“ท่านเป็นผู้ใด?” จูลั่วสงสัย
เกาเหมียวเหมี่ยวยกยิ้ม พลางค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ “ข้าคือผู้ที่ชื่นชมท่าน”
“ถึงแม้ท่านจะเอาชนะฝูเหมิ่งมิได้ แต่ข้าก็ยังคงรู้สึกว่าวิชากระบี่ของท่านมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ข้าชอบมาก”
เมื่อได้ยินดังนั้น จูลั่วก็ตัวแข็งทื่อไปทั้งร่าง
พลันรู้สึกทำตัวมิถูก
เมื่อเห็นสตรีงดงามกล่าวคำชื่นชมเช่นนั้น บุรุษคนใดเล่าจะมิสับสน
จูลั่วก็มิได้เป็นข้อยกเว้น
“แท้จริงแล้วข้าสังเกตท่านมานานแล้ว” เกาเหมียวเหมี่ยวมองเขาด้วยรอยยิ้ม
ทำให้จูลั่วรู้สึกเขินอายอยู่บ้าง
“เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาสได้พบท่าน เมื่อทราบว่าท่านจะประลองกับลั่วชิงยวน ข้าจึงมาโดยทันที”
“ข้าเดิมพันท่านไว้หนึ่งแสนตำลึง ข้าหวังว่าท่านจะชนะ!”
“และท่านต้องชนะเท่านั้น!”
จูลั่วพลันเต็มไปด้วยกำลังใจ “ขอบคุณ”
ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับกล่าวต่อ “แต่เมื่อครู่ข้าเห็นสภาพของท่านดูมิค่อยดีนัก ดูว้าวุ่นเกินไป ใช่หรือไม่?”
จูลั่วขมวดคิ้ว หันหลังกลับไป “สองสามวันนี้ก็รู้สึกว้าวุ่นอยู่บ้าง ข้าจะปรับตัวให้ดี”
“แต่เวลามิพอแล้ว การประลองใกล้จะเริ่มแล้ว! ก่อนหน้านี้ท่านแพ้ฝูเหมิ่งมาตลอด นี่คือโอกาสอันดีที่ท่านจะพลิกสถานการณ์ ขอเพียงสามารถเอาชนะลั่วชิงยวนได้ ท่านก็จะเป็นจอมกระบี่ที่เก่งกาจที่สุดในใต้หล้านี้”
“ไม่มีใครกล้าสงสัยท่านอีกต่อไป”
“การประลองครั้งนี้ ท่านมีแต่ต้องชนะเท่านั้น!”
เมื่อจูลั่วฟังคำเหล่านั้น แรงกดดันในใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
การประลองครั้งนี้มีเพียงต้องชนะหรือไม่ก็ตาย!
จูลั่วตอบอย่างสงบ “ข้ารู้”
ในขณะนั้นเอง เกาเหมียวเหมี่ยวก็หยิบขวดยาออกมา แล้วกล่าวว่า “นี่ให้ท่าน นี่คือโอสถสงบจิตของสำนักนักบวช”
“ข้ามีเพียงเม็ดเดียว”
“มอบให้ท่านแล้ว หวังว่าจะช่วยท่านได้”
ลั่วชิงยวนถือกระบี่เพลิงรัก ค่อย ๆ เดินขึ้นสู่ลานประลอง ส่วนกระบี่หมื่นทิศซึ่งเป็นของเดิมพันก็วางอยู่บนแท่นด้านข้าง
จูลั่วเดินขึ้นมา สายตาจับจ้องไปที่กระบี่หมื่นทิศ สายตาของเขาแน่วแน่ หมายมั่นปั้นมือว่าต้องชนะแน่!
“เริ่มแล้ว” ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาคมกริบ
จูลั่วกำกระบี่ในมือแน่น “ชักกระบี่ออกมา”
ทันทีที่เขาพูดจบ กระบี่ยาวในมือเขาก็ชักออกจากฝัก แล้วพุ่งตรงเข้าโจมตีลั่วชิงยวน รวดเร็วจนคนรับมือแทบมิทัน
กระบี่ยาวในมือลั่วชิงยวนก็ถูกชักออกจากฝักในทันที ปัดป้องการโจมตีของจูลั่ว
คมกระบี่อันวาววับเกือบจะสะท้อนเข้าตาจูลั่วให้พร่ามัว เขาอดมิได้ที่จะรำพึงในใจว่านี่คือกระบี่ที่ดี แต่ก็สงสัยว่าเป็นกระบี่อะไร เพราะมิเคยเห็นมาก่อน
ทั้งสองเข้าต่อสู้กันบนลานประลอง
บริเวณโดยรอบเงียบสงัด
บนโรงน้ำชามิไกลนัก เวินซินถงและเกาเหมียวเหมี่ยวนั่งอยู่ในห้องเดียวกัน
เวินซินถงมองการประลองบนเวทีด้วยความตึงเครียด
ส่วนเกาเหมียวเหมี่ยวกลับผ่อนคลายยิ่งนัก นางรินชาให้ตนเองพลางกล่าวช้า ๆ “วางใจเถิด คราวนี้ลั่วชิงยวนต้องตายแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...