โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
ลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก
“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”
ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง
“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”
“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”
“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”
โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”
“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”
“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”
ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”
“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร
“สารเลว!”
นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”
“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”
“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”
กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบ
บีบจนอวี๋โหรวหายใจมิออก เส้นเลือดปูดโปนบนหน้าผาก
ลั่วชิงยวนมองด้วยสายตาเย็นชา สีหน้าสงบนิ่ง
ทันใดนั้นเอง อวี๋ตันเฟิ่งที่ลอยอยู่กลางอากาศก็กระโจนเข้าใส่โหยวเซียง ทะลุร่างของนางอย่างแรง
ในชั่วขณะนั้น อวัยวะภายในของโหยวเซียงถูกกระแทกอย่างรุนแรง ร่างของนางกระเด็นปลิวไป แล้วตกกระแทกพื้น
เลือดสีแดงฉานไหลทะลัก
เมื่อชายชุดดำที่โหยวเซียงพามาด้วยเห็นเหตุการณ์นี้ก็ตกใจมาก พวกเขามิเห็นเลยว่าผู้ใดเป็นคนลงมือ!
จึงพากันกรูเข้าโจมตีลั่วชิงยวนและพรรคพวก
การต่อสู้ใกล้ปะทุขึ้นแล้ว
อวี๋ตันเฟิ่งสามารถจัดการคนเหล่านี้ได้เลย แต่ลั่วชิงยวนกลับส่งสายตาให้นาง
อวี๋ตันเฟิ่งเข้าใจความหมายของนาง
แข็งแกร่งจนสามารถควบคุมทุกสิ่งได้
อวี๋โหรวเดินเข้ามา เมื่อเห็นภาพนองเลือดที่แปลกประหลาดเช่นนี้ก็ตกตะลึง มิอาจจินตนาการได้ว่าลั่วชิงยวนต้องเผชิญกับอะไรบ้างในภูเขาแห่งนี้ในช่วงมิกี่วันที่ผ่านมา
“ข้ามิคิดเลยว่าเจ้าจะมาช่วยข้าจริง ๆ มิจำเป็นต้องเปลืองแรงถึงเพียงนี้เลย”
เพราะนางคิดว่าตนไม่มีประโยชน์อะไรต่อลั่วชิงยวนมากนัก จึงมิมากพอที่จะทำให้ลั่วชิงยวนเสี่ยงชีวิตมาช่วยนาง
แต่คาดมิถึงว่านางจะมาจริง ๆ
ลั่วชิงยวนยกยิ้มจาง “เจ้าได้รับผลกระทบจากเรื่องของข้าด้วย ข้าจะทอดทิ้งเจ้าไปได้อย่างไร”
“อีกอย่าง การมาเมืองแห่งภูตผีในครั้งนี้อาจมีผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไปก็ได้”
เมื่อกล่าวจบ ก็เห็นอวี๋ตันเฟิ่งพุ่งเข้าไปหาโหยวเซียง
ท่าทางราวกับจะฉีกร่างนางให้เป็นชิ้น
ลั่วชิงยวนรีบตะโกนห้าม “ช้าก่อน!”
“เจ้ายังฆ่านางมิได้ นางยังมีประโยชน์กับข้าอยู่!”
ลั่วชิงยวนรีบวิ่งเข้าไปขวางอวี๋ตันเฟิ่ง แล้วพบว่าในเวลานี้ดวงตาของอวี๋ตันเฟิ่งแดงก่ำด้วยความกระหายเลือด
อวี๋ตันเฟิ่งกระตือรือร้นที่จะแก้แค้น นางพูดอย่างเย็นชา “เก็บนางไว้จะมีประโยชน์อันใด! นางกับแม่ของนางจะต้องตายทั้งคู่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...