“แล้ว…”
ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงยากจะเอ่ย “สิ่งที่ท่านเสวยมาโดยตลอดคือศพทารกเพคะ”
เมื่อสิ้นคำนั้น ซีกุ้ยเฟยก็หน้าซีดเผือดในทันที
เกือบจะเสียหลักล้มลง แต่ยังยกมือยึดโต๊ะไว้ทันท่วงที
“เจ้าว่ากระไรนะ?!” ซีกุ้ยเฟยมองนางด้วยความเหลือเชื่อ
ลั่วชิงยวนมองนางด้วยความเห็นใจ “หม่อมฉันเห็นกับตา มิผิดแน่เพคะ”
“สิ่งนี้เองที่เป็นต้นตอของปัญหา”
“การที่ท่านเสวยสิ่งนี้เป็นเวลานาน ทำให้พระวรกายมีธาตุเย็นจัด โอสถจึงมิอาจปรับสมดุลได้ และถึงแม้พระวรกายจะแข็งแรงดี หากเสวยสิ่งนี้เป็นเวลานานก็ย่อมมิอาจตั้งครรภ์ได้”
“เพราะไม่มีใครปรารถนาจะมาจุติในครรภ์ของท่านเพคะ”
ซีกุ้ยเฟยหน้าซีดเผือด เหงื่อเย็นไหลซึม
เมื่อกลับมารู้สึกตัวอีกครั้งก็ทรุดตัวลงกับพื้น อาเจียนออกมาทันใด
แม่นมเฉาได้ยินเสียงจึงรีบเข้ามา “กุ้ยเฟยเพคะ!”
“เกิดกระไรขึ้น? เจ้าทำอะไร?”
ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างจนปัญญา “ปล่อยให้ท่านอาเจียนเถิด”
ถึงแม้เรื่องนี้จะโหดร้ายมาก เมื่อบอกซีกุ้ยเฟยแล้ว นางคงจะกินข้าวมิลงไปหลายวัน
แต่เรื่องใหญ่เช่นนี้จะมิบอกนางได้อย่างไร
ซีกุ้ยเฟยจึงอาเจียนอยู่เช่นนั้นเป็นเวลานาน หากหยุดแล้วก็อดมิได้ที่จะอาเจียนต่ออีก
จนกระทั่งในที่สุดก็ไม่มีสิ่งใดออกมาให้อาเจียนได้อีก
เมื่อวานยังสดใสสง่างามอยู่ บัดนี้กลับเหี่ยวเฉาไปหมด นางเอนกายนอนอยู่บนตั่งราวกับล้มป่วยในทันที
ลั่วชิงยวนส่งชาให้นาง
ใครเล่าจะรู้ว่าเมื่อซีกุ้ยเฟยดื่มแล้ว มิช้าก็อาเจียนออกมาอีก
เป็นเวลานานกว่าจะสงบลงได้
ลั่วชิงยวนทำได้เพียงจัดรายชื่อโอสถให้แม่นมเฉาไปหามา
นางนั่งอยู่ข้าง ๆ พลางปลอบประโลมว่า “อย่างน้อยตอนนี้ก็ทราบแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อไปก็เพียงแค่งดเสวยสิ่งนั้นเพคะ”
ครู่หนึ่ง แม่นมเฉาจึงนำโอสถมาถวาย
ซีกุ้ยเฟยกินโอสถจนหมด แต่สภาพจิตใจของนางย่ำแย่มาก
ลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เมื่อพบต้นเหตุแล้ว ก็สามารถรักษาตามอาการได้ ตำรับยาบำรุงร่างกายเหล่านั้นก็ใช้ต่อไปได้เพคะ”
“เพียงแต่ห้ามเสวยขนมนั้นอีก”
“แต่เพื่อความปลอดภัย ท่านยังต้องแสร้งว่ายังเสวยขนมนั้นอยู่เพคะ”
“หากท่านมิได้เสวยขนมนั้น ผู้บงการเบื้องหลังอาจจะหาวิธีลงมือในพระกระยาหารอื่น ๆ ของท่านอีกก็เป็นได้”
“เช่นนั้นจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเพคะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ซีกุ้ยเฟยก็จับมือของนางไว้แน่น “เจ้าช่วยตรวจดูให้ข้าหน่อยได้หรือไม่ว่าอาหารอื่น ๆ มีปัญหาอะไรอีกหรือไม่?”
“ตอนนี้อาหารที่ห้องเครื่องส่งมา ข้ามิกล้ากินเลยสักอย่าง”
ลั่วชิงยวนปลอบใจ “มิเป็นอะไรหรอกเพคะ เพียงแค่ขนมนั้นอย่างเดียวก็ทำให้พ่อครัวใหญ่ผางตื่นตระหนกและระมัดระวังมากแล้ว คงมิกล้าลงมือในพระกระยาหารหลายอย่างหรอกเพคะ”
“ดังนั้นท่านต้องแสร้งว่ายังเสวยขนมนั้นอยู่ ห้ามให้ผู้ใดสังเกตเห็นความผิดปกติ”
“โดยเฉพาะพ่อครัวใหญ่ผางเพคะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...