ลั่วชิงยวนรอแล้วรอเล่า จนกระทั่งหงไห่ปรากฏตัว
นางจึงรีบวิ่งตามไป หงไห่หันหลังวิ่งหนี
ทั้งสองเล่นเกมวิ่งไล่จับกันในจวน
วิ่งวนไปวนมาเกือบทั่วทั้งจวน
เมื่อเหนื่อยก็หยุดพักสักครู่ พักผ่อนครึ่งชั่วยามแล้วจึงวิ่งต่อ
จนกระทั่งถึงยามดึกสงัดทุกอย่างจึงค่อย ๆ สงบลง
ลั่วชิงยวนเก็บวิญญาณของหงไห่ใส่ขวดไป
เมื่อถึงรุ่งเช้า เสียงไก่ขันดังขึ้น
นายท่านซีรีบเดินออกจากห้องด้วยความร้อนใจ มาหาลั่วชิงยวนที่นั่งพักอยู่บนบันไดหิน
“แม่นาง เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ข้าเห็นสีหน้าเจ้ามิค่อยดีเลย”
นายท่านซีมองนางด้วยสีหน้าเป็นห่วง
ลั่วชิงยวนตอบว่า “จัดการเรียบร้อยแล้ว”
นางหยิบขวดใบนั้นออกมาให้นายท่านซีดู
นายท่านซีเห็นเพียงกลุ่มไอสีดำก็เชื่อสนิทใจ “จัดการได้ก็ดีแล้ว จัดการได้ก็ดีแล้ว”
“แม่นาง ของพรรค์นั้นจะมิกลับมาอีกแล้วใช่หรือไม่?”
ลั่วชิงยวนตอบว่า “เมื่อปราบแล้วก็จะมิกลับมาอีก”
“แต่ก็มีโอกาสที่จะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นอีก”
“หากยังมีคนมุ่งเป้ามาที่นายท่านซีอยู่”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของนายท่านซีก็เคร่งขรึมขึ้นมาขณะถามว่า “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?”
ลั่วชิงยวนค่อย ๆ ลุกขึ้นกล่าวว่า “วันนี้ข้าจะจัดวางอาคมคุ้มกันในจวนของท่าน หากไม่มีใครไปยุ่งกับสิ่งที่ข้าจัดวางไว้ รับรองว่าภูตผีปีศาจธรรมดาไม่มีทางเข้ามาในบ้านตระกูลซีได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ นายท่านซีก็รู้สึกโล่งใจอีกครั้ง “ดีมาก ดีมาก”
“เช่นนั้นรบกวนแม่นางด้วย”
“มิเป็นอะไร ข้าไปเตรียมของก่อน ประเดี๋ยวค่อยกลับมาใหม่”
นายท่านซีพยักหน้าแล้วมองลั่วชิงยวนที่จากไปด้วยสีหน้าอ่อนล้า ในใจเขาผ่อนคลายลงแล้ว
เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็งุนงง มิเข้าใจว่านายท่านซีต้องการจะทำอะไร
ดูเหมือนว่าเขาจะสืบประวัติของนางมาแล้ว
“นายท่านซีคงรู้เห็นหมดแล้วกระมัง”
“ข้ากับท่านนักบวชระดับสูงมีเรื่องบาดหมางกันอยู่บ้าง”
นายท่านซียิ้มแล้วพยักหน้า “ใช่แล้ว ข้าดูออก”
“ข้าว่าความสามารถของแม่นางลั่ว ดูเหมือนจะเหนือกว่าท่านนักบวชระดับสูงอยู่มาก คราวนี้แม่นางลั่วช่วยข้าไว้มากนัก กุ้ยเฟยประสงค์จะพบแม่นางลั่วสักหน่อย มิทราบว่าแม่นางจะสะดวกเข้าวังหรือไม่?”
นายท่านซีมิได้กล่าวอย่างชัดเจนว่าต้องการอะไร แต่ลั่วชิงยวนก็ฟังออกว่าเขามีเรื่องที่อยากจะขอร้องนาง
ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับซีกุ้ยเฟยเป็นแน่
ทันใดนั้นเอง ลั่วชิงยวนก็เห็นเวินซินถงเดินมาที่ประตู
เวินซินถงเองก็ได้ยินคำพูดของนายท่านซีเช่นกัน และดูเหมือนจะตกใจมาก
ลั่วชิงยวนแย้มยิ้ม แล้วตอบรับอย่างยินดี “ได้เลย”
“หากมีวาสนาได้เข้าเฝ้ากุ้ยเฟย ข้าย่อมยินดีเป็นอย่างยิ่ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...