ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 139

“และเหตุใดท่านถึงได้กล่าวว่า ท่านอ๋องรีบเร่งเข้ามาในเรือนทางปีกตะวันตกอย่างบ้าคลั่งด้วยล่ะ?” คนอื่นถามขึ้นอีก

ใบหน้าของฟู่เฉินหวนมืดมนและเขาพูดอย่างเย็นชา "พวกท่านอยากเข้ามาทานอาหารด้วยกันก่อนหรือไม่?"

คำพูดนี้มีความหมายว่า เขาไม่ชอบให้คนอื่น ๆ พูดจาอะไรให้มากความ

ทุกคนมองดูท่านอ๋องที่ดูคล้ายกำลังจะเสียสติ ใบหน้าของเขามืดมน และดูเหมือนใกล้จะกินหัวใครสักคนเข้าแล้ว

“แค่เรื่องเข้าใจผิดนี่เอง เอาล่ะ เอาล่ะ! อย่าได้รบกวนท่านอ๋องและพระชายาจากมื้ออาหารของพวกเขาเลย!”

เมื่อประโยคนั้นจบลง หลายต่อหลายคนก็ก้าวออกจากห้องไป

“ข้าก็นึกว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น แต่กลายเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น”

ผู้คนเริ่มจากไปทีละคน

เมื่อเห็นว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับลั่วหลางหลาง ลั่วหรงก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก ก่อนรีบส่งแขกให้กลับไปยังพื้นที่จัดงานฉลองที่ลานในจวน

หลังจากที่ทุกคนจากไปแล้ว ลั่วหรงก็กลับมา "ชิงยวน หลางหลาง..."

ลั่วชิงยวนรีบเดินไปที่ด้านหลังเตียง แล้วพยุงลั่วหลางหลางออกมานอนบนเตียงดังเดิม

เมื่อเห็นใบหน้าที่แดงระเรื่อของลั่วหลางหลาง ลั่วอวิ๋นสี่ก็วิตกกังวลอย่างหนักและจ้องมองไปที่ลั่วชิงยวน

"พี่หญิงของข้าเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ก็ยังเอานางไปซ่อนไว้หลังเตียง! ทั้งยังมีหน้าไปนั่งทำหน้าสบายใจเฉิบอยู่ได้!"

ลั่วหรงดุอย่างรุนแรง "อวิ๋นสี่ อย่าพูดกับพี่หญิงของเจ้าแบบนั้น!"

“พี่หญิงอะไรกัน! ลั่วหลางหลางคือพี่หญิงคนเดียวของข้า และข้าจะไม่ยอมรับให้ลั่วชิงยวนมาเป็นพี่หญิงของข้าด้วย!” ลั่วอวิ๋นสี่โต้กลับอย่างไม่ยอมกัน

ลั่วชิงยวนจับชีพจรของลั่วหลางหลางและไม่แยแสต่อลั่วอวิ๋นสี่ ก่อนหันไปพูดกับลั่วหรง "ท่านอาอย่าได้กังวล อาการของพี่หญิงหลางไม่ได้ร้ายแรง ผู้ที่ใช้ยากับนางคงมีจุดประสงค์ให้นางหลับไปเท่านั้นจึงไม่ได้ใช้ยาอันตราย"

“ข้าจะเขียนเทียบยาให้ แค่นำยานั้นมาให้นางกินให้เร็วที่สุด จะได้ไม่เกิดความเสียหายมากนัก” ลั่วชิงยวนกล่าว

ลั่วหรงพยักหน้า รู้สึกโล่งใจ "เอาล่ะ ขอบคุณสำหรับความทุ่มเทของเจ้ามาก! วันนี้ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริง ๆ ไม่อย่างนั้น หลางหลางก็คง..."

ลั่วหรงกังวลมากขณะพูดถึงเรื่องนั้นอีกครั้ง

ลั่วชิงยวนรับฟังและอดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองฟู่เฉินหวน ใบหน้าของฟู่เฉินหวนเองก็ดูไม่ดีนัก หากไม่มีลั่วชิงยวนอยู่ที่นี้คงเป็นเรื่องเลวร้ายอย่างแน่นอน

เนื่องจากแขกในจวนยังไม่แยกย้ายกันกลับไปและไม่มีใครสมควรจะได้พบเห็นนางรับใช้ผู้นี้ พวกเขาจึงปิดผนึกเรือนทางปีกตะวันตกไว้ทั้งหมด แล้วพาหลินอวี้เวยไปยังห้องที่ไม่มีคนพลุกพล่าน และมัดนางไว้

เนื่องจากฟู่เฉินหวนก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกจัดฉากในวันนี้ด้วย ฮูหยินลั่วจึงอนุญาตให้ฟู่เฉินหวนสอบปากคำไปด้วยกัน

หลินอวี้เวยถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยน้ำเย็นเฉียบ เมื่อนางตื่นขึ้นหลินอวี้เวยก็รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

เมื่อรู้ว่าแผนการของนางถูกเปิดเผย นางจึงร้องขอความเมตตาจากฮูหยินลั่วอย่างสิ้นหวัง "ฮูหยิน เห็นแก่ความภักดีที่บ่าวรับใช้ท่านมาหลายปี โปรดไว้ชีวิตบ่าวเถิดเจ้าค่ะ!"

ลั่วหรงคว้าแส้เฆี่ยนใส่นางอย่างแรง “ภักดีอย่างนั้นรึ เจ้าภักดีกับข้าขนาดนั้นเชียว?”

“ลองถามตัวเองดูเถอะว่าเจ้าภักดีกับข้าเช่นไร? นกสองหัว หมาสองราง! บอกมา! ใครเป็นคนบงการเจ้า!”

หลินอวี้เวยส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง “ไม่มีใครสั่งข้าเจ้าค่ะ ไม่มี ไม่ใช่ใครทั้งนั้น...”

ท่าทางกังวลและตื่นตระหนกนั้นพิสูจน์ได้ว่า มีคนบงการนางอยู่ แต่นางเลือกที่จะไม่พูด

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วและคิดอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อนึกถึงตอนที่นางมายังจวนมหาราชครูเมื่อเดือนที่แล้ว นางเห็นรอยเท้าของหลินอวี้เวยเปียกชุ่ม

ดวงตาของนางฉายแววลึกล้ำก่อนจะเรียกฮูหยินลั่ว "ท่านอา! ข้าคิดอะไรบางอย่างได้แล้ว!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย