สิ่งที่อยู่ในโลงเริ่มสั่นไหวรุนแรงจนเกิดเสียงดังสนั่น และโลงศพก็ระเบิดออกในที่สุด
ทันใดนั้น ศพชายคนหนึ่งก็ลุกขึ้นมาบีบคอฝูเหมิ่งไว้
สิ่งที่เป็นกึ่งคนกึ่งผีทั้งสองเริ่มต่อสู้กัน
ลั่วชิงยวนสังเกตอยู่ครู่หนึ่งก็พบว่า ชายคนนั้นก็ดุร้ายเช่นกันและเป็นสิ่งที่อันตรายมาก
ทั้งสองเข้าโรมรันต่อสู้กันอย่างดุเดือด
เนื่องจากศพชายคนนั้นฉุดรั้งฝูเหมิ่งไว้ ลั่วชิงยวนจึงหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ขึ้นมาสังเกตการณ์ในถ้ำแห่งนี้อย่างเงียบ ๆ
แท้จริงแล้วที่นี่คือหนึ่งในจุดรวมพลัง
ศพของอวี๋ตันเฟิ่งก็ควรจะอยู่ที่นี่ ไม่มีทางผิดพลาดแน่
แต่ถ้ำแห่งนี้มีขนาดเล็กเพียงเท่านี้ มองปราดเดียวก็เห็นทั่วแล้ว ไม่มีที่ให้เข้าไปลึกกว่านี้แล้ว
ลั่วชิงยวนถือเข็มทิศมองอยู่นาน และทันใดนั้นดวงตาของนางก็พลันเป็นประกาย
ใต้พื้นถ้ำ!
เมื่อมองไปยังใต้โลงศพก็พบว่าเป็นจานกลมขนาดใหญ่ น่าจะขยับได้
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็เริ่มค้นหาตัวไขกลไก ในที่สุดสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่รูปปั้นหินบนผนัง
“พวกเจ้าช่วยคุ้มกันข้าหน่อย!”
ลั่วชิงยวนหยิบเชือกออกมาคล้องที่เอวพร้อมมัดไว้ก่อนจะส่งปลายเชือกให้อาถู่และโฉวสือชีถือไว้
จากนั้นนางก็กระโจนไปที่รูปปั้นหินที่อยู่ใกล้ที่สุด จิ้มไปที่ดวงตาของรูปปั้นหิน พลันมีเสียงกลไกดังขึ้น
อยู่ที่นี่จริง ๆ ด้วย!
นางเหาะไปที่รูปปั้นหินข้าง ๆ แล้วกดกลไกอีกครั้ง
เมื่อถึงรูปปั้นหินตัวสุดท้าย ทว่าตำแหน่งของมันกลับอยู่เหนือฝูเหมิ่งและศพชายคนนั้น
ลั่วชิงยวนเสี่ยงอันตราย กระโจนไปกดกลไก แต่กลับดึงดูดความสนใจของฝูเหมิ่ง เขาส่งเสียงคำรามลั่น แล้วพุ่งตรงเข้ามาหานาง
ในวินาทีเฉียดตายนั้น โฉวสือชีและคนใบ้ดึงเชือกอย่างแรง
ดึงลั่วชิงยวนกลับมาได้อย่างหวุดหวิด และหนีพ้นจากกรงเล็บเหล็กของฝูเหมิ่งมาได้
ขณะเดียวกัน กลไกก็เปิดออกเผยให้เห็นช่องทางลับใต้โลงศพที่แขวนอยู่นั้น
ลั่วชิงยวนรีบเรียกทุกคนแล้วพากันกระโดดลงไปในช่องทางลับนั้น
จากนั้นกลไกก็ปิดลง
เมื่อลงถึงพื้น ทุกอย่างก็มืดสนิทไปหมด
“ศพของเจ้าเมืองแห่งภูตผี”
“หากช่วยนางได้ พวกเราจึงจะมีโอกาสรอดชีวิตออกจากภูเขาแห่งนี้”
เมื่อได้ยินดังนั้น โฉวสือชีก็ตกตะลึงยิ่ง
ในใจยิ่งรู้สึกชื่นชม นี่มิใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถทำได้จริง ๆ
ลั่วชิงยวนครุ่นคิด
เมื่อนึกถึงศพชายคนนั้นที่มิยอมให้ฝูเหมิ่งไปไหนและมุ่งมั่นจะฆ่าฝูเหมิ่งให้ได้ นางก็สันนิษฐานได้ว่า การมีอยู่ของศพชายคนนั้น ประการแรกคือเพื่อเฝ้าอวี๋ตันเฟิ่ง ประการที่สองคือเพื่อป้องกันมิให้ผู้ใดนำศพของอวี๋ตันเฟิ่งออกไป
ตั้งแต่พวกเขาเข้าไปในถ้ำ สิ่งที่อยู่ข้างในก็ตื่นขึ้นมาแล้ว
เพียงแต่บังเอิญว่านางใช้สิ่งที่กึ่งคนกึ่งผีมาสกัดฝูเหมิ่งไว้ได้ อีกฝ่ายจึงจ้องที่จะกำจัดฝูเหมิ่ง
หากคิดเช่นนี้ บริเวณที่เหลือก็อาจมีสิ่งเดียวกันคอยเฝ้าระวังอยู่
ขณะที่กำลังคิดว่าจะสามารถใช้ฝูเหมิ่งทำอะไรได้อีกบ้าง
ด้านหลังก็มีเสียงน้ำดังแว่วมาพร้อมกับเสียงฝีเท้าเหยียบย่ำลงในน้ำ ดูเหมือนว่ามีคนกลุ่มใหญ่กำลังจะมา
ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “พวกเขามาแล้ว!”
“เร็วเข้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...