็ดังขึ้นอีกครั้ง “สามแสนห้าหมื่น!”
ลั่วชิงยวนใจหาย
ราคาสูงถึงเพียงนี้ อีกฝ่ายกลับยังเพิ่มราคาขึ้นอีกห้าหมื่นตำลึง
สำหรับสมุนไพรชนิดหนึ่ง ราคานี้มิคุ้มค่าเลย
คนผู้นี้สามารถทุ่มเงินได้มากมายเช่นนี้ แสดงว่าบัวถวายนี้มิเพียงแต่สำคัญต่อเขามากเท่านั้น แต่เงินจำนวนนี้ยังมิถือว่ามีค่าอะไรสำหรับเขาด้วย
เฉินชีปวดหัว ไม่มีเงินเหลือแล้ว
ในตลาดมืดแห่งนี้ไม่มีการติดไว้ก่อนแล้วค่อยจ่ายทีหลัง
ทั้งหมดล้วนเป็นการซื้อขายด้วยเงินสดและตั๋วเงิน
สุดท้ายเฉินชีก็ชักกระบี่ออกมา แล้วเดินไปยังทิศทางที่เสียงนั้นดังขึ้น
ทุกคนเห็นดังนั้นต่างก็หวาดกลัว ลุกขึ้นวิ่งหนีไป
เมื่อหลายคนที่นั่งอยู่วิ่งหนีไปไกลแล้ว ก็เห็นชายในชุดผ้าป่านธรรมดาคนหนึ่งนั่งนิ่งอยู่
กระบี่ยาวในมือของเฉินชีจ่อไปที่คอของเขาในทันที “เจ้าดึงดันจะแย่งชิงบัวถวายนี้กับข้าหรือ?”
ชายคนนั้นมองเฉินชี ไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ในการประมูล ผู้ที่ให้ราคาสูงสุดย่อมได้สินค้าไป”
เฉินชีคิ้วขมวดมุ่นด้วยโทสะ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น “เช่นนั้นก็ดูว่าเจ้าจะรอดชีวิตแล้วนำมันกลับไปได้หรือไม่!”
แต่บัวถวายในท้องตลาดมีผู้ซื้อไปมากมาย เป็นไปได้ว่าจะเป็นคนตรงหน้าผู้นี้ที่ซื้อไป
จำนวนมากมายเช่นนี้บ่งชี้ว่าที่บ้านของเขาอาจจะมีคนป่วยหนัก
สถานการณ์เช่นนี้มิจำเป็นต้องใช้บัวถวายต่อชีวิต
นางอยากจะลองดู
แต่ชายคนนั้นกลับกล่าวว่า “ที่บ้านข้ามีหมอฝีมือดีหลายคนอยู่แล้ว มิจำเป็นต้องให้เจ้าไปดูหรอก”
“ในเมื่อบัวถวายนี้กำลังถูกประมูลอยู่ ผู้ที่ให้ราคาสูงสุดย่อมได้ไป พวกเจ้าก็สามารถเสนอราคาแข่งกับข้าได้ อย่ามาทำเรื่องไร้ประโยชน์เลย”
น้ำเสียงของชายคนนั้นดูมิสบอารมณ์
สีหน้าของเฉินชีเปลี่ยนไป กระบี่พิชิตมารแทบจะเฉือนคอของชายคนนั้น “เจ้าพูดอีกครั้งได้หรือไม่?!”
“รู้จักกระบี่นี้หรือไม่ ข้าต้องการบัวถวาย!”
อีกฝ่ายกลับหัวเราะเบา ๆ แล้วเงยหน้ามองเฉินชี “เหตุใดข้าจะมิรู้จักกระบี่พิชิตมารอันโด่งดัง”
“แต่กระบี่พิชิตมารของมัจจุราชอำมหิตจะสามารถฟันคนสำนักเทียนฉยงได้หรือ?”
เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...