ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 392

“ระวังหน่อยสิ อาการบาดเจ็บของเจ้ายังไม่หายดีเลยนะ”

ลั่วชิงยวนสะดุ้งตกใจอยู่บ้างแล้วหันไปมองเขา

ในสายตาลึกล้ำคู่นั้น มีแววหวั่นวิตกราวกับว่ากำลังประจันหน้าสิ่งชั่วร้ายอย่างไรอย่างนั้น

นางลุกขึ้นยืนตรงแล้วเบนสายตาออกไป

ภายในห้อง ฮูหยินใหญ่ฟ่านโทษตนเองด้วยความรู้สึกผิด นางพร่ำรำพันวาจาจากใจจริงอันชวนให้ประทับใจออกมามากมาย

จากนั้นนางก็บอกลั่วหรงว่า “หลังจากฝังศพของท่านมหาราชครู ข้าคิดจะพาคนทั้งตระกูลออกจากเมืองหลวงแล้วกลับไปอาศัยอยู่บ้านมารดาของข้าในซีหยาง ท่านคิดเห็นอย่างไร?”

ตระกูลเดิมของฮูหยินใหญ่ฟ่านเป็นพ่อค้าวาณิชอยู่ในซีหยาง เนื่องจากมีคนในตระกูลไม่มากนัก พวกเขาจึงต้องการบ้านสักหลังซึ่งเพียงพอให้ตระกูลของพวกเขาดำรงชีวิตและลงหลักปักฐานได้

เมื่อลั่วหรงได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็กุมมือของลั่วหลางหลางด้วยท่าทีฝืนใจ

ถึงแม้ว่านางจะไม่เต็มใจ แต่นางก็รู้ว่ามีเพียงแค่การไปจากเมืองหลวงอันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายเท่านั้น นางจึงจะรู้สึกปลอดภัย

“เอาล่ะ! ไปซีหยางเถอะ อย่างน้อยที่นั่นก็สงบสุขกว่า”

ลั่วหลางหลางพลันหลั่งน้ำตาแล้วคุกเข่าลง "ท่านแม่เจ้าคะ!"

ลั่วหรงเองก็หลั่งน้ำตาเช่นเดียวกัน นางประคองอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นแล้วเช็ดน้ำตาบนแก้ม "ฟังให้ดีนะ จงไปซีหยางแล้วอยู่ให้ห่างจากเมืองหลวงอันแสนวุ่นวายแห่งนี้ บางทีเจ้าอาจจะใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุข"

ลั่วชิงยวนพิงผนังแล้วให้รู้สึกสะเทือนใจที่ได้ทราบชะตากรรมของลั่วหลางหลาง

หามีความรุ่งเรืองมั่งคั่ง มีเพียงแค่ชีวิตอันสงบสุข

เดิมทีเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าพึงพอใจ

ทว่านางกลับหาทราบไม่ว่า ชีวิตสงบสุขเฉกเช่นนี้จะเริ่มต้นด้วยความตายของท่านมหาราชครู

ลิขิตสวรรค์มิอาจแพร่งพราย โชคชะตาที่ร้อยรัดผู้อื่นเข้าด้วยกันก็จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ต่างกันออกไป

ชะตาของผู้คนในใต้หล้าหมุนเวียนเปลี่ยนผันอยู่ตลอดเวลา

ตระกูลลั่วกำลังตระเตรียมงานศพของท่านมหาราชครู ส่วนลั่วชิงยวนกับฟู่เฉินหวนเองก็ออกจากจวนมหาราชครูเช่นกัน

ฟู่เฉินหวนเข้าวังทันที ลั่วชิงยวนไม่สะดวกที่จะตามเขาไปด้วยจึงกลับตำหนักอ๋องมาตามลำพัง

“พระชายา ท่านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ? สีหน้าดูมิดีเลย” เมื่อจือเฉาที่กำลังรอคอยนางอยู่ตรงประตูเห็นว่านางกลับมาแล้ว ก็รีบเดินเข้าไปต้อนรับ

“มิเป็นไร”

ทันทีที่เข้ามาในเรือนก็รีบเดินตามหลังนางมา

จือเฉาจึงประคองลั่วชิงยวนกลับห้องไป

ลั่วชิงยวนครุ่นคิดถึงความหมายของนิ้วมือเล็ก ๆ ที่ถูกตัดขาดมาตลอดทาง

ยิ่งนางนึกถึงเรื่องนั้นมากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งรู้สึกแปลก ๆ มากขึ้นเท่านั้น “จือเฉา เจ้ากลับไปก่อนเถอะ ไม่ต้องตามมาหรอก”

นางหันหลังกลับไปด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว

นางเดินลัดเลาะเรือนชั้นในจนเห็นเงาร่างของซูโหยวดังคาด จากนั้นนางก็แอบติดตามเขาไป

เป็นอย่างที่คาดคิดเอาไว้เลย

เขาเดินมาที่เรือนทักษิณา

เรือนทักษิณาแยกโดดเดี่ยวและแทบจะไม่มีคนรับใช้เลย ครั้นตามเขามาจึงหามีผู้ใดสังเกตเห็น

เมื่อนางโผล่ศีรษะออกนอกกำแพงเรือนทักษิณา นางก็เห็นซูโหยวเคาะประตูเรือนของหมอกู้

ซูโหยวยื่นกล่องผ้าปักดอกให้เขาพลางถามว่า “ท่านต่อนิ้วมือที่ขาดออกมาแล้วได้หรือไม่?”

หมอกู้มองดูแล้วส่ายหน้าด้วยท่าทีเคร่งขรึม “มิได้หรอก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย