“แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง
“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”
ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่น
หลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”
“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”
“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”
ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้น
ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหก
ทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้าง
ขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”
“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”
ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าบอกเจ้าก่อนเลยว่าถูหมิงต้องตายแน่นอน”
“แต่มิใช่ตอนนี้”
ฉีเสวี่ยเวยตกใจ มองนางอย่างมิเชื่อสายตา “เจ้ามิได้คิดจะแบ่งสมบัติให้เขาตั้งแต่แรกใช่หรือไม่?”
รอยยิ้มมีเลศนัยปรากฏบนริมฝีปากลั่วชิงยวน
แต่ก็มิได้ตอบคำ
ถึงแม้ว่าการแก้แค้นให้อวี๋ตันเฟิ่งก็หมายถึงการได้ครอบครองเมืองแห่งภูตผีทั้งเมือง แต่จะได้อะไรมากน้อยเพียงใด อวี๋ตันเฟิ่งจะเป็นคนตัดสินใจ
ถูหมิงคิดจะขนสมบัติไปทั้งหมด นางย่อมมิยอมเป็นแน่
หากถูหมิงผู้นี้ให้ความช่วยเหลือแก่พวกนาง นางอาจจะพิจารณาปล่อยให้เขามีชีวิตรอดกลับลงเขาไป
แต่เมื่อตอนที่คนใบ้ถูกฝูเหมิ่งกัดกิน ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเลยแม้แต่คนเดียว
คนที่มาที่นี่ล้วนเห็นแก่ตัว แล้วเหตุใดนางต้องใจกว้างกับพวกเขาด้วย
แม้จะมิได้คำตอบจากลั่วชิงยวน
ลั่วชิงยวนตกตะลึง
“หนังหน้าของหญิงงามหรือ?”
“หน้าของข้าหรือ?”
“เจ้าก็เลยต้องการฆ่าข้า เพื่อลอกหนังของข้าหรือ?”
ฉีเสวี่ยเวยพยักหน้า
มิแปลกใจเลยที่ฉีเสวี่ยเวยต้องการฆ่านาง
“แล้วถ้าเจ้าได้หนังหน้าของหญิงงามไป แล้วเจ้าต้องทำอย่างไร?”
ฉีเสวี่ยเวยตอบว่า “เมื่อได้รับภารกิจมา ภารกิจนั้นบอกไว้ว่า ให้เดินไปทางทิศใต้ของหมู่บ้านแห่งนี้ จะมีวัดร้างแห่งหนึ่ง เมื่อนำของสิ่งนั้นไปมอบให้ที่นั่นก็จะสามารถไปถึงบนเขาได้แล้ว”
เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ครุ่นคิด “เหตุใดจึงต้องเริ่มจากหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย? ดูเหมือนว่าคนที่ให้ภารกิจนี้จะรู้ว่าพวกเจ้าอยู่ในหมู่บ้าน”
ฉีเสวี่ยเวยชะงักไปในทันที “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “คนที่ให้ภารกิจแก่พวกเจ้าก็อยู่ในกลุ่มของพวกเจ้านั่นแหละ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...