ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 351

ทว่าในยามนี้เอง ก็มีมือผลักหลังของนางอย่างแรงจนถลาเข้าไปในห้อง

ลั่วชิงยวนรีบก้าวถอยหลังออกมา จากนั้นก็โก่งคอร้องตะโกนสุดเสียงว่า "พระชายา โปรดพักผ่อนให้สบาย บ่าวขอตัวก่อนเจ้าค่ะ"

ทันทีที่ลั่วเยวี่ยอิงได้ยินเสียง นางก็หน้าเปลี่ยนสีทันที

นางหลงกลเข้าแล้ว!

แต่เมื่อนางตระหนักได้เช่นนี้ นางก็หันหลังเตรียมวิ่งหนีไป

ทว่าขณะที่นางคิดจะหนีไป บุรุษขี้เมาหลายคนก็พลันล้อมนางเอาไว้

"นี่มันเสี่ยวหลานจากหอซิ่งชุนมิใช่หรือ? ไฉนเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้เล่า?"

"ไม่เจอกันเสียนาน เสี่ยวหลาน บังเอิญว่าวันนี้เป็นวันดี เช่นนั้นก็มาดื่มกับนายท่านผู้นี้สักหน่อยเถิด!"

บุรุษหลายคนเดินเข้ามาคว้าไหล่ของนาง

ลั่วเยวี่ยอิงผลักพวกเขาออกไปด้วยความรังเกียจ "ปล่อยข้า พวกเจ้าจำคนผิดแล้ว! ข้าเป็นคนที่จ้างวานพวกเจ้าต่างหากเล่า!"

แต่คำอธิบายของลั่วเยวี่ยอิงช่างเปล่าประโยชน์สิ้นดี

คนพวกนี้รู้แต่เพียงว่าต้องจัดการกับพระชายา มิหนำซ้ำนางรับใช้ก็เพิ่งจะเรียกนางว่าพระชายาด้วย

พวกเขาหาได้สนใจไม่ว่าผู้ใดจะเป็นพระชายา พวกเขามาที่นี่ก็เพราะเงินเท่านั้น!

ยามนี้จึงจำเป็นต้องแสร้งทำทีเป็นเมามาย มิฉะนั้นภายหลังอาจจะถูกเปิดโปงความจริงได้

"เสี่ยวหลาน อย่างไรเสียเมื่อก่อนข้าก็เคยดูแลกิจการให้เจ้ามาไม่น้อย ไยเจ้าถึงหันหลังให้ข้าเร็วถึงเพียงนั้นเล่า?"

"ใช่ ไม่ยุติธรรมเลย!"

"มา มา มาดื่มกับพวกพี่ชายสักสองสามจอกเถอะ!"

บุรุษผู้หนึ่งให้วงแขนเกี่ยวลำคอของลั่วเยวี่ยอิง จากนั้นก็ยกไหสุราขึ้นแล้วกรอกเข้าไปในปากของนาง

ลั่วเยวี่ยอิงดิ้นรนสุดกำลังแล้วร้องขอความช่วยเหลือ "ช่วยด้วย ผู้ใดก็ได้ช่วยข้าที!"

เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ นางก็แค่นเสียงเย็นชาแล้วหันหลังเดินจากไป

หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น

ในยามนี้เอง ก็มีนางรับใช้วิ่งมายังโถงหน้าแล้วมองหาผู้ใดสักคนด้วยท่าทีตื่นตระหนก "เกิดเรื่องขึ้นในเรือนปีกตะวันออกเจ้าค่ะ!"

เพื่อมิให้บังเกิดความโกลาหลมากเกินไป ลั่วชิงยวนจึงได้แต่สั่งนางรับใช้ให้ไปเรียกคนรับใช้ในจวน

แต่ความเคลื่อนไหวเช่นนี้กลับดึงดูดความสนใจของทุกคนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ทันทีที่ฟู่อวิ๋นโจวได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้นทางเรือนปีกกตะวันออก เขาก็นึกถึงลั่วชิงยวนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ชะรอยคงจะเกิดเรื่องขึ้นกับลั่วชิงยวนเป็นแน่!

เขาจึงกระโจนตัวแล้ววิ่งไปทางเรือนปีกตะวันออก

ฟู่เฉินหวนที่กำลังนั่งอยู่กับที่เองก็รู้สึกตื่นตกใจอยู่บ้าง หรือว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับลั่วชิงยวน?

ลั่วเยวี่ยอิงพันเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ฉีกขาดเอาไว้รอบกายพร้อมน้ำตาไหลอาบหน้า นางนั่งลงแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยสีหน้าหวาดกลัว ไม่มีหน้าไปพบเจอผู้ใดอีกแล้ว

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วแล้วรีบถอดเสื้อคลุม จากนั้นก็เดินเข้าไปสวมให้ลั่วเยวี่ยอิง

"ท่านอ๋อง..." ลั่วเยวี่ยอิงร่ำไห้ด้วยความคับข้องใจ

ฟู่เฉินหวนเหลือบมองผู้ที่คุกเข่าอยู่กับพื้นด้วยสายตาเย็นชา เขาได้กลิ่นสุราก็จริง ทว่าแววตากลับกระจ่างชัดยิ่ง! ไม่มีวี่แววของความเมามายสักกระผีก!

"ไม่เป็นอันใดแล้ว เจ้าไปผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เถอะ" ฟู่เฉินหวนพาลั่วเยวี่ยอิงออกไปจากห้อง

"ทุกท่านที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ควรแสร้งทำเป็นมิเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ หากมีผู้ใดกล้าแพร่งพรายออกไปข้างนอกแม้สักคำเดียว ข้าจะไม่ละเว้นพวกท่านแน่!" ฟู่เฉินหวนเอ่ยวาจาข่มขู่ด้วยท่าทีขรึมเคร่งอยู่นอกประตู

ลั่วชิงยวนเฝ้ามองดูเงียบ ๆ ด้วยแววตาเยียบเย็นใต้ต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลนัก จากนั้นนางก็กำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว

ไฉนนางถึงต้องกลับมาเห็นภาพเหตุการณ์ฉากนี้ด้วย?

ไฉนจึงรู้สึกไม่สบายใจเช่นนั้น?

ฟู่เฉินหวนเองก็เห็นเงาร่างสีขาวเช่นเดียวกัน

ลั่วเยวี่ยอิงขดตัวด้วยความหวาดกลัวแล้วซุกอยู่ในอ้อมแขนของเขา ยามที่ทั้งสองคนเดินผ่านลั่วชิงยวนไป สายลมก็ตลบผ้าคลุมหน้าขึ้นมา

ภายใต้หน้ากากอันแสนอัปลักษณ์ เห็นเพียงสายตาที่ออกจะเย็นชาอยู่บ้าง

เมื่อลั่วชิงยวนเห็นแววตาเสียดแทงราวกับคมดาบของฟู่เฉินหวน นางก็จ้องมองด้วยสายตาว่างเปล่าพลางรู้สึกแน่นหน้าอกจนแทบหายใจไม่ออก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย