เสียงนั้นมาจากชายวัยกลางคนที่สวมชุดเกราะอ่อนเดินช้า ๆ เข้ามาหา ใบหน้าของเขาดูสูงส่งและหนักแน่น
“ท่านพ่อ เหตุใดท่านมาอยู่ที่นี่?” ฉินไป๋หลี่ตกใจ
กลายเป็นว่าคนผู้นี้ก็คือแม่ทัพใหญ่ฉิน
บิดาแท้ ๆ ของฉินไป๋หลี่
แม่ทัพฉินมองฉินไป๋หลี่ด้วยสีหน้ามืดครึ้ม “เจ้าเสียเวลาตามหาสตรีผู้นั้นอยู่นานหลายปี แล้วตอนนี้เจ้าก็มีเสียสติไปเพราะคำพูดไม่กี่คำของลั่วชิงยวน เจ้ามันไร้ประโยชน์นัก”
“เจ้าจะมัวติดอยู่กับอดีตมิได้ เจ้าต้องเดินหน้าต่อไป บัดนี้ฮุ่ยเซียงคือภรรยาของเจ้า ภรรยาเพียงคนเดียว”
“เจ้าถึงกับทิ้งนางที่ป่วยหนักเพื่อมาหาลั่วชิงยวน สตรีผู้นี้ป้อนเรื่องไร้สาระอันใดให้เจ้ากัน?”
เมื่อได้ยินคำพูดของแม่ทัพใหญ่ฉิน ลั่วชิงยวนก็อดนิ่วหน้ามิได้
ฉินไป๋หลี่เถียง “ท่านพ่อ ข้าก็แค่อยากรู้ความจริงเรื่องการจากไปของซีหลาน หากว่านางโดนคนที่นางหนีตามไปทำร้ายแล้วข้าจะปล่อยเรื่องนี้ไปได้อย่างไร”
“ถึงนางจะตายแล้ว ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า” แม่ทัพใหญ่ฉินตวาดเสียวเข้ม
จากนั้นเขาก็มองลั่วชิงยวนและพูดอย่างไม่พอใจว่า “ในเมื่อพระชายาสมรสกับท่านอ๋องแล้ว นางก็ต้องทำตามจรรยาสตรี มิอาจเที่ยวเตร่ไปมาข้างนอกได้ เพราะอาจจะทำให้เกิดข่าวเสียหายและทำให้ชีวิตไม่สงบสุขได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จือเฉาก็โมโหและเถียงว่า “พระชายาของเราไม่รู้จักคุณชายของท่าน แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับพระชายาเล่า”
ลั่วชิงยวนยิ้มเยาะ เป็นความผิดของนางที่ทำลายชีวิตแสนสุขของพวกเขา นางผู้เป็นพระชายาเป็นคนชั่วร้ายเพียงนั้น?
ตาเฒ่านี่ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
“ข้าพูดกับพระชายาอ๋อง เจ้าเป็นบ่าวกล้าดีอย่างไร? เจ้ามีสิทธิ์มาสอดหรือ? เป็นเช่นนัน้แล นายเป็นเช่นไรบ่าวก็เป็นเช่นนั้น”
แม่ทัพใหญ่ฉินเอามือไพล่หลัง น้ำเสียงเขาเสียดสี
“ท่านแม่ทัพฉินใช่หรือไม่? ข้าได้ยินมาว่าแม่ทัพใหญ่ฉินนั้นเป็นกันเองใจกว้าง ไม่คิดเลยว่าพบกันครั้งแรกวาจาของท่านก็จะระคายหูเช่นนี้”
“เห็นเงาดำระหว่างคิ้วของท่านและประกายตาสีน้ำเงิน ช่วงนี้ท่านคงมีปัญหาเยอะนัก ในตระกูลของท่านมีเรื่องหายนะถึงตาย ดังนั้นท่านเลยเอาโทสะมาลงที่ข้า”
จากนั้นนางก็เห็นฟู่เฉินหวนเดินเข้ามาหา เขาเข้ามาบังขวางหน้านางไว้และพูดเสียงเย็น
“แม่ทัพใหญ่ฉิน ยานั้นอาจจะกินมั่วได้ แต่ว่าคำพูดจะกล่าวมั่วมิได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นบุตรชายของท่านที่มาที่นี่หลายครั้ง และพระชายาก็อยู่แต่ในตำหนักมิได้ออกไปที่ใดเลยหลายวันมานี้ ใช่หรือไม่?”
“แทนที่จะมาที่นี่แล้วสร้างปัญหาให้ข้ากับพระชายา แม่ทัพใหญ่ฉิน ไยท่านถึงไม่ดูแลบุตรหลานในบ้านให้ดีเล่า? ท่านเข้าใจเรื่องมารยาท ความยุติธรรมและความมีเกียรติดี อย่าเที่ยวออกมาทำให้จวนแม่ทัพต้องอับอายเช่นนี้ดีกว่ากระมัง?”
คำพูดพวกนี้ทำให้แม่ทัพใหญ่ฉินใบหน้าบิดเบี้ยวไม่น่ามอง
ฉินไป๋หลี่รีบคำนับฟู่เฉินหวนและลั่วชิงยวนก่อนขอโทษ “ข้าก่อเรื่องวุ่นวายให้กับท่านอ๋องและพระชายา เป็นข้าที่คิดไม่รอบคอบและสร้างปัญหา ข้าหวังว่าพวกท่านจะไม่ตำหนิ”
“พระชายาและข้าต่างก็บริสุทธิ์ ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อชมภาพหญิงงามซีหลานเท่านั้น ข้าหวังว่าพระชายาจะช่วยให้ข้าได้สมหวัง”
ฉินไป๋หลี่คารวะต่ำ
จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ตัดใจและอยากจะดูภาพหญิงงามนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...