ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 296

สิ่งที่เขาเห็นคือ รอยแผลเป็นบนใบหน้าของนาง

เขาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เช่นนั้นนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้ฉู่ลั่วสวมผ้าคลุมหน้าเช่นนั้นหรือ?

ลั่วชิงยวนพลันดึงผ้าคลุมหน้าลงพลางปิดบังใบหน้าแล้วจ้องมองเขาด้วยความโกรธจัด

ในยามนี้เอง ก็มีท่านป้าผู้หนึ่งถือตะกร้าเดินผ่านมาพลางเหลือบมองพวกเขาแล้วเอ่ยขึ้นมาด้วยความรังเกียจว่า "เป็นบุรุษตัวโต ๆ สองคนแท้ ๆ พวกเจ้ามียางอายบ้างหรือไม่?"

ลั่วชิงยวนซัดฝ่ามือใส่หน้าอกของฟู่เฉินหวน เพื่อบังคับให้ฟู่เฉินหวนปล่อยนางไป

ตอนนั้นฟู่เฉินหวนรู้สึกตื่นตกใจและเห็นว่าฉู่ลั่วกำลังจะร่วงลงกับพื้น

แต่ทันทีที่ลั่วชิงยวนหล่นสู่พื้น นางก็ใช้มือยันพื้นพลางพลิกตัวแล้วร่อนลงอย่างสง่างาม

นางปกปิดรอยแผลเป็นตรงแก้มแล้วจ้องฟู่เฉินหวนตาเขม็ง "ท่านอ๋อง ท่านหมายความว่าอย่างไรกัน! ท่านสงสัยหน้าตาของผู้อื่นจนมิสนใจว่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นเลยใช่หรือไม่?"

น้ำเสียงตั้งคำถามอันเย็นชาทำให้ฟู่เฉินหวนแววตามืดดำลงบ้าง "ข้า..."

เขาเพียงแค่รู้สึกว่าฉู่ลั่วคล้ายกับลั่วชิงยวนเกินไป มิหนำซ้ำจู่ ๆ ก็มีเทพพยากรณ์ปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลวง เขาจึงรู้สึกว่าออกจะน่าสงสัยอยู่บ้าง

ไม่คาดคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะมีรอยแผลเป็นบนใบหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายต้องสวมผ้าคลุมหน้า

แต่ลั่วชิงยวนหาได้ฟังคำอธิบายของเขา จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

นางเดินออกไปจากตรอกแล้ว

เมื่อเห็นร่างของนาง เดินจากไป ฟู่เฉินหวนก็หรี่ตามองด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์

ลั่วชิงยวนมิได้เหลียวหลังกลับไป แต่นางกลับใจเต้นไม่เป็นส่ำและยังคงเป็นกังวลอยู่บ้าง

เมื่อกลับมาที่ร้าน นางก็เปิดประตูและดำเนินกิจการต่อไป

แต่ฟู่เฉินหวนมิได้ตามมาอีก

ในที่สุดร้านก็สงบสุขไปอีกครึ่งวัน

……

วันรุ่งขึ้น

ลั่วชิงยวนหยิบไม้กวาดมากวาดหิมะบนพื้นตามปกติ แต่วันนี้นางไม่เห็นเงาร่างดังกล่าวปรากฏตัวท่ามกลางหิมะอีก

ขณะที่นางกวาดสายตามอง ก็อดมิได้ที่จะเหลียวกลับไปมอง

แต่หามีผู้ใดอยู่บนถนน

เมื่อลั่วชิงยวนเห็นนางยื่นข้อมือออกมาก็รู้สึกตื่นตกใจ "ฮูหยิน การทำนายดวงชะตาไม่จำเป็นต้องจับชีพจรหรอก"

"จับชีพจรให้ข้าสักหน่อยก็ไม่เห็นเป็นอันใดกระมัง" แม่สื่อหลิวจงใจล้อเล่นกับนาง เสียงหัวเราะของอีกฝ่ายดังมากพอให้ได้ยินไปทั่วทั้งถนน

ลั่วชิงยวนก้มหน้าลงพลางกล่าวว่า "ฮูหยิน ท่านคิดจักกระทำอันใดกันแน่?"

จากนั้นแม่สื่อหลิวก็ชักมือกลับแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า "ที่จริงแล้ว ข้าเป็นแม่สื่อ ท่านเรียกข้าว่าแม่สื่อหลิวก็ได้เจ้าค่ะ วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อจัดการเรื่องสมรสให้ท่านเซียนฉู่!"

"ท่านเซียนฉู่คงหาทราบไม่ แต่สตรีมากมายในละแวกนี้ต่างหลงรักท่านเซียนฉู่ เพราะท่านเซียนฉู่เป็นผู้มากพรสวรรค์ที่มิอาจพบได้ในตระกูลมั่งคั่งใด ๆ"

"หากเป็นเขยแต่งเข้าตระกูล ก็ไม่จำเป็นต้องมาตั้งแผงทำนายดวงชะตาในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้อีกแล้ว!"

"ข้าป้าหลิวคิดเงินค่าแนะนำคู่แต่งงานให้ผู้อื่น แต่สำหรับบุรุษรูปงามเช่นท่าน ข้าไม่คิดเงินหรอกเจ้าค่ะ"

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว นางไม่คาดคิดเลยว่าสิ่งที่ซ่งเชียนฉู่กล่าวจะเป็นความจริง

ยามนี้แม้แต่แม่สื่อก็มาเยือนเสียแล้ว

นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินว่ามีแม่สื่อมาจัดการเรื่องให้เทพพยากรณ์เลยก็ว่าได้

ลั่วชิงยวนจึงเอ่ยปฏิเสธว่า "ขอบคุณในน้ำใจของท่านยิ่งนัก แต่หาจำเป็นไม่ ท่านป้าหลิวมิต้องมาเสียเวลากับข้าหรอก"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย