ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1354

ซูเซียงพูดด้วยรอยยิ้ม “มัวอึ้งอะไรอยู่ รีบกินเถิด”

“ที่นี่ขาดแคลนอาหาร อย่าได้สิ้นเปลืองเลย”

ลั่วชิงยวนพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “ยามนี้ข้ายังมิค่อยหิว เดี๋ยวหิวแล้วข้าค่อยกินแล้วกัน จะได้ประหยัดด้วย”

ซูเซียงมิได้สังเกตเห็นความระแวดระวังของลั่วชิงยวนในยามนี้ เพียงแค่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ได้สิ เพียงแต่ยามค่ำคืนก็จงเข้านอนแต่หัววัน”

“อย่าได้ออกจากหมู่บ้านในยามาราตรีเด็ดขาด!”

ซูเซียงขยับเข้ามาใกล้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ลั่วชิงยวนตกตะลึง “เหตุใด?”

“อย่าถามเลย อย่างไรก็ฟังข้าเถิด ยามค่ำคืนอย่าออกไปข้างนอกและอย่าออกจากหมู่บ้านเด็ดขาด! มิเช่นนั้นจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น!”

กล่าวจบ ซูเซียงก็มองแสงจันทร์นอกหน้าต่าง ดูเหมือนจะตระหนักได้ว่ายามนี้ค่ำแล้ว จึงรีบบอกลา แล้วลุกขึ้นเดินออกไป

ลั่วชิงยวนยืนอยู่ที่หน้าต่าง มองซูเซียงรีบเดินกลับไปยังเรือนของตนอย่างรวดเร็ว

ภายใต้แสงจันทร์นั้นเห็นได้ชัดว่านางมีเงา

แสดงว่านางเป็นมนุษย์

แล้วเหตุใดบนกระดาษแผ่นนั้นจึงบอกว่านางมิใช่มนุษย์?

หรือว่าเนื้อหาบนกระดาษแผ่นนั้นมีความหมายอื่นซ่อนอยู่?

นางกลับไปยังโต๊ะ แล้วตรวจสอบอาหารอีกครั้ง

ทันใดนั้นเอง บนประตูก็ปรากฏเงาดำ

ลั่วชิงยวนหรี่ตาเดินเข้าไปเปิดประตู สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือสตรีคนที่เคยเจอเมื่อยามกลางวัน

เพียงแต่ยามนี้ สายตาที่อีกฝ่ายมองนางไม่มีความข่มขู่แล้ว

“มีธุระอันใด?”

อีกฝ่ายเม้มริมฝีปากแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าชื่อฉีเสวี่ยเวย เราเคยพบกันเมื่อยามกลางวัน”

ลั่วชิงยวนพยักหน้าอย่างใจเย็น

ฉีเสวี่ยเวยมองไปด้านนอกด้วยความระแวดระวัง จากนั้นกล่าวด้วยความตื่นตระหนก “เข้าไปคุยกันในห้องเถิด”

เมื่อเข้าไปในห้องแล้วฉีเสวี่ยเวยก็ปิดประตูในทันที

นางกวาดสายตามองอาหารบนโต๊ะ แล้วถามว่า “เจ้ายังมิได้กินใช่หรือไม่?”

ลั่วชิงยวนประหลาดใจเล็กน้อย “กระดาษแผ่นนั้น เจ้าเป็นคนเขียนหรือ?”

“คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ที่นี่เป็นบุรุษ”

“เจ้างดงามเพียงนี้ ซูเซียงหลอกลวงเจ้ามาก็เพื่อมอบให้ชายเหล่านั้นเสพสุข”

“มิเช่นนั้นเจ้าคิดว่า สตรีที่กำลังตั้งครรภ์ ทำอะไรมิได้ อยู่ที่หมู่บ้านไปจะมีประโยชน์อันใดเล่า?”

ลั่วชิงยวนได้ฟังก็พยักหน้าอย่างครุ่นคิด “ก็มีเหตุผลอยู่บ้าง”

“ดังนั้นเจ้ารีบหนีไปเถิด ก่อนที่เจ้าจะกลายเป็นอาหารของพวกเขา” ฉีเสวี่ยเวยเลิกคิ้วขึ้น

“ข้าจะคิดดูก่อน ยามนี้ค่ำแล้ว เจ้ากลับไปก่อนเถิด”

“ขอบคุณที่บอกกล่าว”

ฉีเสวี่ยเวยมิรู้ว่าลั่วชิงยวนคิดอะไร สิ่งที่ควรพูดนางก็พูดไปหมดแล้วจึงหันหลังกลับไป

เมื่อประตูปิดลง ลั่วชิงยวนก็นั่งลงที่โต๊ะ แล้วมองดูอาหารบนโต๊ะ

ลั่วชิงยวนครุ่นคิด หยิบตะเกียบขึ้นมา

แล้วกินไปสองสามคำ

นางมิพบว่าอาหารมีอะไรผิดปกติเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย