ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 270

นอกโรงน้ำชามีคนกลุ่มใหญ่เพื่อเอาเงินมามอบให้

ทันทีที่ลั่วชิงยวนปรากฏตัว เถ้าแก่ก็รีบเข้ามาทักทายพลางกล่าวว่า "บรรดาเพื่อนบ้านมาจ่ายเงินกันแล้วหนา ไฉนท่านจึงมาช้านักเล่า?"

จือเฉารู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก ได้ผลเร็วขนาดนั้นเลยหรือ?

เมื่อเห็นสีหน้าเปี่ยมสุขของทุกคน มิได้ดูเหมือนเสแสร้งแกล้งทำแต่อย่างใด

ลั่วชิงยวนก็เดินเข้ามาแล้วนั่งลง ป้าหลี่ก็ยื่นเงินห้าสิบตำลึงเงินให้นางพลางกล่าวว่า "ท่านอาจารย์ แม่นจริง ๆ เจ้าค่ะ เมื่อวานนี้ข้าเจอสร้อยข้อมือที่เป็นมรดกประจำตระกูลที่หายไปอยู่ใต้เตาจริง ๆ"

ลั่วชิงยวนรับเงินแล้วพยักหน้า

จากนั้นคนอื่น ๆ เองก็เข้ามามอบเงินให้ลั่วชิงยวน นางมิได้ตั้งราคาค่างวดอันใด ทุกคนอยากจะให้เท่าไหร่ก็เชิญ

แต่วันนี้เงินส่วนใหญ่ได้มาจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้ผลอย่างรวดเร็ว

เรื่องอื่นมิได้ผลรวดเร็วขนาดนั้นหรอก

เพราะฉะนั้นเงินทั้งหมดที่ได้ในวันนี้จึงมีแค่ไม่กี่ตำลึงเงิน

เดิมทีซ่งเชียนฉู่คิดจจะจ่ายเงินก่อน แต่นางไม่คาดคิดว่าจะมีผู้คนมากมายขนาดนั้นชิงตัดหน้าตนไปก่อนแล้ว

ทว่าก็ต้องจ่ายเงินอยู่ดี

ซ่งเชียนฉู่เข้ามาแสดงละครอีกฉาก จากนั้นนางก็มอบเงินถุงหนึ่งให้ด้วยความซาบซึ้งใจพลางกล่าวว่า "ท่านอาจารย์ ท่านช่างน่าทึ่งจริง ๆ วันหน้าข้าขอเรียนรู้บางอย่างจากท่านได้หรือไม่เจ้าคะ?"

"ข้าช่วยท่านทำงานได้เจ้าค่ะ"

ลั่วชิงยวนตอบตกลง ดังนั้นในกลุ่มจึงมีคนเพิ่มเข้ามาอีกคน

ซ่งเชียนฉู่ร่วมมือกับพวกนางตั้งแผงขึ้นมา

เมื่อไม่มีอะไรจะทำ นางก็ช่วยเถ้าแก่โรงน้ำชาทำงาน ฉะนั้นนอกจากได้รับค่าทำนายดวงชะตาทุกวันแล้ว เถ้าแก่โรงน้ำชาเองก็เลี้ยงอาหารด้วย

โรงน้ำชาเองก็ถูกปรับเปลี่ยนตามคำแนะนำของลั่วชิงยวนซึ่งเดิมทีได้ปรับฮวงจุ้ยให้ดีขึ้น กิจการโรงน้ำชาก็ค่อย ๆ ดีขึ้นไปด้วย

และเป็นเช่นนั้นจนผ่านไปเดือนหนึ่ง

ชื่อเสียงของลั่วชิงยวนในฐานที่เป็นซินแสก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมือง และมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาให้นางทำนายดวงชะตาทุกวันอย่างไร้ที่สิ้นสุด

แต่ลั่วชิงยวนมิได้บอกชื่อจริงกับผู้ใด แต่ใช้นามแฝงว่าฉู่ลั่วและผู้คนในเมืองต่างเรียกขานนางว่าท่านเซียนฉู่

เถ้าแก่หลี่จึงหัวเราะขึ้นมา "ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ตอนนี้กิจการดีแล้ว ทั้งหมดต้องขอบคุณคุณชายฉู่ขอรับ!"

โรงน้ำชามิได้ใหญ่โตนัก แต่ทั้งสี่คนกลับนั่งล้อมรอบโต๊ะ ข้างนอกอากาศหนาวเย็นและมีลมพัดแรง ทว่าข้างในกลับอบอุ่นยิ่งนัก

เดิมทีลั่วชิงยวนคิดจะฉลองปีใหม่ที่นี่ จากนั้นเมื่ออากาศเริ่มดีขึ้นยามวสันตฤดูก็ค่อยไปที่เมืองหลวง

แต่สวรรค์ไม่ให้โอกาสเช่นนี้แก่นาง

คืนนั้นหิมะตกหนัก พวกนางสามคนจึงติดแหง็กอยู่ในโรงน้ำชาจนกลับไปไม่ได้ พวกนางได้แต่นั่งอยู่หน้าเตาผิงเพื่ออบอุ่นร่างกายและเฝ้ามองดูหิมะตกภายใต้แสงตะเกียง

บนถนนอันเงียบสงัด รถม้าคันหรูค่อย ๆ จอดลงนอกโรงน้ำชา

แม่นมที่แต่งกายเต็มยศลงมาจากรถม้า จากนั้นก็มองพวกนางทั้งสามคนแล้วถามว่า "ผู้ใดคือนักทำนายฉู่?"

ลั่วชิงยวนลุกขึ้น "ข้าเอง"

แม่นมกวาดสายตามองนางแล้วรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง "อายุน้อยถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? เจ้าคงมิได้หลอกข้าใช่หรือไม่? พวกเรามาถึงที่นี่เพื่อเชิญนักทำนายฉู่เข้าเมืองหลวง หากจ้าบังอาจหลอกพวกข้า พวกข้าย่อมไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่!"

เมื่อเห็นรถม้ามาจากเมืองหลวง ลั่วชิงยวนก็รู้ว่าโอกาสทำการค้าครั้งใหญ่กำลังมาถึงแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย