แต่ในครู่ต่อมา ร่างของฝูเหมิ่งก็ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
มีเสียงโซ่เหล็กดังขึ้น
ลั่วชิงยวนไล่ตามไป
จึงเห็นฝูเหมิ่งถูกโซ่เหล็กมัดไว้กับต้นไม้
ร่างที่ผอมบางใช้กระบี่ห้วงสวรรค์ในมือแทงเข้าไปในอกของฝูเหมิ่ง
ท่วงท่าของเขาคล่องแคล่วและโหดเหี้ยมยิ่งนัก
ฝูเหมิ่งกระอักเลือดออกมา พลันหลับตาลงอย่างหมดแรง ในดวงตานั้นเต็มไปด้วยความมิยินยอม มิเชื่อว่าตนเองจะตายที่นี่
ลั่วชิงยวนตกตะลึง
ในเวลานี้เอง ด้านหลังก็มีกลิ่นอายชั่วร้ายที่แข็งแกร่งพุ่งเข้ามา ลั่วชิงยวนหันกลับไปมองจึงเห็นเงาดำขนาดใหญ่ในความมืดกำลังกระโจนเข้ามา
ลั่วชิงยวนจึงรีบวิ่งเข้าไปดึงคนใบ้
จากนั้นเงาดำขนาดใหญ่ก็พุ่งไปยังฝูเหมิ่งที่ถูกมัดติดอยู่กับต้นไม้
ทะลุผ่านร่างของเขาไปอย่างแรง
คนใบ้คุกเข่ากระอักเลือดออกมา
ลั่วชิงยวนตื่นตระหนก ยื่นมือไปหมายจะถอดหน้ากากของเขาออก
แต่ทันทีที่สัมผัสหน้ากากของเขา คนใบ้ก็คว้ามือของนางไว้
มือที่เปื้อนเลือดจับมือที่ซีดขาวของลั่วชิงยวนไว้แน่น
ลมราตรีพัดเส้นผมของนาง ทำให้ใบหน้าที่ซีดเผือดยิ่งดูซีดเซียว เลือดที่สาดกระเซ็นบนใบหน้ากลับทำให้นางดูน่าเวทนาและงดงามในเวลาเดียวกัน
ลั่วชิงยวนได้สติ รีบดึงมือกลับ “ข้าเพียงแค่ต้องการดูแผลของเจ้า”
คนใบ้ส่ายหน้าเพื่อบ่งบอกว่าตนมิเป็นอะไร
ลั่วชิงยวนจึงหยิบขวดยาออกมาให้เขา
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมอกสีดำ วิญญาณมากมายกำลังวิ่งวุ่นและร้องคำรามอย่างบ้าคลั่ง
ลั่วชิงยวนรู้ว่าตนเองมิสามารถควบคุมได้แล้ว
“ที่นี่อันตราย พวกเราไปกันเถิด”
เมื่อลุกขึ้นยืน คนใบ้กลับส่ายหน้า ชี้ไปยังฝูเหมิ่งที่ถูกมัดอยู่บนต้นไม้
จากนั้นก็ดึงลั่วชิงยวนเหาะไปยังต้นไม้ที่มิไกล
คนใบ้ทำท่าทางให้นางเห็น เป็นเชิงบอกให้นางรออยู่ที่นี่ อย่าขยับ
ลั่วชิงยวนพยักหน้า
คนใบ้รีบเหาะไปยังต้นไม้อีกต้น แล้วยิงธนูออกไปอีกดอก
ลูกศรมิพลาดเป้า
เจ้ายักษ์นั่นเจ็บปวดมาก แต่ก็ยังไล่ตามคนใบ้ไปอีกครั้ง มันกระโจนไปยังต้นไม้อย่างแรง
คนใบ้ก็เหาะหนีไปในทันที
เป็นเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมา ยิงธนูไปทั่วป่าพลางหลบหนี
ลั่วชิงยวนมองด้วยความตื่นตระหนก ในที่สุดเสือโคร่งตัวนั้นก็ล้มลง
เมื่อร่างที่หนักอึ้งล้มลงก็ทำให้เกิดฝุ่นละอองฟุ้งขึ้นมามากมาย
มิไกลนัก คนใบ้ที่อยู่บนกิ่งไม้ก็ทำท่าทางเป็นเชิงบอกให้นางอย่าเพิ่งลงมา
ลั่วชิงยวนพยักหน้า
คนใบ้ก็เหาะลงมาตรวจสอบเสือโคร่งอย่างระมัดระวังเพื่อยืนยันว่ามันตายแล้วและไม่มีทางโจมตีได้อีก
ในเวลานั้นเอง มือซีดขาวก็วางลงบนไหล่ของคนใบ้
เมื่อมือนั้นปรากฏขึ้น ลั่วชิงยวนก็ขนลุกซู่
ส่วนคนใบ้ดูเหมือนจะมิรู้ตัว ยังคิดว่าเป็นมือของลั่วชิงยวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...