ลั่วชิงยวนมิได้สังเกตเห็นความตึงเครียดของเขา ยังคงกล่าวต่อไปว่า
“อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเจ้านายของเจ้ามากนัก”
คนใบ้มิได้ตอบ
ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “ซูเซียงกล่าวว่าวันพรุ่งพวกเขาคงมีแผนการบางอย่าง และวันพรุ่งข้าก็อยากจะออกไปข้างนอกด้วย”
“เจ้าจะไปกับข้าหรือไม่?”
คนใบ้เขียนตอบว่า ไปทำอะไร? เจ้าควรพักผ่อนเพราะอาการบาดเจ็บ
ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยความเป็นกังวล “พูดตามตรงว่าข้ามาคราวนี้ ยังมีสหายร่วมเดินทางมาด้วยกันอีกแปดคน”
“แต่พวกเขาหายไปหมดแล้ว”
“พวกเขาจะไม่มีวันทอดทิ้งข้า ต้องเกิดเรื่องราวอันใดขึ้นเป็นแน่ ข้าอยากจะออกตามหาพวกเขาให้เจอ”
เพียงหวังว่ายามนี้พวกเขาจะยังปลอดภัย
คนใบ้พยักหน้ารับคำ
จากนั้นเขียนคำว่า รีบพักผ่อนเถิด ก่อนลุกจากห้องไป
เมื่อเขาออกไป ลั่วชิงยวนก็ปิดประตูห้องลงกลอนประตูหน้าต่างให้เรียบร้อย แล้วจึงถอดอาภรณ์เพื่อทำแผล
โชคดีที่บาดแผลมิลึก เป็นเพียงบาดแผลภายนอกเท่านั้น
หลังจากทำแผลเสร็จก็ล่วงเลยเข้ายามดึกแล้ว ลั่วชิงยวนจึงรีบล้มตัวลงนอนพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูพลัง
......
ขณะนี้หมู่บ้านมีแสงสลัว บ้านเรือนหลายหลังต่างดับไฟลง
ห้องของฟู่เฉินหวนก็มิได้จุดตะเกียงเช่นกัน
ในขณะที่เขาเปิดประตูห้อง กลับมีกลิ่นหอมประหลาดโชยมาแตะจมูก
จากนั้นก็มีวงแขนเรียวเล็กโอบรอบคอของเขา
ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว
คว้าจับมือที่กำลังลูบคลำนั้นไว้
ทำให้อีกฝ่ายร้องอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อย “ท่านพี่ ท่านทำข้าเจ็บแล้ว”
เป็นเสียงของฉีเสวี่ยเวย
ฟู่เฉินหวนคว้าข้อมือนาง แล้วเหวี่ยงออกไป
ฉีเสวี่ยเวยที่กำลังจะโผเข้าใส่นั้นถูกผลักจนเซถอยหลังไปหลายก้าวกว่าจะทรงตัวอยู่ได้
นางตกใจเล็กน้อย
จากนั้นก็หัวเราะเบา ๆ พลางเดินเข้ามาอีกครา ในยามนี้นางสวมชุดสีแดงที่ยั่วยวนยิ่งนัก เผยให้เห็นไหล่ขาวเนียนแลดูเย้ายวนใจ
แตกต่างจากฉีเสวี่ยเวยที่เคยเห็นในยามปกติอย่างสิ้นเชิง
จากนั้นประกายในดวงตาของฉีเสวี่ยเวยก็ร้อนแรงยิ่งขึ้น เสียงทุ้มต่ำทรงพลังนี้ช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก
คนผู้นี้มิได้เป็นใบ้ ซ่อนตัวตนได้แนบเนียนเยี่ยงนี้ต้องเป็นยอดฝีมือเป็นแน่!
มิแปลกใจเลยที่สังหารเสือดำตัวนั้นได้ กระทั่งฝูเหมิ่งก็ยังถูกเขาสังหาร
เรื่องนี้ยิ่งทำให้ความคิดของนางแน่วแน่ นางต้องคว้าตัวบุรุษผู้นี้ไว้ให้มั่น
เพื่อที่จะได้สิ่งที่ตนปรารถนา!
“ข้าบอกให้เจ้าออกไป!” ฟู่เฉินหวนกล่าวขับไล่ด้วยความมิพอใจอีกครา
ยามนี้ฉีเสวี่ยเวยรับรู้ถึงความโกรธเกรี้ยวอันเย็นเยียบของบุรุษผู้นี้
พลังอำนาจที่แผ่ออกมาจากร่างนั้นช่างน่าเกรงขาม
คนผู้นี้มิใช่คนธรรมดาเป็นแน่!
นางถอยห่างออกมา มิกล้าเข้าใกล้ แต่กลับนั่งลงตรงข้ามกับฟู่เฉินหวน
“ท่านพี่ใบ้ มิทราบว่าท่านมายังเมืองแห่งภูตผีเพราะหวังสิ่งใด?”
“ผู้คนที่มาที่นี่ต่างต้องการครอบครองสมบัติ”
“แต่หนทางขึ้นเขานั้นยากลำบากยิ่งนัก หากไม่มีพันธมิตรก็ยากที่จะไปถึงจุดหมาย”
“หากท่านยินดีร่วมมือกับข้า ข้าจะบอกทางลัดที่จะพาท่านไปถึงยอดเขาได้เร็วยิ่งขึ้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...