"ถ้าหากท่านอ๋องแสดงท่าทีลำเอียง พระชายาคิดจะขอความช่วยเหลือจากองค์ชายห้าหรือไม่เจ้าคะ?"
เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ นางก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างแล้วรีบโบกมือปฏิเสธทันที
"เจ้าไม่ต้องไปหาองค์ชายห้าและห้ามบอกเรื่องพวกนี้กับท่านเด็ดขาด ท่านตกที่นั่งลำบากจนแทบจะปกป้องตัวเองมิได้อยู่แล้ว ท่านจะมาขอร้องแทนข้าได้อย่างไรกันเล่า? เรื่องนี้หาได้เกี่ยวข้องอะไรกับองค์ชายห้าไม่ ตัวข้าเองก็มิอยากให้ท่านต้องเอาตัวเข้ามาพัวพันด้วย"
เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวพันกับหอชิงเฟิงและลั่วเยวี่ยอิง สถานการณ์ระหว่างพวกนางทั้งสามคนก็ยุ่งยากมากพออยู่แล้ว ถ้ามีฟู่อวิ๋นโจวเข้ามาพัวพัน เรื่องราวก็รังแต่จะเกิดปัญหาและยุ่งยากขึ้นไปอีก
แม่นมเติ้งผงกศีรษะ "เพคะ หม่อมฉันจะทำตามคำสั่งของพระชายา"
"แต่เรื่องนี้ควรจะทำเช่นไรดีหรือเจ้าคะ?"
แม่นมเติ้งเองก็รู้สึกเศร้าใจแทนพระชายาที่ต้องประสบเคราะห์ร้ายมากเสียจนแทบจะต้องเอาชีวิตไปทิ้งอยู่แล้ว
ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วพลางครุ่นคิด "ก่อนอื่นต้องพักฟื้นให้หายดี ตัวข้าเองก็อยากจะรู้ว่า ฟู่เฉินหวนจะจัดการเรื่องนี้เช่นไร"
ดังนั้นนางจึงอยู่แต่กินโอสถแล้วพักฟื้นในห้องโดยไม่ได้ออกไปข้างนอกเลย
ผ่านไปหลายวัน ตำหนักอ๋องก็ดูไร้คลื่นลม
ฟู่เฉินหวนมิได้มาเยี่ยมแต่อย่างใด
แต่ลั่วเยวี่ยอิงกลับมาเยี่ยมถึงสองครั้ง โดยอ้างว่าอยากจะมาถามไถ่อาการของลั่วชิงยวน แต่แม่นมเติ้งก็ส่งนางกลับไปพร้อมกับอ้างว่าอาการป่วยของพระชายาไม่รุนแรงนัก เพียงแต่ยังไม่ตื่นขึ้นมาก็เท่านั้น
……
"แค่ก แค่ก แค่ก..."
เมื่อได้ยินเสียงไอต่ำ ๆ ดังขึ้นมาจากห้องตำรา ซูโหยวก็รีบเดินถือถ้วยโอสถเข้ามา
หลังจากเข้าไปแล้ว เขาก็รีบปิดประตูลงทันทีเพราะเกรงว่าอากาศเย็นจะส่งผลต่อท่านอ๋อง
ฟู่เฉินหวนนั่งอยู่บนเก้าอี้พลางใช้ผ้าเช็ดมือเช็ดโลหิตตรงปลายนิ้ว แววตาของเขาเต็มไปด้วยไออันน่าพรั่นพรึง
"ท่านอ๋อง ให้ขุนนางชั้นผู้น้อยไต่สวนคนพวกนั้นก็ได้พ่ะย่ะค่ะ เหตุใดท่านต้องไปที่นั่นให้เอาภรณ์ต้องสกปรกด้วยหรือพ่ะย่ะค่ะ?"
เมื่อซูโหยวได้ยินเช่นนี้เข้าก็รู้สึกประหลาดใจ "ท่านอ๋องหมายความว่าเช่นใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?"
ฟู่เฉินหวนมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาเย็นชา "เรื่องนี้เป็นที่รู้กันไปทั่วทั้งเมืองหลวง พวกเราย่อมต้องฉวยโอกาสจากความวุ่นวายเพื่อจับปลาตัวใหญ่ใช่หรือไม่"
ลำพังแค่หลิวฮุ่ยเซียงไม่คู่ควรให้เขาสนใจหรอก
"จัดเตรียมองครักษ์นอกเครื่องแบบสิบนาย ข้าจะไปจับเจ้าพวกที่หลบหนีไปด้วยตัวข้าเอง จากนั้นก็หาคนมาปลอมตัวเป็นข้าแล้วประกาศออกไปว่า ข้าป่วยหนักและกำลังพักฟื้นอยู่ อย่าให้ฟู่อวิ๋นโจวพบเงื่อนงำอะไรเข้าเป็นอันขาด"
"พ่ะย่ะค่ะ"
ซูโหยวรู้สึกว่าการที่ท่านอ๋องลงมือจับพวกที่หลบหนีไปด้วยตนเองย่อมหมายความว่า ท่านอ๋องตัดสินใจที่จะจับตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แล้ว
……
ลั่วชิงยวนอยู่ในห้องมาหลายวันโดยไม่ได้ก้าวออกจากเรือนเลย นางรู้แต่เพียงว่า ฟู่เฉินหวนกำลังพักฟื้นอยู่เช่นกันและไม่รู้ว่าคดีคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ดูเหมือนว่าเขาไม่คิดจะไล่ตามอีกต่อไปแล้ว
ขณะที่นางกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่นั้น แม่นมเติ้งรีบเดินเข้ามาในห้องพลางกล่าวว่า "พระชายา วังหลวงส่งคนมาเจ้าค่ะ ไทเฮามีรับสั่งให้พระชายาเข้าวัง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...