เขามิเต็มใจที่จะยอมรับ
ลั่วชิงยวนจับข้อมือเขาไว้ “พอเถิด อย่าคิดมากไป ข้ายังมีหนทางหาบัวถวายมาได้”
แต่นางพลันสังเกตเห็นว่าลมหายใจของเขาผิดปกติและอ่อนแรงยิ่งนัก
“เจ้าเป็นอะไรไป? บาดเจ็บอีกแล้วหรือ?”
“มากับข้าสิ”
ลั่วชิงยวนพาเขาไปยังโรงเตี๊ยมที่พวกนางพัก ตอนนี้โรงเตี๊ยมทั้งหลังถูกพวกนางเช่าไว้แล้ว บัดนี้จึงไม่มีผู้ใดอื่นอยู่นอกจากโฉวสือชี
บังเอิญว่าสมุนไพรที่นายท่านซีมอบให้ก่อนหน้านี้ยังอยู่เหลืออยู่ที่นี่ ลั่วชิงยวนพาคนใบ้มายังห้องพัก
นางวางหีบเงินทองลง แล้วสั่งว่า “ถอดเสื้อออกให้ข้าดูหน่อย”
คนใบ้ลำบากใจ มิยอมขยับเขยื้อน
โฉวสือชีที่อยู่ข้าง ๆ ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็หันมากล่าวว่า “เช่นนั้นข้าจะออกไปก่อน”
ชายร่างใหญ่กลับมิกล้าถอดอาภรณ์ต่อหน้าผู้ชายด้วยกัน
โฉวสือชีปิดประตูห้อง
ส่วนลั่วชิงยวนเตรียมยาในห้อง
คนใบ้ถอดเสื้อออก ลั่วชิงยวนเห็นบาดแผลที่ไหล่ของเขาปริแตก
นางอดมิได้ที่จะถามว่า “ผ่านมาหลายวันแล้ว บาดแผลของเจ้ายังมิหายดีอีกรึ?”
คนใบ้พยักหน้า
ลั่วชิงยวนพันผ้าแล้วทายาให้เขาใหม่ ถือโอกาสดูบาดแผลในส่วนอื่น ๆ ด้วย
ปรากฏว่าค่อนข้างฟื้นตัวดีขึ้น และตกสะเก็ดแล้ว
“เจ้ายังต้องระวังตัวหน่อย อย่าลงมือบ่อยนัก มิเช่นนั้นบาดแผลของเจ้าจะหายยาก”
คนใบ้นิ่งเงียบ
เขาลงจากเขามาก็เพื่อตามหาบัวถวาย จึงได้ลงมือต่อสู้ไปบ้าง กอปรกับเมื่อครู่ที่ถูกเกาเหมียวเหมี่ยวถีบ จึงทำให้บาดแผลปริแตก
หลังจากที่ลั่วชิงยวนพันผ้าและทายาให้เขาเสร็จแล้ว นางก็นั่งตรงข้ามเขาพลางเท้าคางมอง
“เจ้าว่าหากข้าไปขอตัวเจ้ามาจากฉินอี้ เขาจะยินยอมหรือไม่?”
คนใบ้ชะงักไปเล็กน้อย
แต่กลับส่ายหน้าโดยมิลังเล
“ช่วงนี้เจ้าว่างหรือไม่ ไปที่แห่งหนึ่งกับข้าได้หรือไม่?”
คนใบ้เขียนว่า “ว่าง”
ลั่วชิงยวนถามว่า “เช่นนั้นเจ้าจะไปตลาดมืดกับข้าหรือไม่?”
คนใบ้มิได้ถามเหตุผล และเพียงแค่พยักหน้า
จากนั้นลั่วชิงยวนก็ยกยิ้มจาง โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วถามว่า “เช่นนั้นเจ้าช่วยข้าขอยืมเงินจากฉินอี้ได้หรือไม่?”
คนใบ้ประหลาดใจ
ลั่วชิงยวนยิ้ม “เจ้ารู้หรือไม่ว่าคราวนี้ข้าไปตลาดมืด เพราะข้าจะไปหาคนสกุลอวี๋ เจ้าเมืองแห่งเมืองป้านกุ่ย”
“แต่ผู้คนที่เข้าไปในตลาดมืดมีมากมาย มิใช่ทุกคนจะมีโอกาสได้พบพวกเขา”
“ประการแรกต้องมีคุณสมบัติอย่างหนึ่ง คือต้องประมูลสมบัติล้ำค่าทั้งหมดในการประมูลทองคำค่ำคืนนั้นมาอย่างน้อยยี่สิบชิ้น!”
“จึงจะมีสิทธิ์ขอเข้าพบเจ้าเมืองแห่งเมืองป้านกุ่ยได้”
“สมบัติล้ำค่าในงานประมูลทองคำนั้นหายากยิ่งนัก ส่วนใหญ่จะประมูลกันในราคานับหมื่นตำลึง ข้าจึงต้องการเงินจำนวนมาก!”
หลังจากกล่าวจบ คนใบ้ก็ขมวดคิ้วแล้วพยักหน้าอย่างจริงจังก่อนเขียนว่า “ข้าจะช่วยหาให้เจ้าเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...